เพิ่งกลับจากทำธุระต่างจังหวัดมาค่ะ มีเรื่องราวน่ารัก น่าเอ็นดู มาเล่าสู่กันฟัง เหตุเกิดระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้านค่ะ พวกเราสาวๆ สี่ชีวิต และหนูน้อยวัยอนุบาล 3 อีก 1 ชีวิต เดินทางร่วมกันมาตั้งแต่เช้า
ขณะเดินทางกลับ ด้วยความที่ไม่อยากให้ถึงบ้านดึก พวกผู้ใหญ่ก็นั่งใจจดใจจ่อ และพูดคุยกันอย่างออกรสชาติ พร้อมทั้งขับรถกันด้วยความเร็วที่มากพอสมควร หนทางก็มีทั้งทางตรงทางโค้ง
พอรถเข้าโค้ง สักพักก็มีเสียงเล็กๆ พูดขึ้นมา “อาปูขา อย่าขับรถเร็วสิคะ ดูซิ พระจันทร์ตามเรามาไม่ทันแล้ว ... น้องไผ่มองพระจันทร์ไม่เห็นค่ะ” พวกเราทั้งหลายนิ่ง และตัวดิฉันเองก็ยิ้มๆ ในใจ ว่าช่างเป็นเสียงเตือนเรื่องการขับรถที่แสนน่ารักเหลือเกิน
น้องไผ่ ได้เตือนสติพวกผู้ใหญ่ทั้งหลาย เรื่องการขับรถ และทำให้เราคิดได้ว่า เด็กน้อยคนนี้กำลังให้ความสนใจกับธรรมชาติรอบๆ ตัวอยู่ ซึ่งต่างจากพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่กลับไม่ใส่ใจความสวยงามที่สามารถมองเห็นได้ เพียงแต่เราหันหน้าไปมอง
ขอบคุณน้องไผ่ เด็กน้อยวัยไร้เดียงสา ซึ่งมาเตือนสติเหล่าน้าๆ และอาๆ ทั้งหลาย เรื่องการขับรถ และการเอาใจใส่กับสิ่งดีงามรอบตัวค่ะ
และแล้ววันนี้ เราก็กลับถึงบ้านกันอย่างสวัสดิภาพ ภารกิจทั้งหลาย ก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี
หมายเหตุ วันดีวันนี้นอกจากจะเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังเป็นวันพระอีกด้วย พระจันทร์จึงเต็มดวงค่ะ
เป็นคำเตือนที่น่ารักจริงๆค่ะ
คุณ Nauthy Cat
ใช่ค่ะ ไร้เดียงสา และน่าเอ็นดูมากค่ะ
ขอบคุณนะคะ สำหรับความเห็น
อาจารย์ขจิต ฝอยทอง
อ่านเรื่องพระจันทร์แล้วคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เคยพาหลานสาวอนุบาล 1 นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน ระหว่างทางได้ยินเสียงหลานถามว่า "ซำหยี่ขา พระจันทร์มันมีล้อด้วยหรือคะ" ก็เลยถามกลับไปว่า "ทำไมหนูคิดอย่างนั้นล่ะคะ" จึงได้คำตอบว่า "ก็น้องยุ้ยเห็นมันวิ่งตามเรามาตลอดเลยค่ะ" ฟังแล้วก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ก็รู้สึกเสียวๆ กลัวหลานตกรถเพราะมัวแต่ชื่นชมธรรมชาติ จึงจอดรถข้างทางแล้วเปลี่ยนให้หลานมานั่งหน้าแทน วันนั้นจึงกลับบ้านด้วยความปลอดภัยตลอดเส้นทางค่ะ
อาจารย์ ขจิต
คุณดอกปีบ
อ่านแล้วยิ้มเลย ว่าน่ารักจริงๆ
ทำให้คิดถึงเด็กๆ อีกหลายคน ที่ไร้เดียงสา และน่ารัก
คุณ Bright Lily และคุณก้ามปู