๙ต่อทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน

"อาสาสมัครให้เป็นดั่งต้นไม้ให้ร่มเงา พอผลัดใบ ต้นไม้ก็ยิ่งแตกกิ่งก้านใบตามฤดูกาลอย่างงดงามและยั้งยืน"

ศูนย์ประสานงานเครือข่ายิสิตจิตอาสาเพื่อสังคม เป็นองค์กรที่ทำงานด้านจิตอาสาหรือาสาสมัครบนฐานเหตุการณ์สำคัญๆ คือ ภัยพิบัติ ทั้งที่มีต่อผู้คนในภูมิภาคอีสานและอื่นๆ รวมถึงเหตุการณ์เสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นำมามาซึ่งการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เชิงสังคมถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม บนฐานกิจกรรมการเป็นที่พึ่งของสังคมและชุมชนตลอดมา ในรั้ว มมส

ผมได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมตรงนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า จิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัย และพื้นที่ทำความดีเพื่อพ่อ เพื่อแผ่นดินเกิดอันเป็นที่รักยิ่ง จนมาถึงการจัดตั้ง เครือข่ายฯอย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ก็พาทำจากสถานการณ์หลักที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ฝนตกน้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง ปัญหาบ้านเมือง และการจัดการองค์ความรู้ การทำดีในรูปแบบต่างๆ โดยการหนุนเสริมจากทีมงาน องค์กร กลุ่มงานกิจกรรมนิสิต กองกิจการนิสิต และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันที่ 13 ตุลาคม 2561 ผมเเละคณะทำงานได้ร่วมกันสร้างความดี บนฐานอาสาสมัครเพื่อสังคม เพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรโดยกำหนดจัดกิจกรรมทำดี ตลอดทั้งวัน เริ่มจากช่วงเช้า พิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร กิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นราชกุศลฯ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ตีเส้นจราจร และทำความสะอาดอาคารพัฒนานิสิต ทำเก้าอี้ไม้สำหรับรอรถรางบริเวณหอพักในมหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการ ๙ต่อทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน

(ภาคเช้า) ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ คณะทำงาน พี่น้องนิสิต มมส ให้ความสำคัญเข้าร่วมกิจกรรม ท่านอธิการบดี(ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช) รองอธิการบดี (ดร.มลฤดี เชาวรัตน์) ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต (นายสุนทร เดชชัย) ร่วมทำบุญตักบาตรเช้า ถวายภัตตาหาร และให้เกียติในการมอบป้ายเปิดศูนย์ประสานงาน พร้อมมอบเกียติบัตรให้นิสิตที่ช่วยเหลืองานกิจกรรมด้านจิตอาสาศูนย์เครือข่ายจิตอาสาเพื่อสังคม

ท่านอธิการบดีเยี่ยมชมนิทรรศการ ๙ต่อ ทำดีเพื่อพ่อ ทำดีเพื่อแผ่นดิน เยี่ยมชมห้องทำงาน และพูดให้กำลังใจทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า "ดีใจและยินดีสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง อาจารย์ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีกลุ่มเครือข่ายจิตอาสาแบบนี้ ควรที่จะส่งเสริม เป็นผลผลิตอย่างดีของมหาวิทยาลัย นี่คือสิ่งที่เป็นตัวชี้วัด ตอนนี้ทุกที่ต้องการคนดี ไม่ใช่เก่งอย่างเดียว แต่อาจารย์ก็พยายามทำเป็นตัวอย่างนะ ตามคำสอนในหลวง อาจารย์สอนตัวเองก่อน แล้วจึงสอนคนในบ้าน แล้วก็คนทำงานกับอาจารย์ เดี๋ยวจะสนับสนุนอีกนะมันน้อยไป อย่างน้อยก็ได้ช่วยค่าข้าวค่าน้ำเวลาทำกิจกรรมก็ดี อยากจะฝากให้ช่วยดูแลคนในบ้าน" และท่านก็ได้ลงไปเยี่ยมคนบริจาคโลหิต ณ ลานอาคารพัฒนานิสิตชั้น 1 และตีเส้นจราจรกับนิสิต แล้วก่อนกลับท่านยังฝากงานช่วงเย็นให้ท่านรองดูแล

(ภาคบ่าย)การเตรียมโค๊ดแปรภาพอักษรถวายความอาลัย ก่อนที่จะลงหน้างานก็ตั้งวงประชุมเล็กๆสรุปงานตอนเช้า และวางแผนงานตอนบ่ายและค่ำ คาดการณ์สภาพดินฟ้าอากาศและปริมาณคน ลุยงานกัน โดยมีองค์กรที่มาช่วยได้แก่ ๙ต่อBeforAfter ชมรมเดินตามรอยเท้าพ่อชมรมรุ่นสัมพันธ์ ชมรมต้นกล้าพันธ์ดี ชมรมสานสายใยร่วมชายคา ชมรมอาสายุวกาชาดชมรมคริสเตียนนานาชาติ โดยไม่ได้นัดหมายแต่มาด้วยความสมัครใจ ได้ช่วยกันการหั่นต้นกล้วยเป็นแว่นและเป็นกาบกล้วยเพื่อใช้ปักเทียนแปรภาพ วางโค๊ด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็เสร็จ ก็เตรียมสถานที่ช่วงค่ำ ด้วยความยิ้มแย้มเเจ่มใสสู้แดดเลยทีเดียวล่ะครับ

(ภาคค่ำ)ตั้งแต่เวลา 17.30 น. สายธารความดีพลังศรัทธาต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙หลั่งไหลมาทั้งนิสิต คณาจารย์ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ประชาชน ส่วมใส่เครื่องแต่งกายเสื้อสีเหลือง บางท่านก็ชุดสุภาพ นิสิตก็ใส่ชุดนิสิต ทยอยมา ระหว่างงานมีการบรรเลงดนตรีสดจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ประกอบภาพฉายดิวิทัศน์ พระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้วยความน้อมรำลึกซ้าบซึ้ง เวลาเข้าสู่พิธีการ อาจารย์ดร.มลฤดี เชาวรัตน์ (รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต) นำกล่าวถวายคำน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและให้สัตย์ปฏิญาณ จากนั้นเป็นการแสดงรำอาลัยพ่อจำนวน 16 ชีวิต ตามด้วยการร้องหมอลำรำลึกพ่อหลวงปวงไทย(ปูเป้ มัลลิกา ชายทวีป) ร้องเพลงเล่าสู่หลานฟัง(นายประวิทย์ ทวีวาร) ร้องเพลงฟ้าร้องไห้(บอย ศิริชัย) จากนั้นก็จุดเทียนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ แล้วร้องเพลงรักพ่อไม่มีวันพอเพียงร่วมกันยืนสงบนิ่ง 89 วินาทีแล้วเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดั่งกึกก้องทั่วฟ้าจนทำให้หลายคนอดกั้นน้ำตาไม่อยู่ในความรำลึกถึงพระองค์จากนั้นก็ร่วมกันแปรภาพอักษรองค์พระบรมธาตุนาดูน เป็นสัญลักษณ์แทนความเป็นจังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางของตะวันออกเฉียงเหนือ จนได้รับการขนานนามว่า “สะดืออีสาน” ซึ่งมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบ ความรัก ความสามัคคี หลากล้นด้วยจารีตประเพณีและอารยธรรม โดยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือเมืองแห่งการศึกษาอีกแห่งหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือทีเรียกว่า “ตักสิลานคร” ซึ่งได้อัญเชิญองค์พระบรมธาตุนาดูน มาเป็นสัญลักษณ์หลักในตราโรจนากร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคามเลข ๙ หมายถึง ๙ต่อความดีตามแนวทางพระราชดำริ/ดำรัส/พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รวมถึงการสื่อถึงการขับเคลื่อนโครงการ ๙ต่อ Before After ระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคามกับสังคม เพื่อสืบสานการทำความดีจากรัชกาลที่ ๙ สู่รัชกาลที่ ๑๐

การน้อมรำลึกและบอกรักพ่อที่ดีอีกวิธีหนึ่งคือทุกคนได้มาร่วมกันำความดีเพื่อพ่อ ทำความดีเพื่อแผ่นดิน ความรู้รักสามัคคีการช่วยเหลือและแบ่งปันสังคม ด้วยการเรียนรู้ และเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาตนเองพร้อมบริการสังคม ผมเชื่อว่ากายที่เราทำ วาจาที่เราพูดในวันนี้ ใจที่เราคิดดีก่อนพูดและลงมือทำ คงทำให้พระองค์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ยิน และทรงดีใจ ที่ประชาชนในพระองค์ ยัง๙ต่อ ๙ตาม ๙เดิน ตามคำสอน ตราบนานเท่านาน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ธ สถิตย์ในใจชาวไทย มมส นิรันดร์

นายณัฐพล ศรีโสภณประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายนิสิตจิตอาสาเพื่อสังคม 2560-2561

[อ.ต๋อย]

ชื่นชมและขอส่งกำลังใจไปเต็มครับ

[เพชรน้ำหนึ่ง]

-สวัสดีครับ-ตามมาชมกิจกรรมของ ๙ต่อ มมส ครับ-ที่บ้านไร่ก็ทำกิจกรรมตามวิถีแบบ ๙ต่อ ครับ-ฝากภาพมาให้ชมครับ

[แผ่นดิน]

เครือข่ายนิสิตจิตอาสาเพื่อสังคม ถือเป็นนวัตกรรมของการพัฒนานิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อย่างไม่ต้องสงสัย ขับเคลื่อนการบ่มเพาะจิตอาสา และการทำงานของอาสาสมัครบนต้นทุนของตนเองและกระแสหลักของสังคมอย่างค่อยเป็นค่อยไป อีกหนึ่งสถานะก็เป็นเสมือนห้องเรียนให้นิสิต และองค์กรนิสิต ได้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน

และทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้อิงฤดูกาล เทอมละครั้งสองครั้งเหมือนองค์กร ทั่วๆ ไป -

ชื่นชมและให้กำลังใจ ครับ