“เรื่องเล่าจากประสบการณ์ในอาชีพที่ประสบผลสำเร็จ”


“ประสบการณ์”

                                                  “เรื่องเล่าจากประสบการณ์ในอาชีพที่ประสบผลสำเร็จ”

      ”ย้อนกลับไป” เมื่อหลายปีก่อนเมื่อตอนเรียนจบมาใหม่ ๆ “ยังไม่มีงานทำ” ตอนนั้นไปสมัครงานไว้หลายที่มีบ้างที่โทรติดต่อกลับมาแต่ด้วยการที่เราจบมาใหม่ยังไม่พร้อมที่จำทำงานเลยปฏิเสธไป วันหนึ่งไปตลาดเห็นป้ายรับสมัครงานเลยหยุดคิดว่าจะมาสมัครงานนี้น่าจะดี “งานใกล้บ้าน” และงานนี้น่าจะไม่มีอะไรมากแค่ขายของถึงเวลาก็น่าจะได้กลับบ้าน (คิดเอง) เลยตัดสินไปไปสมัครแล้วทางบริษัทก็รับ (คงเป็นเพราะบอกเขาไปว่าพร้อมเริ่มงานเลยรับเข้าทำงาน) เป็นร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ตอนสมัครคิดแค่ว่าอยู่ว่าง ๆ ทำ ๆ ไปก่อนเดี๋ยวค่อยหางานใหม่ เริ่มงานใหม่ ๆ ก็ไม่มีอะไรมากพอร้านใกล้เปิดเริ่มมีความกังกลเพราะตัวเองเป็นคน ”พูดจาไม่เพราะ ไม่ชอบเอาใจใคร” 

       และเมื่อถึงวันใกล้เปิดร้านจริงสิ่งที่กังวลอยู่มันก็เริ่มหายไปเพราะทางบริษัทได้ส่งเจ้าหน้ามาอบรบเกี่ยวกับ “ขั้นตอนการบริการลูกค้า” “การแต่งการ” “การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า” “สิ่งที่ควรปฏิบัติต่อลูกค้า” “และสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติต่อหน้าลูกค้า” เพื่อนร่วมงานคนอื่นที่เริ่มงานพร้อมกันก็เหมือนกับเราคือไม่มีทักษะในด้านนี้มาก่อนแต่สิ่งคอยบอกกับตัวเองคือ “เราต้องมีความมั่นใจในตัวเอง” อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดแล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป

       เริ่มทำงานในตำแหน่งพนักงานร้านได้ 3 เดือนพอขึ้นเดือนที่ 4 หัวหน้างานให้ย้ายร้านไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วก็ปรับตำแหน่งขึ้นให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้านเลยตัดสินใจไป “ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน” ตำแหน่งนี้กับภาระหน้าที่ที่ต้องมีเพิ่มขึ้นแต่เราก็ต้อง “อดทน” เพราะเราเลือกที่จะรับตำแหน่งนี้แล้ว เริ่มปรับตัวในการเป็นหัวหน้างานในผลัด ต้องเรียนรู้กับการ “แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้ ต้องกล้าคิดกล้าตัดสินใจ” มีความสุขกับการทำงานมากในตอนนั้นคิดว่าคงจะทำงานนี้ไปตลอดและคงจะไม่ไปสมัครงานที่ไหนแล้ว ทุกคนช่วยกันทำงานถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนโดยไม่มีใครบ่นเพราะร้านนี้เป็นร้านที่มียอดขายเยอะมากยอดขายต่อวันเกือบแสน บางครั้งของลงจนไม่มีที่จะยืนทุกคนก็ช่วยกันจนเสร็จถึงจะกลับบ้าน 

       ทำงานอยู่ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการร้านประมาณปีครึ่ง ก็ถูกเรียกให้ไปสอบในตำแหน่งผู้จัดการร้านซึ่งตอนนั้นเลือกที่จะไม่ไปสอบเพราะคิดว่าตัวเอง “ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบ” ตำแหน่งผู้จัดการร้านหน้าที่รับชอบคือ ”ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในร้าน”        6 เดือนต่อมา หัวหน้างานแจ้งมาว่าให้ไปขึ้นตำแหน่งผู้จัดการร้านเลยโดยที่ต้องสอบ (เลือกไม่ได้ว่าจะไปหรือว่าไม่ไป) บอกวันนี้ไปขึ้นตำแหน่งใหม่พรุ่งนี้ยังไม่ทันตั้งตัวเลย “ทำได้เพียงเตรียมตัว เตรียมใจ” 

       ร้านที่มารับตำแหน่งผู้จัดการครั้งแรกเป็นร้านที่มีการทุจริตโดนไล่ออกเกือบทั้งร้าน พนักงานที่เหลือก็จะเป็นพนักงานใหม่ ผู้ช่วยผู้จัดการก็ขาด ซึ่งต้องคิดหนักมากและต้องทำการบ้านอย่างมาก ต้องมีการวางแผนการจัดการภายในร้านใหม่โล๊ะระบบเก่าที่เคยอยู่กันมาทิ้งให้หมด แรก ๆ กับหน้าที่ผู้จัดการมันเหนื่อยมากอาจจะเป็นเพราะเรายังไม่พร้อมที่จะทำในหน้าที่นี้ เท่าที่จำได้อาทิตย์แรกที่ไปอยู่ที่นั่นข้าวกลางวันไม่ได้กินเลยเหนื่อยมาก ตอนนั้นรถที่สั่งจองไปยังไม่ได้และยังหาที่พักไม่ได้ต้องตื่นตี 4 ครึ่ง เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์คันแรกที่ออกจาก “อำเภอฮอด” ตี 5 มาทำงานที่อำเภอ “สันป่าตอง” ทุกวันเพื่อที่จะมาถึงที่ทำงานก่อน 8 โมงเช้า เวลาทำงานคือ 8 โมงครึ่งแต่ที่ต้องมาก่อนเวลาทำงานเพราะ “เราต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างเรื่องการมาทำงานให้ตรงเวลาให้กับทุกคนในร้าน” ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่เราก่อน มีท้อบางแต่ไม่เคยคิดที่จะถอย หลายครั้งจะเป็นลมบนรถเมล์ก็มีต้องลงรถกลางทางเพื่อมาตั้งสติหายใจลึก ๆ แล้วค่อยเดินทางต่อวันหยุดก็ค่อยหยุดเพราะต้องให้ผู้ช่วยและพนักงานหยุดก่อนโครงสร้างร้านพนักงานขาดแต่สำหรับเราไม่เป็นไร “เพราะถ้าผู้ช่วยหรือพนักงานขาดเราก็จะเหนื่อยยิ่งกว่านี้อีก” 

       กับตำแหน่งนี้เหนื่อยแต่มันก็คุ้มกับที่เหนื่อยเมื่อเทียบกับผลที่มันออกมา ผลประกอบการของร้านนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไปไหนก็จะมีแต่คนชม และขอคำแนะนำเกี่ยวกับ ”การทำงาน” “การสร้างทีมงาน” ไปประชุมที่สำนักงานไม่กลัวเลยที่จะนั่งหน้าเพราะผลประกอบการร้านเราดีทุกอย่างถามอะไรตอบจนได้รับรางวัลร้านที่มียอดขายเติบโตและได้รับรางวัลคือการไปทัวร์เกาหลีฟรีพร้อมเงินอีก 10,000 บาท ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้รับเลยดีใจมาก และยิ่งกว่านั้นสิ่งที่ภูมิใจมากที่สุดในการทำงานให้กับองค์กรนี้คือ การได้รับความไว้วางใจให้ไปเปิดร้านสาขาใหม่เป็นร้านเซเว่นที่ใหญ่ที่สุดในบริษัท ตั้งอยู่ที่ อำเภอจอมทอง ตำบลแม่สอย เป็นร้านที่มีขนาดใหญ่มี 5 คูหา ปกติเราจะเห็นแต่ร้านที่มีขนาด 2 คูหา และ 3 คูหา มีลานจอดรถให้ลูกค้าที่สามารถจอดได้ถึงประมาณ 30 คัน และพิเศษไปยิ่งกว่านั้นร้านนี้มีห้องทำงานส่วนตัวสำหรับผู้จัดการด้วยซึ่งเท่าที่อยู่ร้านมาทั้งหมดและเท่าที่ทราบมาในบริษัทยังไม่มีร้านไหนมีห้องทำงานส่วนตัวสำหรับผู้จัดการเลยบอกกับตัวเองเสมอว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รับโอกาสนี้

      การที่อยู่ในตำแหน่งนี้ต้องต่อสู้และเรียนรู้อะไรลาย ๆ อย่าง ต้อง “เปิดใจ” (เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของพนักงานทุกคนเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็นให้เขาได้มีส่วนร่วม) “ให้ใจ” (ไปเยี่ยมคนในครอบครัวของพนักในร้านทุกคนที่มีการเจ็บป่วยถ้ามีโอกาส แต่ถ้าไม่ได้ไปก็จะส่งตัวแทนไปคือ ผู้ช่วยจัดการร้าน เนื่องจากร้านที่อยู่ตอนนั้นคือ สาขาหน้าโรงบาลสันป่าตอง และพนักงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในพื้นที่) “ใส่ใจ” (คอยถามถึงสารทุกข์สุกดิบของพนักงานในร้านทุกคนเป็นประจำ) “ระวังการใช้คำพูด” (ใช้คำพูดที่เหมาะสม ไม่ต่อว่าพนักงานต่อหน้าลูกค้า) “เรียนรู้พฤติกรรม” (เรียนรู้ถึงนิสัยใจคอของพนักงานในร้านทุกคนว่าต้องใช้วิธีการพูดแบบไหนถึงจะได้งานซึ่งวิธีการพูดให้ได้งานของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน) “เรียนรู้เรื่องขีดความสามารถของแต่ละคนการใช้คนให้เหมาะสมกับงาน” (การใช้คนให้เหมาะสมกับงานถือเป็นเรื่องที่สำมาก ถ้าเราเลือกใช้คนไม่เหมาะสมกับงาน งานนั้นก็จะช้าหรืออาจจะไม่สำเร็จ) “เรียนรู้เรื่องการแก้ไขเฉพาะหน้าในแต่ละวัน” (เหตุการณ์และสถานการณ์ของแต่ละวันไม่เหมือนกัน บางวันลูกค้าต่อว่าเรื่องให้การบริการของพนักงานเราต้องเป็นคนขอโทษลูกค้าไม่ใช่พนักงาน) “เรียนรู้ที่จะอดทน” (อดทนต่อปัญหาทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้น) “เรียนรู้ที่จะสู้” (เตรียมพร้อมกับทุกปัญหาที่มันยังมาไม่ถึง) “เรียนรู้ที่จะรักษาบุคลากรภายในองค์กร” 

       โดยเฉพาะเรื่องการสอนงานพนักงานใหม่ ก่อนที่จะให้ผู้ช่วยสอนงานจะบอกผู้ช่วยก่อนเสมอให้ย้อนกลับไปวันที่ตัวเองมาทำงานวันแรกว่าเป็นยังไงกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ การเริ่มงานใหม่จะให้ได้เลยมันเป็นไปไม่ได้ต้องค่อยเป็นค่อยไป เรารับเขามาทำงานแล้วเราก็ต้องรักษาเขาไว้ให้ดีที่สุดเพราะกว่าจะสอนงานได้แต่ละคนต้องใช้เวลา “ขาดเขาเราก็เหนื่อย” ต้องรับมาใหม่แล้วสอนงานอีก สอนเรื่องที่เรารู้ทุกอย่างให้กับทุกคนในร้าน เพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้และเทคนิคในการทำงานและเดินไปถึงยังฝั่งที่เขาต้องการ ซึ่งตอนนี้ผู้ช่วยที่อยู่ร้านด้วยกันมาสู้ทำงานด้วยกันมาเดินทางไปถึงฝั่งกันหมดแล้วกับตำแหน่งผู้จัดการร้านทั้ง 3 คน รู้สึกภูมิใจที่เราสามารถสร้างคนให้ดีและเก่งได้

      บางคนเคยสงสัยว่า “มีความสุขและสนุกกับการทำงานที่ทำอยู่” แล้วทำไมถึงตัดสินใจ “ลาออก” ปัจจัยที่ทำให้ต้องลาออกมีอยู่หลายอย่าง อย่างแรกคือ ไม่มีเวลาให้ครอบครัวซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่มีเวลากลับบ้านไปหา พ่อ แม่ เลย (ส่วนมากจะทำงาน จันทร์ – อาทิตย์ ) ไม่มีเวลาที่จะมีเวลาเป็นส่วนตัว (อาจจะเป็นเพราะเราจริงจังกับงานมากเกินไป อยากให้ผลประกอบการร้านทุกอย่างออกมาดี) และสุดท้ายคือเราอิ่มตัวกับตรงนี้และทำงานตรงนี้ได้ดีแล้ว และอยากจะหาประสบการณ์ในงานด้านอื่นบ้างจึงตัดสินใจลาออกและมาสมัครงานในตำแหน่ง “เจ้าหน้าที่งานบริหารงานทั่วไป (งานสารบรรณ) ฝ่ายบริหารทรัพยากร” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ท้าทายเพราะไม่มีความรู้เรื่องเอกสารทางราชการเลย (คิดเองทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้) และตอนนี้มาทำหน้าที่ตำแหน่งครูผู้สอน ตำแหน่งครูผู้สอนนี้ได้มายังไงติดตามบันทึกต่อไปค่ะ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ค่ะ “ขอบคุณค่ะ”


หมายเลขบันทึก: 652754เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2018 21:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน 2018 21:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (49)

บันทึกนี้น่าจะเป็นบันทึกที่ยาวที่สุดของห้อง ณ ตอนนี้ ;)…

ขอให้กำลังใจครับ

เรื่องราวของพี่รจนา น่าสนใจมากค่ะ เห็นด้วยกับพี่นะคะ ที่บอกว่า ครอบครัวสำคัญที่สุด

ชีวิตเป็นของเรา อนาคตเราคือผู้กำหนด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้นั้นเพราะตัวของเราเอง และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา คือประสบการณ์ที่ดีเช่นกันคะ ^^

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวข้อคิดดีๆครับ

สุดยอดมากค่ะ สุ้ต่อไปน่ะค่ะ

ชีวิตนี้ต้องสู้จริง ๆ สุดยอดมากค่ะ

ประสบการณ์ที่ผ่านมา มีค่าต่อเรามากมาย สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ชีวิตต้องสู้ เป็นกำลังใจให้นะคะ

@น้ำหมึก ส.รุ่งรักษ์เจริญชัย ขอบคุณค่ะ

@เหล่าซือพิซซ่า ขอบคุณค่ะ

@เกศินี ป๊อกนันตา ขอบคุณค่ะ

เป็นประสบการณ์ที่น่าชื่นชมครับ

สุดยอดค่ะบันทึกนี้

เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากครับ

ชีวิตต้องสู้ครับผม เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ

@พัชรินทร์ ทีเก่ง ขอบคุณค่ะ

@วณัฐพล ตุ่นแก้ว ขอบคุณค่ะ

@เมษา ใจโอบอ้อม ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท