ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงวันนี้
เดินผ่านปั๊มก็บ่อย แต่ไม่ค่อยมีปั๊มน้ำมันที่ไหนเขียนป้ายบอกไว้ว่าวันนี้น้ำมันราคาเท่าไหร่ แต่วันนี้โชคดีครับ ที่ผ่านปั๊มนี้มีป้ายติดไว้ว่าราคา 135 เยนต่อลิตร ตกเป็นเงินไทยก็ราวๆ เกือบ 42 บาทครับ ราคานี้เป็นราคาโปรโมชั่นนะครับ ปั๊มนี้ราคาถูกกว่าปั๋มอื่นๆ ผมถามเด็กญี่ปุ่นดู เด็กๆบอกว่าราคาวิ่งอยู่ราวๆ 140-150 เยนต่อลิตรครับ แต่ละปั๊มราคาไม่เท่ากัน ก็เลือกกันเองว่าอยากเข้าปั๊มไหน
บ้านเราราคาน้ำมันถูกกว่านี้พอสมควรครับ ผมนึกสะท้อนใจว่าถ้าน้ำมันที่บ้านเราราคาเท่าที่ญี่ปุ่นนี่ ผมจะยังใช้รถยนต์อีกมั้ย สงสัยจะต้องเปลี่ยนมาใช้จักรยานเหมือนเด็กๆญี่ปุ่นบ้างแล้ว
มีโอกาสประหยัดได้ก็ประหยัดครับ ช่วยชาติลดภาระ และช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าตัวเองให้มากขึ้น สำหรับใช้จ่ายอย่างอื่นที่เหมาะสมครับ
หมายเลขบันทึก: 65193เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2006 19:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:40 น. () สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (9)
รู้สึกว่า "แพง" มากๆเลยครับ หากเป็นแบบนี้คงต้องจอดรถไว้ที่บ้านแล้วครับ
สนับสนุนเรื่องการประหยัดครับ หากช่วยกันคนละนิด หลายๆคนรวมกัน ก็ลดการใช้พลังงานได้มหาศาล
- ตอนนี้"ขอนแก่น" รณรงค์..."หนาวนี้..ขี่จักรยานไปทำงาน"...คงไปกันได้กับบรรยากาศนำมันแพง
- กลับบ้านเร็วๆซีคะ...
สวัสดีตอนเช้าครับ คุณเอก
- ที่ญี่ปุ่นเขาก็ไม่ค่อยใช้รถยนต์กันครับ ส่วนใหญ่นิยมใช้รถไฟใต้ดินกัน เพราะเดินทางได้สะดวก ควบคุมเวลาได้เป็นอย่างดี ตรงเวลามากในระดับนาที เวลาคุยกัน ก็จะบอกว่านั่งรถสายนี้ตอน 7โมง 21 ไปลงที่สถานีนั้น ตอน 7 โมง 32 แล้วไปต่อรถไฟอีกสายตอน 7 โมง 39 ทำนองนั้น
- รถไฟใต้ดินที่นี่ตรงเวลามากครับ และมีน่าจะทุกๆ 3-5 นาที โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนจะมีค่อนข้างมาก ไม่เคยรู้สึกว่ารอรถไฟนานเลยครับ
- คนญี่ปุ่นชอบใช้รถจักรยานกันครับ ขี่กันบนบาทวิถี แต่จุดเชื่อมต่อระหว่างบาทวิถีกับถนน เขาจะทำเป็น slope เพื่อให้รถจักรยานขึ้นลงได้สะดวกครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมากครับ
- ระบบขนส่งมวลชลของญี่ปุ่นเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าศึกษาครับ เขาทำได้เป็นระบบที่เชื่อมต่อกัน มีการให้บริการที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกพอสมควร และไม่มีปัญหาเรื่องการขาดทุนครับ
สวัสดีตอนเช้าครับคุณกฤษณา
- ดีครับ กับการรณรงค์ให้ใช้รถจักรยาน แต่มากกว่าคำว่ารณรงค์แล้วขี่กันสักอาทิตย์แล้วหายไป คือต้องสร้างจิตสำนึก ให้รักการประหยัด การขี่จักรยานเป็นการช่วยชาติ การขี่จักรยานเป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี ฯลฯ ซึ่งผู้บริหารระดับสูงต้องทำเป็นตัวอย่าง และทำอย่างต่อเนื่อง มีการอำนวยความสะดวกให้ในระยะยาว เช่น การสร้างเส้นทางจักรยานรอบเมือง การสร้าง slope ขี้นลงบาทวิถีกับถนนบริเวณจุดเชื่อมต่อตามสี่แยกหรือสามแยกเพื่อให้จักรยานขึ้นลงจากถนนได้สะดวกไม่ต้องจอดรถแล้วยกจักรยานขึ้นไปขี่ต่อบนบาทวิถี โอ้ย....สารพัดครับ เรื่องนี้มีตัวอย่างให้เห็นเยอะครับ ผู้บริหารระดับสูงขับรถยนต์ไปเปิดงานรณรงค์ให้ขี่จักรยาน โดยขี่จักรยานรอบสวนสาธารณะ 1 รอบ แล้วขับรถยนต์กลับ เป็นเรื่องทำนองเดียวกับพ่อที่สูบบุหรี่โชว์ให้ลูกดูทุกวันครับ แล้วก็บอกลูกว่าบุหรี่เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรสูบ แล้วหวังว่าลูกจะเชื่อ....อะไรทำนองนั้น
- พูดมาเสียยืดยาว เดี่ยวคุณรัตติยาจะว่าอีก ว่าผิดคอนเซ็ปต์ ช่วงนี้ต้องฝึกเก็บปากเก็บคำ ไว้กลับไปพูดว่า ครับ....ที่บ้าน
- อิ อิ
- เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะกับการทำเหมือนเป็นแฟชั่น...ให้ฉันขี่จักรยานก็คงไม่เอาเพราะอันตรายมากๆค่ะ..ใช่ว่าคนขี่รถยนต์จะเคารพกติกาเสมอไป...ทางม้าลายคนรอตั้งเยอะยังไม่ยอมให้ข้ามเลยค่ะ
- กลับมาเมืองไทยจะมีเวลามาคุยแบบนี้ไหมหน้อ?....
- ไม่มีครับ เพราะผมต้องไปเดินตามคุณนาย ต้อย ๆ อ้าปากพูดเกินกว่าหนึ่งคำก็ไม่ได้ครับ ไปตามคำบัญชา เธอจะชี้นิ้วให้ไปทางซ้าย ก็ไป เธอจะชี้นิ้วให้ไปทางขวาก็ไป (ผมหมายถึงให้เธอไปเองนะครับ ผมจะคอยมอง)
- อิ อิ
- ได้นินทาอีกแล้ว เฮ้อ...สบายใจ
ยกเว้นข้อสุดท้ายค่ะ
อิ อิ ขอบคุณครับ