ถ้าประสานงาน ไม่มีน.หนู

ความหมายที่แตกต่าง ถ้าไม่มี น.หนู

เรื่องนี้ขอเล่าจากประสบการณ์ การทำงานล้วนๆ ไม่มีทฤษฎีมาเจือปน เลยซักนิดเลยนะค่ะ    การประสานงานที่ผ่านมาเคยมีทุกรูปแบบทั้งประสานงา และประสานงานแต่ไม่ได้งาน  ต่อมาก็ได้คำแนะนำจากพี่แหม่ม..คุณสิรินันท หัวหน้างานบริการนอก และจากประสบการณ์ตรงที่เสียดายเวลาในการประสานงานทิ้งไปในแต่ละครั้งอย่างสูญเปล่า  เลยได้แนวคิดมาว่าการประสานงาน ถ้าไม่พา น.หนูไปด้วยเนี่ย!! ยากจังเลย เหนื่อยใจเปล่าๆ

หนูตัวที่ 1 น้ำใจ เราต้องรู้จักใจนำใจเขามาใส่ใจเราก่อน และมีน้ำใจให้เขา เพราะทุกคนมีงานประจำอยู่มาก และสำคัญบางครั้งเขาก็อยากจะทำงานที่เราฝากให้เขาทำแต่ด้วยหลากหลายเหตุผลที่เขายังไม่พร้อมทำให้เราในตอนนี้ เช่น ไม่มีงบ ไม่มีไอเดีย ไม่มีเวลา ตรงนี้ถ้าเราช่วยได้ ช่วยเลยค่ะแล้วให้เขาตรวจสอบความถูกต้องและเหมาะสมอีกที อย่าคิดเกี่ยงกันเชียว ล่ม!แน่ถ้าคิดเกี่ยงกัน

หนูตัวที่ 2 นอบน้อม การเข้าไปประสานแล้วกร่างเดินเข้าไป สั่งๆงาน คงไม่ได้งานแน่ๆ แถมยังอาจได้ของแถมอื่นที่ไม่อยากได้มาแทนอีกนะ จะบอกให้

 หนูตัวที่ 3 หน้าตา การประสานแบบเห็นหน้าค่าตา ดีกว่าการประสานโดยวิธีอื่นแน่ๆ เพราะเราจะได้คุยกัน ชี้แจงเหตุและผลกันให้ชัดเจนเลยดีกว่าโทรศัพท์ หรือใช้คำสั่งผ่านไปทางเอกสารแบบมัดมือชก ใครก็ไม่ชอบ

หนูตัวที่ 4 แน่น ข้อมูลที่ต้องการประสานต้องแน่น ไม่แกว่งไกว ไปตามลม..อารมณ์ ต้องยึดมั่นตามข้อตกลงที่ได้จากการประชุม ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการต่อว่าต่อขานมาแน่ ทำไมคนนั้นแบบนั้น ทำไมคนนี้แบบนี้ กินพาราเซตตามอลตามไป

หนูตัวที่ 5 นำ บางครั้งการประสานกับแต่ละคน ไม่สามารถใช้วิธีเดียวกันได้ กับบางคนต้องมีผู้นำหรือหัวหน้างานนำไปด้วย เพื่อช่วยเราตัดสินชี้ขาด และสำคัญเป็นพยานช่วยกันฟังข้อตกลง ให้เป็นแบบแผน เพราะผู้ใหญ่จะช่วยเราได้เมื่อสถานการณ์แกว่ง 

 หนูตัวที่ 6 หนังสือ เมื่อมีการตกลงเกิดขึ้นให้บันทึกเก็บข้อมูลไว้ในหนังสือ สรุปรายงานการประชุม เพื่ออนาคตหลงลืมจะได้นำมาทบทวนกันได้จ้ะ

วันนี้จบเรื่อง น.หนู แต่เพียงเท่านี้ค่ะพี่ๆน้องๆที่ผ่านมาเติมให้เต็มด้วยนะค่ะ เพราะอย่างที่บอกเรื่องเล่าลวนๆเลยค่ะ ไม่มีทฤษฎี

[ดอกปีบ]

สกัดเก่งจัง

[Up to you.]

thanks สำหรับคำชมค่ะพี่ดอกปีบ หนูก็ได้จากพี่มานั่นล่ะ

[เพื่อนร่วมทาง]

ชอบมากเลยค่ะ ... ขอนำเรื่องไป link ไว้ที่ KCenter ของกรมฯ เรานะคะ