ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเคยได้อ่านหนังสือ เรื่องเกี่ยวกับชีวิต รู้สึกซึมซับเข้าไปในหัวจิตหัวใจ "เพราะมีเกิด จึงต้องมีตาย ถ้าไม่อยากตายอีก ก็ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ร่างกาย+จิตใจ ร่างกายก็ทำหน้าที่ของมัน คือ มีการพัฒนาเซลต่างๆ ในร่างกายไปเรื่อยๆ จากความเป็นเด็ก มาเป็นผู้ใหญ่ จนมาเป็นผู้มีอายุ ทีเซลในร่างกายนับวันก็ถดถอยลง ส่วนในด้านของจิตใจ เป็นพลังงานที่สะสมอารมณ์ เป็นเชื้อต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ มีทั้งด้านดี และด้านไม่ดี ตลอดชั่วอายุคน สุดท้ายเมื่อบ้านที่อาศัยอยู่พุพังลง จิตใจก็ออกจากร่าง ไปเกิดได้ร่างกายใหม่อีก หากแต่ดวงจิตที่ได้สร้างความดีมากขึ้นแล้ว และไม่ตกเป็นทาสของกิเลสได้มากเพียงใด แสงสว่างแห่งพระนิพพานก็เรืองรองให้ได้พบมากเพียงนั้น ท้ายที่สุดที่ดวงจิตดวงนั้น พ้นจากการเป็นทาสของกิเลสได้ถาวรแล้ว ไม่ว่าจะมีลมหายใจอยู่ หรือล่วงลับดับลาไปแล้ว วงจรแห่งการเกิดในภพชาติต่างๆ ก็สิ้นสุดลง"
ที่มา : https: // sites.google.com/site/fdaerttdfgsdafsdgagtieru/
กับประสบการณ์ของข้าพเจ้าที่ได้เข้าห้องผ่าตัดเอาใส้ติ่งออก เริ่มแรกก็รู้สึกกลัวกับการผ่าตัด แต่ก็ให้กำลังใจตนเองว่า หมอทำมามากแล้ว เชื่อมือ จะได้หายเร็ว ๆ แต่ถ้าไม่หายก็ขอตายอย่างไม่ต้องทรมาน เมื่อหมอป๊อกหลัง (ฉีดยาสลบ) และนอนสักพัก เริ่มชาตั้งแต่เท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ หมอก็เอามือตบขึ้นมา พร้อมกับถามความรู้สึก ไม่รู้สึกเจ็บ รู้ได้แต่ว่าร่างกายนี้มันหนักมาก จนได้เวลาหมอก็เอาเครื่องมือมาผ่าที่หน้าท้องเยื้องสะดือไป 4 ข้อมือ รับรู้ เหมือนเสียงเลื่อยตัดก้อนหิน ไม่เจ็บ ไม่ปวด แต่มารู้สึกกระตุกนิดหนึ่ง ที่หมอ (น่าจะ) ดึงใส้ควานเอาใส้ติ่งออกมาตัด แค่ตอนนั้น จากนั้นก็สลบไป เมื่อออกห้องผ่าตัดมาแล้ว ก็มานอนพักฟื้นอีก 2 ชั่วโมง ในขณะที่ยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว ความเจ็บปวดที่แผลเริ่มเข้ามาแทนที่ และยิ่งทวีคูณมากขึ้น แต่ก็ต้องอดทน ลึกๆ แล้วก็ดีใจอยู่ว่า "ยังไม่ถึงเวลาตาย"
แต่เดิมรู้และเข้าใจ แต่ไม่เข้าจิต กับเรื่องของร่างกายที่จิตมาอาศัย แต่เมื่อมาผ่าตัดแล้ว ทำให้เข้าใจ และเข้าจิต ได้รับรู้ว่าร่างกายมันไม่ใช่ของเราจริง ๆ รู้สึกร่างกายหนักมาก เหมือนถูกมัดนอนนิ่งอยู่กับที่ ใจสั่งให้ยกขา ยกแขน อยากจะยก แต่ยกไม่ขึ้น ทำอะไรไม่ได้เลย ร่างกายไม่รับคำสั่ง ไม่ตอบสนองใด ๆได้แต่นอนกรอกลูกตา และกระพริบตาปริบ ๆ จากนั้นมา ข้าพเจ้าก็บอกตัวเองเสมอว่า ชีวิตไม่แน่นอน แต่ความตายนั้นแน่นอน เพียงแต่จะเป็นเมื่อไรนั้นไม่รู้ แต่ที่รู้คือ ขอให้วันนี้เป็นวันที่เราได้มีโอกาสสร้างสิ่งดีๆ ให้กับตัวเรา และได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ จึงเป็นเหตุที่มาของการ "บริจาคเลือด" ตั้งใจว่า จะบริจาคให้กาชาดปีละ 3 ครั้ง ตอนนี้เป็นครั้งที่ 20 แล้วครับ อย่างน้อย เลือดในร่างกายนี้ ยังได้ไปต่อชีวิตของคนอื่นๆ ให้มีชีวิตอยู่ เพื่อคนรัก คนที่เคารพ และเพื่อนฝูง ให้ได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ
และหากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตแล้ว ข้าพเจ้าอยากขอโทษต่อคนที่อยู่ใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นพ่อ-แม่, ภรรยา, ครูบาอาจารย์, พี่-น้อง, เพื่อนฝูง ที่เคยล่วงเกินท่านไม่ว่าจะทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ ทั้งเจตนา หรือไม่เจตนา และต้องขอขอบคุณทุกท่านเช่นกันที่เป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงเสริม ให้ได้สร้างความดีมาตลอด ขอบคุณทุกๆ ปัญหา ที่ได้พบเจอ เพราะได้ทำให้ชีวิตนี้เข้มแข็งขึ้น และสุดท้ายต้องกราบขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ที่ท่านได้ให้ชีวิตแก่ข้าพเจ้า และได้อาศัยร่างกายนี้ได้สร้างความดี อีกชาติหนึ่ง แม้ร่างกายนี้จะอาศัยมันไม่ได้อีกต่อไป แต่ความรู้สึกดีๆ นี้จะขอให้เป็นพลังงานที่สะสมต่อไปอีกในภพชาติที่จะมาถึงครับ
เขียนให้ดีมากค่ะ
ทำทุกวันให้เต็มที่และดีที่สุดคะ คุณครูพิบูรณ์
เขียนออกมาได้ดีมากครับ.
เขียนได้ยอดเยี่ยมเลยค่ะครู
อ่านแล้วได้ทบทวนตัวเองค่ะ
เขียนได้ดีมากๆค่ะ
เขียนได้น่าประทับใจมากคะ ^^
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยคนนะครับ
ขอบคุณครับ คุณครู @นายจันทร์เจ้า
ขอบคุณครับ คุณครู @myfernz
ขอบคุณครับ คุณครู @stamptamp
ขอบคุณครับ คุณครู @ณภัชชา
ขอบคุณครับ คุณครู @Khanitta
ขอบคุณครับ คุณครู @Sukanya C.
ขอบคุณครับ คุณครู @วณัฐพล ตุ่นแก้ว
ขอบคุณครับ คุณครู @เกศินี ป๊อกนันตา
ขอบคุณครับ คุณครู @นางสาวเกศริน กาไว
ขอบคุณครับ คุณครู @รจนา ตาสุยะ
ขอบคุณครับ คุณครู @DocAutomotive
เขียนให้ดีมากค่ะ
ขอบคุณครับ คุณครู @พัชรินทร์ ทีเก่ง
ขอบคุณครับ คุณครู @คนบนฟ้า
สุดยอดมากครับ
ขอบคุณครับ คุณครู @Tacha Subhasan
ประทับใจมากค่ะ แต่ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามวงจรชีวิต
เขียนได้ดีมากค่ะ
เขียนได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณครับ คุณครู @sirisopa minmunin
ขอบคุณครับ คุณครู @กัญญา สมอ๊อด
ขอบคุณครับ คุณครู @สุพิชฌาย์
สุดยอดมากเลยค่ะ
ชื่นชอบบทความมากเลยคะ
ขอบคุณครับ คุณครู @เหล่าซือพิซซ่า
ขอบคุณครับ คุณครู @สุดยอดมากเลยค่ะ
ขอบคุณครับ คุณครู @เมษา ใจโอบอ้อม
เขียนได้ดีมากคะ
เขียนได้ประทับใจมากค่ะ
ขอบคุณครับ คุณครู @พิมพ์สุณัชญา
ขอบคุณครับ คุณครู @คนครัว
ขอบคุณครับ คุณครู @Jintarha Phanyakeaw
ขอบคุณครับ คุณครู @ดอยจ๋า