860. "คู่มือการค้นหา IKIGAI"


คู่มือการสอน IKIGAI ของดร.ภิญโญ 

IKIGAI คือเหตุผลที่เกิดขึ้นมาแต่ละวัน ..เป็นสิ่งที่คนมาค้นพบว่าเกิดขึ้นกับชาวโอกิน่าว่า เชื่อกันว่า IKIGAI ทำให้คนที่นี่มีอายุขัยยืนนาน มีความสุข เลยเกิดการค้นหา ค้นคว้า เผยแพร่ มาเป็นศาสตร์ใหม่ ที่ยังใหม่ จริงๆ 

ผมสอนมาพักหนึ่งจนเปิดเป็น IKIGAI School และสอนไปมาก มีประสบการณ์อยู่บ้าง.  ล่าสุดลูกศิษย์ถามว่า อาจารย์ช่วยเล่าวิธีการสอน IKIGAI อย่างละเอียด step by step ให้หน่อย ... ผมเองเลยเอาประสบการณ์การสอน IKIGAI มาแชร์ดังนี้นะครับ

จะมีสามส่วน ส่วนแรกคือปรับความเข้าในเรื่อง IKIGAI กันก่อน แล้วสอน และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังทำ IKIGAI

ก่อนทำ IKIGAI...

ทำตวามเข้าใจกันก่อน

  1. ควรศึกษาหาความรู้เรื่อง IKIGAI ที่มีการเขียนขึ้นมาในโลกให้มากที่สุด... ส่วนใหญ่ผมซื้อมาจาก KINDLE AMAZON
  2. IKIGAI เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ไปค้นพบว่าเป็นสิ่งที่คนโอกิน่าที่ขึ้นชื่อว่ามีอายุยืนที่สุด สุขภาพกายใจดีที่สุดในโลก จะบอกว่ามี IKIGAI ทุกคน  มันมีหน้าตาอย่างนี้  เป็นฝรั่งไปวิจัยสรุปมา

3.  ข้อสังเกตุ ที่ผมเจอมาทุกเล่มเท่าที่อ่านมาถึงสองสามเดือนหลังนี้ ไม่มีเล่มไหน เขียนโดยคนโอกินาว่า 

4. ในญี่ปุ่นเองความเข้าใจเรื่อง IKIGAI ก็ไปคนละทาง..บางกลุ่มเชื่อเป็นเพียงการวางแผนหลังเกษียณเท่านั้น... บางคนคิดว่าเพื่อครอบครัว บางคนทำเพื่อกลุ่มของตนเอง ทำเพื่อบริษัท.. แล้วไหงฆ่าตัวตายเยอะจัง  อายุก็ไม่ยืนหรือมีสุขภาพจิตดีอย่างคนโอกินาว่า

5. จริงๆ มันมีอย่างอื่นประกอบอีกเช่นอาหาร หรือประเพณี

6. ไม่เท่านั้น ตัวอย่างเรื่องคนมี IKIGAI กลายเป็นคนในถิ่นอื่นไม่ใช่โอกินาว่า เช่นจิโร่ เชพซูชิไม่ใช่คนโอกินาว่า

7. อาจารย์ผม เพื่อนผมที่ไปโอกินาว่าบอกว่าคนที่นั่นไม่รู้จักวงจรข้างบน แต่ก็บอกว่าเท่าที่ดูมีอะไรสอดคล้องกับรูปที่ฝรั่งคิดมา

8. แล้วจะเชื่อใคร ...ลองถามตัวใจตัวเอง ลองสืบค้น เท่าที่ดูน่าจะมีความสอดคล้อง ... ล่าสุดผมทำ Workshop ด้านสาธารณสุข มีคนเจอคนสูงอายุในขอนแก่น ที่ยังขายพริก ทำอะไรด้วยตนเอง แข็งแรงมาก อายุ 80 ฟันไม่ผุ ไปถามว่าทำไมยังทำอยู่ ท่านบอกอยากให้ลูกค้าได้กินพริกดีๆ  นี่เข้า Concept เป๊ะ เอาสิ่งที่หลงใหลไปแก้ปัญหาคนอื่น ให้ได้พริกดีๆ แล้วเป็นอาชีพ เลยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

9. ไปทำเรื่องการเงินในโรงงาน ปรากฏว่าคนที่เงินเดือนสูง ก้าวหน้าในอาชีพ และทุกคนรัก...จะเป็นประเภทมี passion เจาะลึก มีความรู้ และชอบช่วยเหลือคนอื่น...คล้ายๆ IKIGAI 

10. ยังไม่พอครับ ผมทำ Appreciative Inquiry Workshop เรื่องการสร้างแรงบันดาลใจ คือบริษัทที่ผมไปพนักงานบอกว่าไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจ พอถามเขาว่าตอนที่มีแรงบันดาลใจมากที่สุดเกิดอะไรขึ้น ทั้งหมด บอกว่าการได้ช่วยเหลือคนอื่น ..หรือการพัฒนาตนเองจนสามารถไปช่วยคนอื่นได้ ..เข้าแนว IKIGAI มว๊าก...

10 .ผมเลยอนุมานว่าวงจร IKIGAI ที่เห็นน่าจะใช้ได้ 

11. ผมลองเอามาใช้มาสองสามปี เจอลูกศิษย์หลายคน ที่ค้นพบตัวเอง ทำให้สามารถสร้างธุรกิจจนไปไกลกว่าเดิม ในเวลาที่รวดเร็ว แถมมีความสุขใจที่ได้ทำ ..ผมเลยเชื่อว่าวงจรนี้ใช้ได้จริงแน่นอน  

12. แต่ IKIGAI เป็นเพียงทิศทางในชีวิต บางคนมีอะไรที่ไกล้เคียงอยู่แล้ว ก็ต่อยอดไปได้เลย แต่บางคนอาจเจอแค่รางๆ ส่วนหลังจะมากกว่า .. ต้องใช้เครื่องมืออื่นช่วย 

13. เครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยได้ดีมากๆ ของผมคือ Appreciative Inquiry คนอื่นอาจเป็น Coaching แล้วแต่ถนัด  ถ้าจะพัฒนาต่อยอด ไปเป็นอาชีพ ต้องผสมเช่น Business Mode Canvas จะช่วยได้มาก ที่สำคัญคือทำจริงๆ ...ถ้าเขาไม่ทำ...ก็คิดใหม่ได้เลย เพราะไม่ใช่ IKIGAI  เพราะฉะนั้นคนสอนต้องรู้จักเครื่องมืออื่นมาช่วยเติมเต็ม... หรือไม่ก็ต้องรู้ว่าจะส่งต่อไปที่ใคร..

มาหา IKIGAI กันครับ

  1. IKIGAI  แปลว่าสุขทุกวันเกิดจากการที่ผู้นั้นค้นพบความหลงใหลของตนเอง (Passion) แล้วเอาไปช่วยคนรอบข้าง ในวงกว้าง ...โดยมีอาชีพรองรับ
  2. ผู้สอนควรหา IKIGAI ของตัวเองให้เจอก่อนไปสอนคนอื่น ลักษณะของการมี IKIGAIคือมันเกิดความดื่มด่ำกับสิ่งที่ทำ สนุกที่จะทำไม่หยุด ไม่รู้สึกว่างานเป็นงาน 
  3. เมื่อเริ่มสอน ผมจะถามก่อนว่าในห้องเรียนนี้ ช่วยบอกสิว่าแต่ละวันเหตุผลที่ท่านตื่นมา ท่าตื่นมาเพื่อนอะไร ...” จะได้คำตอบหลวม กว้างๆ เช่นตื่นมาเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตื่นมาเพื่อลูก ..เกิดมาเพื่อใช้กรรม... 
  4. จากนั้นผมจะเปิด Clip IKIGAI ที่ สัมภาษณ์จากปากคน OKINAWA  ผมมักใช้ Clip นี้สอนตอนเปิดตัว โดยตรง... 

5. เชิญชวนให้ชั้นเรียนช่วยกันถอดบทเรียน ...ก็จะพบว่าคำตอบต่างจาก workshop แรกคือ คนโอกิน่าว่า จะมีทิศทางชัดเจน เช่นตืนมาเพื่อเฝ้ามองการเติบโตของลูกศิษย์ พ่อค้าบอกตื่นมาเพื่อทำให้ลูกค้ามีความสุข   

6.ลองให้เขาเปรียบเทียบ จะเห็นคล้ายๆ ทุกครั้งที่ทำคือ คนไทยตื่นมาเพื่อทำอะไรให้ตนเอง เพื่อครอบครัว เป็นเหตุผลกว้างๆ  แต่คนโอกินาว่าจะตื่นมาด้วยเหตุผลที่เป็นการให้คนอื่นในสังคม และมีทิศทางชัดเจนว่าทำอะไร ให้ใคร ...

7.บอกเขาต่อว่าจะดีไหม ถ้าเราคิดแบบโอกินาว่า ..เพราะแต่ะคนทำเพื่อคนอื่น สังคมน่ารักมากๆ ...พ่อค้าทำเพื่อให้ลูกค้ามีความสุข ผมเองอยากให้เกิดอย่างนี้ เพราะที่คุยมาในสายธุรกิจ ไม่ค่อยเห็นนักธุรกิจไทยทำอะไรแบบนี้ .. ครูจำนวนมากก็เอาแต่ปั้นเด็กเก่ง  

8. แต่ผมก็บอกว่าผมก็เคยเจอคนไทยแบบนี้ทั้งนักธุรกิจ ครู แต่ไม่มาก อยากให้เป็นอย่างนี้สักล้านคน 

9. เข้าเรื่อง เราก็พาหา IKIGAI  มาดูรูปที่ลูกศิษย์ผม ขุนพลทำให้ง่ายขึ้น


10. การหา IKIGAI เริ่มจากดูวงจรนะครับ ...ถามก่อนว่ารักอะไร  รักแปลว่าคุณคิดถึงสิ่งนั้นเป็นพิเศษ  เช่นถ้าคุณรักการศึกษา คุณจะทนไม่ได้ที่เห็นใครทำไม่ดีกับการศึกษา  ถ้าคุณรักความยุติธรรม คุณจะทนไม่ได้ที่ในองค์กรไม่มีความยุติธรรม ถ้าคุณรักความสะอาด คุณจะทนเห็นความไม่เป็นระบบระเบียบในบ้านเมือง ในองค์กรไม่ได้    ... .ให้เขาบอกมาสักสามเรื่อง แล้วให้เลือกเรื่องที่เขารักที่สุด 

11. จากเรื่องที่รัก เชื่อมโยงไปสิ่งที่โลกต้องการ เริ่มจากให้เขาลองเชื่อมหาปัญหาที่เขาเจอ เมื่อคิดถึงสิ่งที่รัก ... เช่นลูกศิษย์ผมคุณนิพนธ์ รักความยุติธรรม  เห็นปัญหาเลยว่าตอนที่เป็นเซลล์ขายหลังคาเหล็ก คู่แข่งหลอกลูกค้า เอาของไม่ได้คุณภาพไปขาย โดยเฉพาะหลังคาเหล็ก ที่มักหลอกความหนา ...คุณนิพนธ์เลยคิดว่า...ไม่มีใครในโลกอยากถูกหลอก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือร้านขายหลังคาเหล็กที่ซื่อสัตย์ ไม่นานคุณนิพนธ์ก็เปิดร้านหลังคาเหล็กตรารถถัง โดยมี Mission สำคัญคือไม่โกงความหนา..ทุกครั้งขายหลังคาเหล็ก ก็จะให้ลูกน้องวัดความหนาให้ลูกค้าดู  ตอนนี้บริษัทลูกศิษย์ผมเข้าตลาดหลักทรพย์ไปแล้ว...

12.จากนั้นให้เริ่มเข้ามาหาความเก่ง..เก่งเป็นอะไรที่เรียกว่คุณมีทักษะ ...ทักษะนั้นวัดง่ายๆ คือมักมีคนมาปรึกษาคุณ ขอให้คุณช่วย น่าแสดงว่าคุณมีทักษะ เช่นผมรักวิชา Appreciative Inquiry นี่ครับ แต่ผมมีทักษะการสอนผู้ใหญ่ (.โท) ขึ้น   

13. เอาทักษะกับความรักมาผสมกันจะได้ Passion หรือความหลงใหล ของผม ก็คือ Appreciative Inquiry+การสอนผู้ใหญ่ นั่นคือการสอน Appreciative Inquiry ให้ผู้ใหญ่  ..

14. เอา Passion มามองหาอาชีพ อาขีพอะไรที่จะทำให้คุณได้ใช้ Passion ได้อยู่กับ Passion ของคุณแบบสุดเหวี่ยง ได้ลงลึก ...  

15. อาชีพมีสองแบบเป็นลูกจ้าง กับเถ้าแก่...  ถ้าคุณอยากรับผิดชอบ ชอบบริหารคน ต้องไปยุ่งกับเรื่องเงิน และความเสี่ยง ก็มุ่งไปเปิดร้านครับ ...นิพนธ์ไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร ก็ไปเป็นเถ้าแก่เปิดร้านขายหลังคาเหล็กตรารถัง ผมเองไม่ชอบเป็นเถ้าแก่ ก็ไปเป็นลูกจ้าง 

16. ถ้าเป็นลูกจ้าง ก็มีสองแบบ อยากทำในองค์กรที่เขากำหนดนโยบาย หรืออิสระหน่อย  ถ้าอยากอิสระก็อาจารย์ ผมเลือกมาเป็นอาจารย์.. 

17 .คราวนี้มีเงื่อนไขถ้าเป็นอาจารย์คุณก็ไปเรียนป.เอกก่อน ..ไม่งั๊นสอนมหาลัยไม่ได้ ถ้าเป็นครู เป็นหมอ ทนายพยาบาล ก็ต้องไปได้ในอนุญาตกก่อน กลุ่มนี้เขาเรียก Profession แต่ถ้าเป็นเถ้าแก่ หรืออาชีพอื่น เช่นพนักงานขาย ไม่ต้องครับ นั่นเรียกว่า Vocation 


18.เมื่อได้ครบแล้วก็เอามาเขียนเป็นคำพูดว่าคุณเกิดมาเพื่ออะไร...

19. ใช้โครงสร้างง่ายๆ คือ ผม/ดิฉันชื่อ....ตื่นขึ้นมาแต่ละวันเพื่อเอาความหลงใหล เรื่อง...ไปช่วยแก้ปัญหาที่โลกต้องการคือ....โดยประกอบอาชีพเป็น....

20.ของผมคือ...ผมนายภิญโญ ตื่นขึ้นมาแต่ละวันเพื่อเอาความหลงใหล เรื่อง การสอน Appreciative Inquiry ให้ผู้ใหญ่ ...ไปช่วยแก้ปัญหาที่โลกต้องการคือ..ให้คนไทยคิดบวก (คิด คุยต่อยอด ไม่ใช่คิด คุยแบบติดลบ ตัดตอน) ..โดยประกอบอาชีพเป็น....อาจารย์ MBA

21. ตอนหลังผมย่อสั้นๆ คือเกิดมาเพื่อทำให้ Appreciative Inquiry เป็นภาษาที่สองของคนไทย 

22. ภายหลังผมประยุกต์ใช้เอา Tarot Card มาช่วยหา IKIGAI วันหลังผมจะสาธิตให้ดูครับ  ผมใช้ Roots of Asia ...จริงๆ ใช้อะไรก็ได้ แต่ การ์ดชุดนี้เหมาะกับผู้ใหญ่  เด็กจะดูไม่ค่อยออก ใครทำเกี่ยวกับเด็กลองหาวิธีการที่เหมาะกับเด็กดูนะครับ 



หลังการทำ IKIGAI 

มันจะมีเรื่องที่เป็นความท้าทายตามาอีก ต้องแก้เป็นกรณีๆไป

1.  ติดตามประเมินผล  ว่าหลังจากนั้นเขาเปลี่ยนแปลงอย่างไร เกิดธุรกิจใหม่ไหม เกิดความสุข เห็นทางจริงๆ ไหม ริเริ่มอะไรจริงจังไหม  เขาเปิดร้านเลยหรือเปล่า  หรือเปิดไปได้ไปสักพักแล้วมีปัญหาอะไรไหม  ถ้ามีมาหาทางออกกัน

2. ถ้าไม่เจออะไรที่ใช่เลย อาจเป็นเพราะเจ้าตัวมีนิสัย ทำอะไรก็ไม่เจาะลึก เป็นงานอดิเรกแต่ก็ไม่จริงจัง อาจต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ไปหาคนกลุ่มใหม่ เรียนอะไรใหม่ๆ จะมีโอกาสเจอครับ ผมเองเจอ Appreciative Inquiry จากการไปเรียนป.เอกครับ 

3. เด็กๆ จะยังไม่ชัดให้หา Hero ให้เข้าหาบุคคลต้นแบบที่สร้างประโยชน์ให้สังคมมาแชร์ อาจช่วยจับทางเขาได้

4. ผมถนัดเฉพาะผู้ใหญ่ ถ้าเด็กๆ ก็ต้องลูกศิษย์ผม Coach Net จะเก่ง 

5. แต่แม้เจอแล้วก็จะมีปัญหาตามมา จะเปลี่ยนเป็นธุรกิจได้อย่างไร ...ครับ ..ต้องสอนอย่างอื่นเพิ่มเช่น Business Model Canvas, Design Thinking หรือ Lean Canvas มาช่วย 

6. แนะนำหาต้นแบบของคุณจะเป็นวิธีง่ายๆ ผมเองยึดต้นแบบคือดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ท่านก้าวเดินอย่างไร ผมก็ทำตาม..กระทั่งไปบวชวัดเดียวกันท่านคือวัดหลวงพ่อกล้วย  ท่านเผยพร่ความรู้อย่างไร ผมก็ทำตามท่าน 

7.ลองหาที่ปรึกษารอบตัว มาช่วย เอาเพื่อนๆ เช่น Marketing นักธุรกิจที่มี Connection มาช่วยมองงานคุณ 

8. คุณต้องทดลองสอนไปเรื่อยๆ เก็บ case ตามติด ..บาง case ของผมใช้เวลาสองปีกว่าจะเจอ พอเจอก็ต้องต่อยอดด้วย Business Model Canvas 

9.บางคนเจอแต่แรกเช่นไปช่วยส่งเสริมชาวบ้านทำกล้วยตาก กว่าจะยกระดับจนส่งออกได้ ก็ใช้เวลาสองปีกว่า 

10.ทำมากๆ ขณะเดียวกันต้องคอยสังเกต ใครก็ได้ในโลก ที่ดูมี IKIGAI ตามศึกษาเก็บมาเป็นตัวอย่าง

11.ถ้ามีเวลาไปศึกษาศาสตร์ Positive Psychology ศึกษาอะไรที่ไกล้เคียงกับ IKIGAI ในเชิงจิตวิทยานั่นคือเรื่อง Meaning และ Purpose ผมไปเรียนมาสองที่ เจ๋งมากๆ จะทำให้คุณแน่นขึ้น

12. หากอยากทำ Coach ก็ไปเรียน Coach เพิ่ม เอามาผสมกันครับ

13. สำหรับสายโค้ช ผมพบว่า Relationship Wheel กับ Scaling นี่แหละครับ ช่วยต่อยอดหลังการทำ IKIGAI ได้มาก 

 

แนวโน้มในไทยและทั่วโลก

1. Denso International  ทำในระดับโลก บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นแห่งนี้ น่าจะเป็นบริษัทแรกๆ ที่เริ่มเอา IKIGAI มาใช้ในการหา Career Path ให้พนักงานทุกคน .. ทำทั้งโลกเลย ผมสอนให้ Denso ในประเทศไทย คนญี่ปุ่นเขาก็ให้คนญี่ปุ่นมาสอน

2. SENA Development ถึงขั้นเอาแนวคิด ประเพณีแบบ IKIGAI การกินอยู่ มาออกแบบโครงการ Piti เป็นคอนโดแนวคิด IKIGAI ที่นี่ผมก็ไปสอนผู้บริหารพนักงานให้ค้นหา IKIGAI   ...ผมว่าที่นี่ไปไกลสุด

3. MD โรงงานลูกศิษย์ของผมคุณธนู คนนี้จบจุฬา ตอนนี้เอา IKIGAI มาใช้ในการหา Sucession Plan ปรากฏว่าได้ผลมาก ..IKIGAI น่าจะไปไกลในเรื่องนี้  ตอนนี้พี่ธนูไปสอนที่จุฬาต่อ น่าจะเห็นอะไรก้าวกระโดดมากขึ้นเรื่อยๆ 

4. มีงานวิจัยในมหาลัยเกิดขึ้น เป็นของโค้ชต้อลูกศิษย์ผม ติดตามการเผยแพร่ผลงานได้เร็วๆนี้

5. ในมหาวิทยาลัยตอนนี้เริ่มมีสอน ผมเองอบรมอาจารย์ใหม่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็สอน IKIGAI ให้อาจารย์ใหม่ 

6. วงการโค้ชค่อนข้างตื่นตัว ผมว่าจะขยายตัวอีกมากครับ อาจารย์วรภัทร์ก็จับเรื่องนี้ครับ 

7. สรุปโลกตื่นตัวเรื่องนี้มากขนดในวง Appreciative Inquiry ในงานประชุมระดับโลกปีสองปีที่แล้ว ก็มีพูดถึง IKIGAI 

8. แสดงว่า IKIGAI จะไปไกลมากๆ

ุ 

นี่ครับประสบการณ์ผม มีใครอยากถามอะไร ยินดีครับ จัดได้เลย ผมจะตอบเพิ่มให้ เรื่องนี้ต้องเอา Case มาคุยเรื่อยๆครับ 

วันนี้พอเท่านี้ เพียงเล่าให้ฟัง ลองเอาไปพิจารณาดูนะครับ

บทความโดย

ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์

 www.aithailand.org


Note:

  1. สื่อการสอนของผม Clip ดูที่นี่  https://www.youtube.com/playli...
  2. บทความที่เคยเขียนมาดูที่นี่ https://www.gotoknow.org/posts...
  3. หนังสือใน amazon ดูได้ที่นี่ มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่กรณีศึกษาเดิมๆ  
  4. https://www.amazon.com/s/ref=n...
  5. หลักสูตรที่ผมไปเรียนมามีสองหลักสูตร  Langley Institute สอน Positive Psychology ทฤษฎี+ปฏิบัติจริง ทำ Project 1 ปี จบแล้วได้ Diploma รับรองโดย British Psychological Society ดูที่  https://langleygroupinstitute.com/ อีกตัว Positive Psychology Products the Netherland สอนเรื่่อง Meaning and Purpose โดยเฉพาะ นี่คือ IKIGAI แบบฝรั่ง  หลักสูตร สั้นๆ  https://positivepsychologyproducts.com/meaning-valued-living/
  6. ลูกศิษย์ผมที่ทำ IKIGAI Coach เก่งๆ ในกลุ่มที่ผมไม่ถนัด วัยรุ่น ต้องเป็นโค้ช Net ติดตามเขาได้ที่นี่  https://web.facebook.com/thamm...  ส่วนผู้หญิงต้องโค้ชต้อ ติดต่อโค้ชต้อได้ที่นี่ https://www.facebook.com/sasi....
  7. FB กลุ่ม IKIGAI School เป็นของผม ท่านสามารถติดตามเทคนิค  Tip การสอน IKIGAI หรืออะไรที่ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ที่นี่ครับ  https://www.facebook.com/Ikiga...

หมายเลขบันทึก: 655509เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2018 12:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2019 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ในขณะที่เรากำลังพูดและเผยแพร่แนวคิด ikigai ของญี่ปุ่น สิ่งที่เป็นผลพลอยได้สำหรับญี่ปุ่น คือ สามารถขายนวัตกรรมเชิงแนวคิด นวัตกรรมที่ไร้รูปร่างแต่ทรงพลังและมูลค่าทางเชิงเศรษฐกิจ สังคมญี่ปุ่น สามารถนำแนวคิดทางปรัชญาหรือแนวความคิดดั้งเดิม มาปรับเปลี่ยนรูปร่าง หน้าตา หรือเปลี่ยนคำใหม่ ภาษาการตลาดคงเรียกว่าการ repackage

ในทางกลับกันเมื่ออ่านเอกสารภาษาญี่ปุ่น จะพบว่า ikitai ได้รับอิทธิพลทางปรัชญามาจาก มรรค 8 เมื่อพิจารณาก็จะพบว่าทั้ง 8 ประเด็นของ ikigai สอดคล้องในทำนองเดียวกันกับมรรค 8

ประเด็นที่ผมจะพูด คือ ทำไมเราก็มีแนวคิดมรรค 8 เช่นกัน แต่เหตุใดเราไม่สามารถจะจับสิ่งที่เรามีอยู่นี้มาเล่นและขายเป็นนวัตกรรมเช่นเดียวกับ ikigai

สิ่งที่ต่างกันคือ ค่านิยมทางสังคม ที่เราให้คุณค่าเรื่องแนวคิดทางพระพุทธศาสนา ว่าเป็นสิ่งสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ จนเมื่อมีใครก็ตามเเตะต้องก็จะกลายเป็นผู้ทำลายศาสนาไปโดยปริยาย

ญี่ปุ่นกลับมองสิ่งที่อยู่ ให้เข้าถึงความทันสมัยและสามารถปรับตัวตามกาลเวลา ที่สำคัญสามารถขายและเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยแผงการเผยเเพร่ความคิดของญี่ปุ่นไปด้วยในตัว

กล่าวโดยสรุป ikigai ไม่ต่างอะไรกับมรรค 8 แต่ikigai มาจาก ญี่ปุ่น เป็นของนอก มาจากประเทศที่เจริญ กลุ่มโลกที่ 1มรรค 8 มาจาก พุทธศาสนา เป็นของภายในประเทศ คำฟังดูเข้าใจยาก และเป็นของศักดิ์สิทธ์ จับต้องยาก

ขอบแสดงความคิดเห็นด้วยใจคารวะ

IKIGAI น่าจะเหมือนกับประเพณีไทยในบางท้องถิ่นที่คนไทยเองอาจไม่รู้จัก ลูกศิษย์ในบริษัทญี่ปุ่น เคยเอาไปเสนอนายญี่ปุ่น ในที่ประชุมที่มีคนญี่ปุ่นมากๆ คนญี่ปุ่นไม่รู้จัก IKIGAI นี่เห็นชัดว่าเยอะมากๆ

เรื่องนี้ดูๆ จะเป็นความอยากรู้อยากเห็นของนักคิดไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือคนไทยมากกว่า ที่พยายามหาแนวคิดอะไรก็ได้ จากชาติไหนก็ได้มาแก้ปัญหาชีวิต

ถ้าจะมองในทางศาสนา ผมเองมองว่า iKIGAI คล้ายๆ กับอิทธิบาท 4 และการมี IKIGAI ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีความ พวกนี้เป็น Model โลกๆ ครับ น่าจะทำให้เราได้มีโอกาสมีสัมมอาชีวะเท่านั้น ถ้าจะมงคลชีวิตก็เรียกว่า เลี้ยงชีพชอบและมีศิลปะเท่านั้น คงเชื่อมได้ประมาณนี้ ไม่มาก

ผมเองเวลาสอนจะแยกสมมติและวิมุมติออก เพราะ Model แบบนี้มันสัมพันธ์กับบางส่วน แต่ไม่ทั้งหมด …ดูแล้วหลักคำสอนศาสนาพุทธจะครอบคลุมลึกทุกมิติกว่า ..

แนวคิดแบบพุทธแบบไทย ตอนนี้ผมไปเจอที่อังกฤษ ในหลักสูตร Positive Psychology สอนเจริญสติเลย คล้ายๆ บ้านเรา ทางพุทธเราไม่ธรรมดาหรอกครับ เราก็มีดี มีคนอยากรู้อยากเห็น ดึงของดีๆมางพุทธ เราไปใช้ครับ

เช่น Thoery U เป็นคนยิวคิด..นี่เอามาจากพุทธมหายาน ..บอกไว้ที่คำนำเลยว่าได้แรงบันดาลใจจากสมถภาวนา ผมสอนตัวนี้ จะเฉลยตอนท้ายว่าเป็นสมถะ แต่ถ้าพูดก่อนรับรองคนต้าน..

จริงๆ ผมว่าคนไทยมีปัญหาเรื่องการพูดแบบลดทอนมากกว่า ชอบพูดว่าที่คุณพูดน่ะดี แต่ว่า (Yes but)…หาทางลดทอน เราไม่ค่อยมีคนพูดว่า ใช่เลย หาทางมาต่อยอดกัน (Yes and..)ผมว่าเป็นปัญหาทางวัฒนธรรมมากกว่า.. ที่ทำให้ยากที่จะพูดอะไร หรือถ่ายทอดความรู้กัน เราเป็นสังคมอุดมนักติ ไม่ใช่สังคมนักคิดมากนัก

ถ้าคนไทยจะพัฒนาเอาแนวคิดพุทธศาสนามาใช้แทนจริงๆ ดึงมาสอนก็ได้ แต่อย่างว่าไม่ง่ายอย่างที่คุณบอก แต่มีคนทำได้ คนที่เป็นต้นแบบจริงๆ คือดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ ลองตามงานของท่านดู น่าจะเนียนและดีที่สุดตอนนี้

ส่วนใหญ่ถ้าผมสอนจะบอกของผมเป็นแบบโลกๆ นะ แล้วผมจะส่งต่อไปดร.วรภัทร์ ไปเลย

ผมเองยังต้องพัฒนาตนเองอีกมากๆครับ

รอการพัฒนาอีกนิดครับ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท