865. ทฤษฎี "ความจริง"
ผมชอบดูหนังประวัติศาสตร์ ล่าสุดที่ผมดูจบไปเป็นเรื่อง Roman Empire ที่อยู่ใน Netflix ..หนังพูดถึงยุคสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของโรมันคือยุคของจักรพรรดิ์ Marcus Aurelius และลูก เริ่มต้นดีแต่จบไม่ดีนัก... .. แต่ผมประทับใจการปรากฏตัวสั้นๆของมาคัส ออเรลเลียส เลยเอามาคิดเขียนต่อ.. จักรพรรดิโบราณท่านนี้มีชีวิตอยู่เมื่อสองพันปีก่อน โลกถือว่าท่านเป็นนักปราชญ์คนสำคัญของลัทธิสโตอิก ที่มีความคล้ายคลึงกับพุทธศาสนามากๆ เขียนหนังสือเรื่อง Meditations.. เป็นบันทึกประจำวัน ที่ท่านใคร่ครวญโลกภายในของท่าน...ดูคำคมที่ท่านทิ้งไว้นะครับ
Ref: http://elvindantes.com/post/13...
“ทุกสิ่งที่เราได้ยิน เป็นเพียงความเห็น มิใช่ความจริง
ทุกสิ่งที่เราเห็นเป็นเพียงมุมมอง มิใช่สัจจธรรม”
เป็นไงครับท่านสอนให้เราไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราได้เห็นได้ยิน ไม่แปลกท่านจะเป็นหนึ่งในผู้นำที่สร้างยุคทองของโรมัน
เรื่องของท่านผมติดตามมาเรื่อยๆ ศึกษาของท่าน...และได้แรงบันดาลใจครับ ..แรงบันดาลใจที่ว่าคือเรื่องของความจริงกับความเห็นครับ
ทำให้นึกถึงรูปนี้ ผมมักเอามาเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียน Appreciative Inquiry กับผม...
ท่านว่าจากรูปนี้ ท่านว่ามันเป็นรูปทรงอะไร ...
เวลาผมถามในชั้นเรียน ไอ้รูปง่ายๆ นี่ตอบกันไปคนละทาง...บางคนตอบสี่เหลี่ยม บางคนบอกวงกลม บางคนบอกว่ามันขึ้นกับมุมมอง
คุณจะเห็นว่า ถ้ามองมุมหนึ่งมันก็เป็นสี่เหลี่ยม...นี่ก็จริง มองอีกมุมเป็นวงกลม มันก็ดูจริง แต่ถ้าคุณมองรอบๆ ความเป็นจริงมันคือ... ทรงกระบอก...
จริงๆ คุณต้องดูรอบด้านครับ เพราะสิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่ความจริง แต่มันดูจริงเฉยๆ
เอามาใช้ยังไงครับ
ผมนึกถึงสมัยเด็กๆ ผมจะไปเรียนต่างประเทศ ผมก็หาข้อมูลมาเรียบร้อย บ้านผมมีเงินจำนวนหนึ่งไม่มากนัก สมมติสัก 10,000 บาทต่อเดือน กับค่าเทอมที่แสนจะพอดี สู้ๆนะ สองปีต้องจบเกินนี้คงยากแล้ว.. นี่คือเราจะได้ไปแล้วอยู่มาวันหนึ่งมีป้าเผือกเพื่อนแม่รู้ข่าว เลยแชร์ข้อมูลให้คุณแม่ฟังว่า “เนี่ยลูกฉันนะไปเรียนอเมริกา เรียนมาห้าปียังไม่จบเลย เสียให้มันเดือนละ 30,000” เห็นไหมครับนี่คือจริง มันดูจริงด้วย เห็นแบบนี้คุณแม่บอกว่าเรียนเมืองไทยก็ได้ลูก ก็ที่ผมคิดมามันไม่ใช่นี่ มันมีความจริงอีกชุดที่ดูแสนจริง ซึ่งถ้าผมยอมรับว่ามันจริง ป่านนี้ชีวิตคงไปอีกแบบ เพราะที่ทำอะไรได้มากทุกวันนี้ก็เป็นผลพวงจากการได้ไปเรียนต่อครั้งนั้น
ผมไม่ยอมครับผมไปหาเรื่องจริงเพิ่มเติม
ผมก็ไปถามเพื่อนช่ื่อ จอห์น บาน และตอนหลังก็เป็นเปิ้ล ค่าเรียนเป็นอย่างไร งบประมาณนี้ ระดับนี้ไปได้ไหม ที่สุดจอห์น บานก็ทำให้ผมได้ไปอยู่ที่ Texas A&M Commerce และเป้ิ้ลตอนหลังช่วยให้ผมได้ไปเรียนต่อจนจบปริญญาโท ที่ Virginia Tech ด้วยงบประมาณ 10,000 นิดๆ ที่ผมคำนวณไปตอนแรก
คำถาม....อะไรเป็นความจริงครับ ....
ถามว่าความจริงจากป้าเผือกจริงไหม ..ก็จริงครับ
ความจริงจากจอห์น บานและเปิ้ล จริงไหม...จริงครับ
ถ้าเรามองให้รอบด้านจะมีเรื่องจริงสองแบบ แต่ทั้งหมดรวมๆกันคือความจริง จริงไหมครับ ...
คำถามคือคุณจะเลือกเรื่องจริงแบบไหนไปใช้ประโยชน์ต่างหาก
เรื่องจริงของป้าเผือกเป็นเรื่องจริง แต่ไม่นำไปสู่โอกาส หรือความสำเร็จอะไร
ส่วนเรื่องจริงของเพื่อนผมมันจริง และนำไปสู่โอกาสดีๆ ...นี่คือความจริงที่ผมเลือก ...
บทเรียนเรื่องนี้สอนให้ผมรู้ว่า... ถ้ามีอุปสรรคอะไร ..เป็นไปได้ไหม ว่าคุณกำลังอยู่กับความจริง เพียงชุดเดียว ซึ่งชุดความจริงนั้น ทำให้เกิดความเห็นและมุมมองที่ทำให้คุณไปไม่ถึงไหน ..คุณต้องหาความจริงเพิ่มเติม ...อย่างผมก็ไปหาคนที่ประสบความสำเร็จอย่างเพื่อนสองคน ที่ไปอเมริกาด้วยต้นทุนใกล้เคียงกับผม ..
ฉะนั้นตอนนี้ถ้าคุณมีปัญหา ไม่สบายใจอะไร ขอให้มองเลย ว่าคุณต้องการข้อมูลใหม่ๆ
ข้อมูลใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ จะทำให้คุณเจอโอกาสใหม่ๆ
วิธีการที่จะทำให้คุณได้ชุดความจริง ซึ่งต่อไปนี้ผมขอเรียกว่า ข้อมูลใหม่
ทำได้ง่ายๆครับ ถามคนที่สำเร็จมาแล้ว ว่าทำอย่างไร คุณต้องหาคนที่สำเร็จ แล้วไปถามเขา เดวคุณได้คำตอบเอง ..โดยถามหาประสบการณ์ที่ดีที่สุดของเขา ว่าเขาทำอย่างไร จึงสำเร็จ นี่เรียกว่าวิชา Appreciative Inquiry ซึ่งคือคุณอยากทำอะไรให้ไปไกลกว่าเดิน จะพัฒนาคน องค์กร มีปัญหาอะไรเอามาตั้งไว้ จากนั้นไปถามคนในองค์กร นอกองค์กร ลูกค้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถามหาประสบการณ์ดีๆ ถามให้ถูกคน ก็จะได้คำตอบดีๆ มาแก้ปัญหา
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาผมสอนนักธุรกิจรุ่นใหม่ ...
โจทย์ง่ายๆครับ สร้างร้านกาแฟในฝัน ...คิดโน่นคิดนี่ จินตนาการสุดๆ ...พอผมถามว่า...
ตอนนี้มีตังค์เท่าไหร่... มี 50,000 บาท
เลยให้ข้อมูลเขา... นี่คุณจะมีโรงคั่วด้วยเหรอ รู้ราคายัง เครื่องคั่วนี่ลูกศิษย์ผมซื้อมา 5,000,000 เครื่องชงขี้หมูขี้หมาก็ 200,000
ชุดความจริงนี้ทำให้นักฝัน...ชะงัก...
ชะงักเพราะอะไรครับ
เพราะมันเป็นชุดความจริงที่ทำให้คุณไปต่อไม่ได้
ทำอย่างไร...ทำ Appreciative Inquiry สิครับ ...
เราทุกคนต้องเคยไปร้านกาแฟดีๆ มาแล้ว เลยตั้งคำถามหาความจริงใหม่ๆ เช่น ตั้งแต่เข้าร้านกาแฟมาชอบร้านไหนสุด ร้านนั้นดีไม่เหมือนคนอื่นตรงไหน ..ถามให้มากๆ หลายสิบคน ลูกศิษย์ผมถามหาข้อมูล หรือชุดความจริงๆ ใหม่ๆ จากคน 90 คน .อย่างผม ผมแชร์ข้อมูลร้านนี้ครับ ชื่อ Kong Coffee อยู่แถวระนอง เป็นร้านดังไปไกลถึงต่างประเทศ ...ร้านนี้ใช้การคั่วกาแฟในกะทะทองเหลือง... ไม่ต้องใช้เครื่องคั่วราคาห้าล้าน... เวลาทำก็บดสดๆ ชงไม่ต้องใช้เครื่องแพงๆ...
Ref: https://www.edtguide.com/revie...
ตอนนี้ผมกลับไปถามอีกรอบ ...เป็นไงบ้างความเห็นเปลี่ยนไหม... เห็นโอกาสไหม ...
คุณคงตอบได้เอง..นี่ไงครับ...ความเป็นจริง
ถามว่าพอรู้ข้อมูลนี้ ถามว่าร้านที่ใช้เครื่องคั่วราคาห้าล้าน จริงไหม ก็ยังจริงอยู่ แต่ตอนนี้คุณได้ความจริงอีกชุดว่าคั่วในกะทะก็ได้ ถ้าคุณอยากทำร้านกาแฟจริง ด้วยทุนจำกัด คุณเห็นทางออกแล้วใช่ไหมครับ
สุดท้ายพรปีใหม่จากครูอย่างผม ก็คงเป็น
"อย่าจำนนกับความทุกข์ หรือปัญหา หรือคำว่าไม่เห็นโอกาส ...ติดขัดอะไร ให้ไปค้นหาความจริงเพิ่ม อย่าหยุดอยู่กับชุดความจริงเดิมๆ เพราะถ้าคุณมีความจริงใหม่ๆ ก็จะทำให้คุณเจอโอกาสใหม่ๆ หากยังไม่เห็นโอกาส แสดงว่ายังหาข้อมูลไม่พอ..ไปถาม ไปหาความจริงครับ ถามหลายๆคน ค้นหาจากหลายแหล่ง ถามมากๆ ค้นมากๆ คุณจะเจอหนทางของคุณเอง"
และสุดท้ายดีใจที่ได้เขียนบทความถึงท่านมาคัส จักรพรรดิในดวงใจของผมสักที ลองหาหนังสือของท่านมาอ่านนะครับ มีแปลเป็นไทยแล้ว
ขอให้โชคดีมีความสุขตลอดไปนะครับ
ด้วยรักและปราถนาดี
ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์
www.aithailand.org
ความเห็น (3)
เป็นความที่สะท้อนความจริงมาก …มุมมองของผมคือมองตัวเองก่อนเสมอ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา อายตนะทั้ง 6+1 พาพบเจอ
เป็นบทความที่สะท้อนความจริงมาก …มุมมองของผมคือมองตัวเองก่อนเสมอ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา อายตนะทั้ง 6+1 พาพบเจอ
หาข้อมูลทั้งสองด้านทั้งสำเร็จไม่สำเร็จ แต่สำเร็จสร้างพลังบวกนำมาปรับกับบริบทของตนเองมองหาและสร้างpassionของตนเองจะทำให้เกิดความมุ่งมั่นแล้วไปต่อ