กว่าจะเป็น ครูสิริพร


ย้อนไปเมื่อวัยเด็ก

ครูสิริพร หรือครูฝ้าย เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ พี่ชาย และฉัน ซึ่งเป็นน้องเล็กสุดของบ้าน

ด้วยความที่เป็นเด็กผู้หญิง พ่อและพี่ชาย ก็มักจะตามใจ อยากได้อะไรก็ออดอ้อนผู้ชายทั้งสองของฉัน ดังนั้น อย่าถามเรื่องของเล่น

หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถโอ้อวดเพื่อน ๆ ตอนเด็ก ฉันก็จะเป็นคนแรก ๆ ของโรงเรียนที่จะได้ใช้ก่อนเพื่อนเสมอ 

 

การเลี้ยงดูปูเสื่อ

พ่อ มีอาชีพรับราชการทหาร แม่ ทำหน้าที่แม่บ้านที่ดี พี่ชาย ซึ่งเป็นต้นแบบแห่งการเรียนของฉัน เราสองคนพี่น้องจะถูกเลี้ยงมาในแบบของทหาร คือ ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องทำงาน หรือ ทำตามคำสั่งของพ่อ ของแม่ก่อน ถึงจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้น ของเล่นที่พี่ชาย และฉันจะได้รับจากพ่อแม่ ก็จะแลกมาด้วยความยากลำบาง อาทิเช่น ซักรองเท้า ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน งานบ้านอื่น ๆ ก่อนจะออกไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้าน เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเรียนได้ผลการเรียนที่ดี (3.00 ขึ้นไป) แน่นอนที่สุด คือเราจะได้รับทุนเรียนดี ของบุตรข้าราชการทหาร

พระเจ้า มีเพียงหนทางเดียวจะสามารถนำเงินมาใช้ซื้อของที่อยากได้ แต่แรงจูงใจก็สามารถมีผลได้ถึงตอนจบมัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น

การเรียนของฉันก็จะคลาย ๆ กับใครหลายคน นั้นก็คือ เรียน ๆ เล่น ๆ นั่นเอง ความภาคภูมิใจของครอบครัวได้เริ่มขึ้น คือพี่ชายของฉันสามารถสอบบรรจุรับราชการทหาร และความภาคภูมิใจของครอบครัว ก็มาพร้อมกับความกดดันหรือความหวังของที่บ้านกับน้องสาวคนเล็ก ฉันต้องสอบเข้าคณะพยาบาลศาสตร์ นี่คือโจทย์ ตอนเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก็ได้รับคำแนะนำจากชมรมแนะแนวอาชีพวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ ที่สามารถเข้ารับการดูงานในวิทยาลัย และโรงพบาลนครพิงค์ เป็นเวลา 5 วัน และฉันเองก็ใช้โอกาสนี้รู้ตัวเองว่า กลัวเลือด จึงขออนุญาตพ่อและแม่ ขอเรียนคณะบริหารธุรกิจ สาขาการบัญชี โดยได้รับความช่วยเหลือจากพี่ชายในการโน้วน้าวพ่อกับแม่

และก็เป็นผล เมื่อสอบคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการบัญชี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภาคพายัพ เชียงใหม่ การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยก็เป็นสิ่งที่ตื่นเต้น อยากรู้ อยากลอง จนผลการเรียนที่ได้คือ 1.75 จนกระทั่งจะขึ้นปีที่ 2 ก็ย้ายสาขาวิชาไปเรียนการตลาด ซึ่งก็พบว่า การเรียนสาขาวิชาการตลาด คือสิ่งที่ใฝ่ฝัน การได้เรียนรู้จากผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย การทำธุรกิจ การส่งเสริมการขาย การวิจัยการตลาด เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในชีวิตการเรียน ผลจากการย้ายสาขาวิชานั้น ก็สามารถนำผลการเรียน 3.66 มาอยู่ในใบรับรองการจบของชีวิตนักศึกษาได้

 

เรียนจบ ก็ต้องทำงาน

แต่ใครเอยจะรู้ ว่าการเรียนกับการทำงานจริงนั้น ไม่สามารถไปด้วยกันได้ ตอนเรียนนี่แสนจะง่าย จำ ๆ กลยุทธ์ทางการตลาดให้ได้ สอบได้ แต่ตอนทำงาน ต้องขายได้เดือนละ เท่านั้นเท่านี้ กว่าจะหลับก็กังวลจะทำยอดได้หรือไม่ กว่าจะตื่นก็ไม่อยากตื่นไปตามตื้อลูกค้าที่ออกอาการลำคานพนักงานแบบฉันหรือเกิน ในวันหยุด พ่อ พี่ชาย และพี่สะใภ้ ที่ประกอบอาชีพรับราชการ ก็จะพาแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ฉันก็ต้องรีบตื่นต้องไปทำงานที่แสนจะท้าทายว่าเดือนนี้จะโดนใบเชิญออกหรือไม่

 

โอกาสมาถึงแล้ว

ด้วยการที่จะต้องหางานมั่นคงต่อชีวิต ขอให้มีวันหยุดอย่างพ่อ พี่ชาย และพี่สะใภ้ ที่คอยให้ฉันอิจฉา การสอบเพื่อทำงานในองค์กรที่ใฝ่ฝัน นั่นก็คือที่ไหนก็ได้ที่หยุดวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ เป็นสนามแรกที่เข้าสอบในตำแหน่งเจ้าหน้าที่พัสดุ ด้วยคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด พร้อมกับเคยจัดซื้อจัดจ้างในบริษัทที่เคยผ่านงานมา ก็ทำให้ได้งานนี้มาครอบครอง ต่อด้วยสอบมาเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ วิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ และวันนั้นก็มาถึง เมื่อครูอัตราจ้างแผนกวิชาพาณิชยการ ได้สอบบรรจุย้ายไปวิทยาลัยอื่น

การสรรหาเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยสอนก็มาถึง จบการตลาดมา ก็สามารถสอนวิชาการขายเบื้องต้น สำหรับนักเรียนชั้น ปวช.1 ได้ แน่นอนค่ะ ฉันรีบรับโอกาสนั้น พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าจะทำให้เต็มที่ และจะไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป

 

 

พ่อจ๋า หนูทำเพื่อพ่อ

จากครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้า เมื่อสามปีก่อน พ่อ ประสบอุบัติเหตุ จากครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ ในวัย 58 ปี ความหวังที่จะพาแม่เที่ยวในวัยเกษียณอายุราชการก็จากไปพร้อมกับพ่อ เสาหลักครอบครัวก็ถูกเปลี่ยนเป็นฉัน เนื่องจากพี่ชายได้ย้ายไปสร้างครอบครัวของเขาเอง ฉันกับแม่ ก็ใช้ชีวิตแบบอยู่กันสองคนแม่ลูก ทะเลากันบ้าน ดีกันบ้าง ก็ใช้เวลาปรับตัวกันมาตลอด แต่ความสุขของแม่ก็คือการได้เที่ยว ดังนั้น ที่พ่อรับปากกับแม่ไว้ว่าจะพาแม่เที่ยวทั่วไทย หนูก็จะทำให้พ่อเอง

 

กว่าจะเป็นครูสิริพร หรือ ครูฝ้ายนั้น ไม่ได้มาด้วยความง่ายดาย มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ให้เวลา และความตั้งใจของฉันเป็นเครื่องพิสูจน์ ต่อให้เจออุปสรรค์ปัญหาสักแค่ไหน การได้โอกาสเป็น ครู สำหรับฉัน คือที่สุดในชีวิต และจะรักษา จะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีคำว่าหยุดตราบที่ฉันยังหายใจ

หมายเลขบันทึก: 652758เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2018 22:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน 2018 22:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

เป็นกำลังใจให้ครูฝ้ายนะคะสู้ๆ

เอาล่ะ … ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีความหมาย

ครูขอให้กำลังใจ ;)…

สู้ๆๆๆๆ น่ะค่ะ :;)สิริพร อินถา

เยี่ยมยอดมากเลยค่ะ สู้ๆนะค่ะ

เป็นกำลังให้นะคะครูฝ้าย สู้ๆค่ะ

น้ำตาซึมเลยค่ะ ครูฝ้ายเก่งมากเลยนะคะ คุณพ่อเฝ้ามองอยู่ข้างบนท่านคงภูมิใจในตัวครูฝ้ายมากแน่ๆ ค่ะ:)

หากคุณพ่อยังอยู่ท่านคงภูมิใจมากนะครับ ที่มาถึง ณ วันนี้ได้ แต่ยังมีคุณแม่ที่ยังเป็นกำลังใจให้นะครับ เป็นครูที่ดี มีความกตัญญู จะพบกับสิ่งดีๆ เสมอครับ เป็นนกำลังใจให้ครับ

เป็นเรื่องราวที่ซึ้งกินใจมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆนะคะ

คุณพ่อยังเฝ้ามองดูเราอยู่ทุกวันคะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ ๆ

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ ^^

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ต่อไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้อีกคนนะครับ น้องทำได้ สู้ๆครับ

@น้ำหมึก ส.รุ่งรักษ์เจริญชัย ขอบใจมากนะคะ

@เหล่าซือพิซซ่า ขอบใจนะคะ

@สุพิชฌาย์ ขอบคุณครูสุพิชฌาย์มากค่ะ

@บัวแก้ว ขอบคุณครูบัวแก้วค่ะ

@เกศินี ป๊อกนันตา ขอบใจนะคะครูเกศินี

@ณภัชชา ขอบคุณมากคะครูณภัชชา

@รจนา ตาสุยะ ขอบคุณคะครูรจนา

ขอบคุณค่ะ @วณัฐพล ตุ่นแก้ว

ขอบใจมาก @พัชรินทร์ ทีเก่ง

ขอบคุณนะคะครู@เมษา ใจโอบอ้อม

ขอบคุณนะคะครู@นายจันทร์เจ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท