ฟังเรื่องปลาถูกข่มขื่นมาราว 2 สัปดาห์ และล่าสุดเมื่อวานนี้ มีผู้อาวุโสด้านการอนุรักษ์ปลาแวะมาหา ด้วยธุระ 2 - 3 เรื่อง จึงสอบถามเรื่องที่ฟังมา เขารับว่าเป็นความจริงพร้อมบอกเล่าเรื่องราวสำทับที่ผมได้ฟังมาก่อนหน้า
ผมฟังแล้วเห็นว่า คิด ๆ อยู่ว่า จะไม่เขียน ไม่บอกเล่า ไม่ยอมสื่อสารใด ๆ แล้วภายหน้า เกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ ครั้นจะระบุหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ฤาใครอยากเสียหาย-เสียชื่อ เลยขอเขียนไว้เป็นเรื่องเล่าว่าเกิดบนแผ่นดินนี้ไว้ ก็แล้วกันแล้วค่อยขยายความกัน หากไปกระทบต่อมสำนึกใคร ที่ไหนได้โปรดรับรู้ว่าไว้โปรดตระหนักว่า การใช้มติโดยขาดความรอบคอบ จะสอนลูกหลานภายหน้าลำบาก
เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้ามีการอนุรักษ์ปลาตามลำน้ำ แต่เมื่อมีโครงการทำผนังกั้นตลิ่งพัง ด้วยความหวงใยหรือไม่คาดคิดอะไรประการใด บ้างว่าเกรงปลาหนี เลยมีมติประชาคมกั้นลำน้ำจับปลา โดยใช้การขายบัตร ทราบมาว่าได้เงินเข้าหมู่บ้าน 5 พันบาท กั้นแม่น้ำหัวท้ายแล้วเกรงครหา เลยไปเชิญประมงมาเก็บพันธุ์ปลาบางส่วนไปเพาะพันธุ์ คนที่ไม่เห็นด้วยเขาว่า ผู้มีใจบุญที่มาร่วมอนุรักษ์เสียความรู้สึก เพราะเขตนั้นเป็นเขตอภัยทาน จึงไม่ควรมีการข่มขื่นฆ่าใด ๆ
ความเห็นแตกต่างกันไป ผู้คัดค้านไม่กล้า เพราะเป็นมติประชาคมอะไรทำนองนั้น ( ประชาคม ๆ ๆ ๆ ) เลยกลายเป็นความชอบธรรม เพื่อให้เขาข่มขื่น ( ฆ่า ) ปลา ที่อนุรักษ์ไว้ การเขียนการการศึกษาติดตามของผม หวังว่าจะทำให้สังคม ผู้ใช้คำว่า ประชาคมได้ตระหนักว่า ไม่ควร ๆ ๆ ๆ นำมติมาทำลายสิ่งดีงามที่พวกเขา เชิญชวนให้มีการอนุรักษ์ปลา ณ ลำน้ำ หรือห้วยหนองคลองบึง @
ไม่มีความเห็น