ประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตของเรานั้น ขึ้นอยู่กับการบริหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น บริหารจิตใจ บริหารคน บริหารเงิน บริหารเวลา แต่สิ่งที่คนพูดกันน้อย หนังสือให้เรียนรู้ก็น้อย คือ การบริหารพลังที่มีหลายระดับ เริ่มจากตัวเองก่อน คือ บริหารพลังของตัวเอง
ก่อนอื่น เราเองต้องรู้ว่า ตนเองมีพลังในเรื่องไหน ในกาลเทศะ ช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับกิจกรรมอะไร รู้จักเก็บสะสมพลังงาน รู้จักผ่อน รู้จักรับ รู้จักซึมซับพลังจากแหล่งต่างๆ แล้วยกระดับไปสู่สภาวะที่เชื่อมโยงเป็นองค์รวมได้
การออกกำลังกาย คนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพกายและใจ นั่นก็ไม่ผิด แต่บางคนมองได้มากกว่านั้นว่ามันเป็นหนึ่งในเรื่องการบริหารพลัง
อย่างเวลาวิ่งไกลๆ วิ่งทางลาด ทางชัน นักวิ่งที่ชำนาญ ย่อมรู้ว่าจะใช้แรงไม่เท่ากัน และเขาต้องออมแรงไว้เท่าไร เพื่อที่จะไล่ให้ทันหรือป้องกันตำแหน่งในระยะหนึ่งกิโลเมตรสุดท้าย ถ้าบริหารพลังไม่เป็นก็จะใช้แรงจนหมดตั้งแต่ไม่กี่กิโลเมตรแรก
เหมือนกับที่เราเห็นคนขยันมากมาย ทำงานเท่าไรก็อยู่กับที่ หรืออย่างเก่งก็รักษาตำแหน่งไว้ นี่ก็เพราะ เขาบริหารพลังตนเองไม่เป็น
ในศิลปะการป้องกันตัวอย่าง “ไอคิโด” นี่ก็เช่นกัน ไอคิโดเป็นวิชาที่เน้นย้ำมากในเรื่องการบริหารจัดการกับพลัง ทั้งของตนเองและผู้อื่นที่เข้ามาปะทะ ผู้ฝึกต้องรู้จักประมาณพลังของตนเอง รู้จักอ่านขนาดและทิศทางพลังของคู่ต่อสู้ ซึมซับ ถ่ายเทพลังของเขาไปสู่พื้นที่ปลอดภัยที่ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป ไอคิโดไม่สอนไม่เราวิ่งวนไปรอบเบาะ หากแต่นิ่ง ว่าง และบริหารพลังด้วยความฉับไว
การออกกำลังกายก็ดี การเล่นกีฬาทุกประเภทก็ดี แท้จริงแล้ว ล้วนมีมิติแห่งคุณค่ามากมายที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ใช่แต่จากการอ่านหรือฟังจากผู้อื่น หากมาจากการลงมือทำซ้ำๆ ประกอบกับการใช้ปัญญาใคร่ครวญด้วยตนเอง นี่ไม่ใช่ทางลัดสู่การพัฒนาตัวเองหรือบุคลากร แต่มันคือวิถีการปฏิบัติ ที่ผู้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเท่านั้นพึงรู้ได้เฉพาะตน
ไม่มีความเห็น