Vulnerabilities...ช่องโหว่จุดอ่อนเป็นความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดภาวะอันตราย....คิดว่าสิ่งไม่ดีนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับตน
- กรณีครูเหยี่ยวเลือกที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยไม่ปฏิบัติการบินในท่าที่เสี่ยงอันตรายในการบินฮอลิคอปเตอร์ชีนุกส์ โชว์ในงานนิทรรศการ 100 ปีบุพการีประวัติศาสตรการบินไทย ที่สนามบินดอนเมือง
- แต่การฝึกการบินทางยุทธวิธียังทำให้ผู้ปฏิบัติการบินทางยุทธวิธีบางท่านมีความเชื่อว่าการทำให้ได้ มีความจำเป็นต้องทำเพราะความเชื่อมั่นและมั่นใจในคนและระบบ
- ครูบัญชาได้สอนให้หลีกเมฆ รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ยังใช้ได้มาจนทุกวันนี้ครับ.... เพราะเราเรียนรู้เพื่อหลบหลีกมิใช่เรียนรู้ที่จะฝ่าลุยไป ต้องหลบก่อนแล้วหากถึงที่สุดแล้วจะต้องเจาะเข้าก็ต้องเลือกจุดเสี่ยงน้อยสุดที่จะเข้า การจะเสี่ยงได้กรณีเดียวคือไม่ทำแล้วจะถูกยิงตก รองอธิบดี บพ.รองประสงค์ฯย้ำหยักหนาว่าการลงแบบใช้ทางวิ่งสั้น Shot landing Distance นั้นใช้กับเครื่องทหารหากเป็นพลเรือนนั้นเลี่ยงอย่างเดียว ภาวะปกติไม่จำเป็นต้องใช้
- การนำค่าความปลอดภัยเผื่อ safety factor ที่เขาออกแบบเผื่อให้ใช้ในกรณ๊ไม่ปกติมาใช้เป็นปกติทุกครั้ง พอเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติก็เลยไม่เหลือค่าเผื่อได้อีก ภาวะอันตรายก็เกิดทันที แก้ไม่ทันเพราะ เมื่อเกิดภาวะไม่ปกติก็จะไม่มีค่าเผื่อเหลือให้ใช้ในการปฏิบัติ emergency procedure หรือแผนฉุกเฉินแผนเผชิญเหตุ
- เหตุการณ์อันตรายจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเกิดเป็นปมความกลัวหวาดผวาในหัวใจเด็ก - Impression in heart - UNICEF
- ดรัมเมเยอร์หากเป็นการเดินบรรเลงสวนสนามวงใหญ่จะหลีกเลี่ยงการโยนคฑาสูงสองรอบ จะปล่อยคฑาลงมาตรงๆความผิดพลาดเป็นศูนย์ เช่นงานจตุรมิตร จะโยนสูงเฉพาะวงที่มีเฉพาะหน่วยเราเองผิดพลาดแล้วเยียวยาได้ง่ายกว่า เช่น งานสวนสนามลูกเสือ เพราะผิดแล้วเกิดความเสียหายเฉพาะวงเฉพาะจุดเล็กกว่า ความเสียหายแวดกว้างก็จะเลี่ยงเสีย แบบนี้ครับ
- หรือนี่จะเป็นอาถรรพ์!!!ขนลุกทั้งโซเชียล กับข้อความลางสังหรณ์ของ”กัปตันจักรี” ที่โพสต์ก่อนเครื่องบินตก
จากกรณี อุบัติเหตุ เครื่องบินขับไล่กริพเพน (JAS 39 Gripen) ตกขณะโชว์แสดงในวันเด็ก ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณ หัวทางวิ่ง 26 ฝั่งการท่าอากาศยาน ภายในรั้วสนามบิน กองบิน 56 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาต่อหน้าเด็กๆ และผู้ปกครอง ทำให้
ล่าสุดโลกโซเชียลได้แชร์ข้อความจาก เฟ๊ชบุ้กของ จักรี ดารารัตน์ จงศิริ กัปตัน , ครูการบินและนักบินเทคนิค ฝูงบินโบอิ่ง 734 ซึ่งได้โพสต์ข้อความเหมือนเป็นลางสังหรณ์
- ความเสี่ยงที่มีความเสียหายระดับสูงสุด แค่มีโอกาสน้อยสุด ก็ต้องมีมาตรการป้องกัน มาตรการแรกคือให้บินในทิศทางขนานไปกับฝูงชนคนเข้ามาดู แต่เมื่อเริ่มถี่บ่อย ก็ต้องมีมาตรการ มาตรการที่เลี่ยงความเสี่ยงได้คือ หลีกภาวะที่ก่อให้เกิดอันตราย ปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งก็คือท่าไหนเสี่ยงก็งดทำ แบบนี้ความเสี่ยงจึงจะลดได้จริง เช่น....บินเกาะหมู่ทหารทำเพราะต้องป้องกันอากาศยานต่อการถูกยิง การcirclingเลี้ยวลดระดับลงเพราะต้องรีบลงลดเวลาการ่เป็นเป้ายิงของข้าศึกแบบนี้ ทางทหารนับว่าจำเป็นต้องฝึกซ้อม จึงจำเป็นอย่างยิ่งต้องแยกแยะให้แน่ชัดว่า ภารกิจทางพลเรือนแล้วมิได้เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำเพราะด้วยความเป็นศักดิ์ศรีหรือเพื่อพิสููจน์ความสามารถ ส่วนการปฏิบัติการบินหมู่ทางพลเรือนหรือเกษตรก็อาจทำได้เพราะมีภารกิจจำเป็น เช่น การเข้าโจมตีฐานเมฆด้วยเคมี แบบนี้เป็นต้น แต่งานโชว์เป็นงานที่ต้องเลี่ยงภาวะอันตรายดังที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
- การแข่งขันได้เปลี่ยนบทบาทเพื่อให้สำเร็จวัตถุประสงค์ทางกีฬา เช่น การแข่งกีฬาความเร็ว เช่น Motor sport ปัจจุบันหันไปแข่งกับสมรรถนะตนเองและสมรรถภาพของอุปกรณ์กีฬาเพื่อเอาชนะเวลาของตนเอง(Time Attack) แบบนี้ปลอดภัยมากกว่าและกดดันน้อยกว่า เพราะใช้สมาธิกับสติได้เต็มที่ ไม่เกิดอารมณ์หุนหันพลันแล่น(ขาดสติมากำหนดทำตามความคิดแรก ทำตามอารมณ์ชั่ววูบ)ได้ดีที่สุดอีกด้วยครับ
ไม่มีความเห็น