เมื่อใดความคิด จะกลายเป็นความคิดเชิงระบบ ?
ใน ซอกแซกอ่าน (1) แนวคิดเชิงระบบของ Juan Enriquez-Cabot เล่าถึงกรณีศึกษาว่า เมื่อเปลี่ยนภาษาคณิตศาสตร์ ก็ทำให้วิทยาศาสตร์เกิดการก้าวกระโดดได้ เพราะสามารถทลายกำแพงที่ซ่อนอยู่ในวิธีคิดของมนุษย์
มองในแง่นี้ การ"เปลี่ยนภาษาคณิตศาสตร์" เป็นความคิดเชิงระบบ เพราะ "เอื้อ" ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยที่ "เนื้อหา" คณิตศาสตร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
นั่นคือ ใช้ภาษาให้เหมาะสม ก็สามารถกลายเป็นวิธีคิดเชิงระบบได้
ดังนั้น คุณลมบัติของความคิดเชิงระบบที่สำคัญ จึงควรเป็นว่า ต้องเอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เอง โดยเราไม่ต้องใส่พลังงานไปเข็นให้ระบบเขยื้อน หรืออาจจะบอกว่า เป็นวิธีคิดที่หล่อลื่นให้ระบบดำเนินไปได้โดยตัวมันเอง หรืออาจจะบอกว่า คือ วิธีคิดที่ทำให้ระบบเสมือนมีชีวิต
ถ้าจริง ลองทดสอบเทียบดูกับกรณีศึกษาอื่น
ตัวอย่างที่ผมพบเองก็คือ ตอนที่ผมมาดูแลเว็บบอร์ดตอบคำถามเรื่องยาของคณะฯ ผมจึงได้รู้ว่า ต้องใช้แรงคนในการเข้าไปอ่านการตอบคำถาม เพื่อบันทึกเป็นหลักฐาน QA เกี่ยวกับ workload แต่ผมรู้ว่า เบื้อหลัง webboard คือฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีในฐานข้อมูล ผมก็ลองคิดเชิงระบบดู ว่า เอ๊ะ ถ้าอย่างนั้น ใช้วิธีวิเคราะห์ฐานข้อมูลอัตโนมัติเลยได้ไหม ? ปรากฎว่าได้ ผลคือ สามารถตัดทิ้งกระบวนการบันทึกที่เปลืองแรงตรงนี้ไปได้ ทำให้ในปัจจุบัน ผมสามารถดึงข้อมูลมาดูบันทึกภาระงานที่เกี่ยวกับการตอบในเว็บบอร์ดได้โดยอัตโนมัติ
ผมเปลี่ยนวิธีคิด จาก ใช้แรงคน เป็น วิเคราะห์ฐานข้อมูลแบบอัตโนมัติ ผลคือ ระบบเดินไปได้เอง
ระบบไหลลื่นขึ้น เพราะวิธีคิดแบบหลัง ทำง่ายกว่า และทำบ่อยได้เท่าที่ต้องการ
อีกตัวอย่างหนึ่ง ผมไปธุระที่ภาควิทยาการคอมพิวเตอร์ของ มอ. เห็นมีโปสเตอร์ทำไคเซ็นของความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ของนักศึกษารายคน ผมก็นึกในใจว่า เอ๊ะ นี่ก็เป็นวิธีคิดเชิงระบบแบบหนึ่ง เพราะทำให้นักศึกษาต้องแข่งกับตัวเองเพื่อรีบจบ โดยการติดโปสเตอร์ น่าจะทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนเอง โดยไม่ต้องเปลืองแรงเข็น
หรือลองดูเซลล์เดี่ยว ๆ เช่น เซลล์มะเร็ง หรือเชื้อโรคก็ได้
พวกนี้ เปลี่ยนแปลงได้เอง โดยเราไม่ต้องสั่ง เพราะต้นทุนชีวิตมันต่ำมาก ไม่ต้องพึ่งพิงการประคับประคองเลย แต่สามารถ โตเอา โตเอา ได้เอง
หากมองสังคมว่า ก็ไม่ต่างจากเซลล์
เมื่อมองระดับสังคม การมีต้นทุนทางสังคมที่สูง จึงเป็นเบาะแสที่ชี้ว่า สังคมนั้น น่าจะ "ล้มง่าย"
ไม่มีความเห็น