เวลาเราเจอคนบ่นมากๆ รู้สึกยังไงครับ...?
นั่นแหละ ลองมองย้อนมาที่ตัวเรา เวลาเราเครียด เราก็บ่นเหมือนกัน !
.
บ่นเป็นเรื่องธรรมชาติ มนุษย์ต้องระบาย ไม่งั้นอัดอั้นไว้ จะยิ่งแย่.
โลกยุคนี้ ความเครียดสูง เราจะพบว่า เราอยู่ในสังคมแห่งการบ่นทั้งออฟไลน์ และออนไลน์.
เปิดเฟซมาก็เจอทันที บ่น บ่น บ่น และส่วนมากยกระดับเป็นการ ด่า
.
เราเองก็คงอดที่จะบ่น (และด่า) ไม่ได้
แต่เราต้องรู้จักวางตัวอยู่บนสายกลาง บ่นแต่พองาม ให้พอสบายใจ
อย่าบ่นพร่ำเพรื่อ อย่าด่าใส่อารมณ์จนลืมตัว จะสร้างความรำคาญต่อคนรอบข้าง เสียภาพพจน์
และที่เลวร้ายที่สุด เป็นการฝังความทรงจำแย่ๆ ลงในจิตใต้สำนึกเราเอง
แล้วก็จะเกิดแรงดึงดูดเรื่องเลวๆ เข้ามาหาเรา
แล้วเราก็บ่นซ้ำเข้าไปอีก ก็โดนอีก เป็นวงจรอุบาทว์ ไม่มีที่สิ้นสุด...
.
ส่วนบ่นที่สร้างสรรค์ คือบ่นจบแล้วคิดหาทางแก้
แก้อย่างสร้างสรรค์ ...ไม่ใช่แก้แค้น...!!
เช่น โดนคนทำร้ายทางวาจา เราบ่นแล้วก็คิดว่า จะแก้ไขอย่างไร เมื่อเจอไอ้คนนี้อีก
ด้วยวิธีสันติ หรือวิธีจบให้ดีที่สุด ไม่สร้างการแก้แค้น กลับไปกลับมา...
.
เราคงหลีกไม่พ้นสังคมของการบ่น
แต่เราเปลี่ยนเป็นบ่นอย่างสร้างสรรค์ได้ ในทุกๆ เรื่อง
เป็นการพัฒนาสติปัญญาดีเสียอีก
ยิ่งบ่น ยิ่งฉลาด...
เมื่อช่องทางการสื่อสารมากขึ้น คนเราก็มีช่องทางในการบ่นมากขึ้นตามไปด้วย ;)…
ผมไปไกลถึงขั้นละเมอ เพ้อคำหยาบๆ ออกมาด้วยครับ ภรรยาต้องคอยเตือนประจำ…..
ผมคิดบวกไว้ว่า การบ่น อันหมายถึงทำไปบ่นไป คืออีกหนึ่งกระบวนการของการจัดการความรู้ของชีวิตมนุษย์….ครับ
555 เราเลี่ยงบ่นไม่พ้น ก็เปลี่ยนเป็นบ่นอย่างสร้างสรรค์ได้ครับ