เก็บตกวิทยากร (47) : -ขอบคุณ-ขอโทษ (จดหมายรักถึงคนที่เรารัก)


ผมตั้งใจมากกับกระบนการนี้ ผมตั้งใจใช้เวลาอันจำกัดแต่หวังผลอย่างมหาศาล โดยเริ่มต้นจากให้ “ทีมงาน” แจกบัตรคำให้กับทุกคน ให้แต่ละคนเขียน “ขอบคุณ” และ “ขอโทษ-ขออภัย” ถึงใครสักคน พร้อมให้แต่ละคนเขียนเรื่องราว หรือเหตุผลสั้นๆ ลงไปด้วย


มันเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อยกับเวลาอันจำกัดที่จะทำกระบวนการให้ผู้คน “เปิดใจ” รับรู้รับฟัง หรือสื่อสารความในใจให้กันฟัง  ทั้งในมิติการงานและชีวิต

ในเวลาไม่ถึง 30 นาที  ผมตัดสินใจออกแบบเวทีการเรียนรู้เพื่อละลายพฤติกรรมผ่าน “จดหมายรัก”  ในประเด็น “ขอบคุณ” และ “ขออภัย”

 



จดหมายรัก ถึงคนที่เรารักในองค์กรแห่งรัก


เอาจริงๆ เลยนะ  ผมเป็นคนหลงรัก “จดหมาย” เป็นที่สุด  ในอดีตผมชอบเขียนและอ่านจดหมาย  ชอบส่งโทรเลข  และชอบอ่านหนังสือ หรือดูภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากจดหมาย-โปสการ์ด

สารภาพตรงๆ นี่แหละว่าเอาความชอบส่วนตัวมาทำกระบวนการ 

ใช่ครับ - เอาความชอบส่วนตัวมายัดเยียดลงในกระบวนการเรียนรู้ 

ผมตั้งใจมากกับกระบนการนี้  ผมตั้งใจใช้เวลาอันจำกัดแต่หวังผลอย่างมหาศาล  โดยเริ่มต้นจากให้ “ทีมงาน”  แจกบัตรคำให้กับทุกคน  ให้แต่ละคนเขียน “ขอบคุณ”  และ “ขอโทษ-ขออภัย”  ถึงใครสักคน  พร้อมให้แต่ละคนเขียนเรื่องราว  หรือเหตุผลสั้นๆ ลงไปด้วย

 


นำส่งจดหมายรักถึงคนที่เรารัก


ครั้นเขียนเสร็จ  ผมให้แต่ละคน  

  • (1) นำจดหมายไปให้คนรัก  หรือ 
  • (2)  ถ้าไม่กล้าให้ฝากทีมงานผมไปส่งให้แทน หรือ 
  • (3)  นำไปปิดประกาศไว้ที่บอร์ด  หรือ 
  • (4) เก็บไว้เป็นความลับกับตัวเองต่อไปเงียบๆ

เอาจริงๆ เลยไหม  ใจจริงผมอยากทำกระบวนการนี้ให้ยืดยาวและนานยาวกว่านี้มากๆ  เพื่อเปิดรับเข้าสู่ “วงโสเหล่-สนทนา”  ประหนึ่งร่วม “จัดการความรัก” ร่วมกัน

แต่ก็อย่างที่บอก  เวลามันจำกัดมากๆ  เอาเป็นว่า  ผมเน้นกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์นั่นแหละ  แต่ก็ยังอหังการ์อย่างเงียบๆ ว่า  กระบวนการเล็กๆ ในบริบทของเวลาอันจำกัด  จะยังมีพลังพอที่จะเชื่อมร้อยผู้คนเข้าหากัน  เสมือนได้เริ่มต้นที่จะช่วย “เคาะประตูใจ”  กันและกันบ้างแล้ว


ท้ายที่สุดแล้ว


ผมยืนยันว่าผมคิดแบบอหังการ์เองว่ากระบวนการที่ว่านั้นดีงามพอที่จะ “เปลี่ยนแปลง” บางอย่างในตัวตนของแต่ละคนได้  ซึ่งอาจเป็นแค่เรื่องการเริ่มต้นที่จะตระหนักรู้ในเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วเราแล้วกระทบต่อคนรอบข้าง – กระทบต่องาน และองค์กร

ถึงแม้เจ้าตัวอาจจะยังไม่กล้าส่งจดหมายนั้นถึง “คนรัก” ด้วยตนเองก็เถอะ  ผมก็ยังเชื่อว่าเมื่อเขาได้ขีดเขียนออกมาแล้ว  อย่างน้อยก็ได้ชำระจิตใจตัวเอง  ได้เสริมพลังบางอย่างให้กับตัวเองผ่านวาทกรรมง่ายๆ และงดงาม 

ใช่ครับ – ง่ายๆ แต่ก็อาจจะพูดยากอยู่บ้าง  แต่อย่างน้อยในกระบวนการนี้  ก็ชวนให้แต่ละคนได้เริ่มต้นขึ้น (บ้าง) แล้ว


ในวันเวลาของการสัมมนานอกสถานที่ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่วัน  ผมก็เชื่อว่าจดหมายน้อยที่ว่านี้จะนำพาใครแต่ละคนขยับเข้าหากันได้มากกว่าที่ผ่านมา  หรือแม้แต่กระชับมั่นในสายสัมพันธ์แห่งรักและผูกพันกันยิ่งขึ้น 

และก็ไม่จำเป็นต้องถามใครๆ ในเวทีนี้ว่าได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนี้  หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงในตัวเองบ้างแล้วจากกิจกรรมนี้

ผมเชื่อครับ – และยังเชื่อมั่นอย่างไม่สิ้นหวัง

อ้อ  ผมไม่แน่ใจนะว่า  นี่คือการรู้จักฉันรู้จักเธอในแบบบันเทิงเริงปัญญาที่ผมมักขับเคลื่อนหรือไม่  แต่เอาง่ายๆ เลยนะ  ผมสุขใจที่ได้ทำกระบวนการนี้

   


เขียน :
วันที่  5 กรกฎาคม 2561
ปากช่อง นครราชสีมา
ภาพ :
พนัส  ปรีวาสนา 
และงานประชาสัมพันธ์และสารสนเทศนิสิต  
กองกิจการนิสิต  มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

หมายเลขบันทึก: 648713เขียนเมื่อ 5 กรกฎาคม 2018 11:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 กรกฎาคม 2018 11:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขออนุญาตนำไปใช้ในกระบวนการเรียนรู้ให้พยาบาลด้วยได้ไหมคะน่าจะทำให้เกิดประโยชน์มากมายค่ะ

ครับ พี่แก้ว

ยินดีและเป็นเกียรติครับ หลายๆเวทีผมใช่กระบวนการนี้ช่วยละลายพฤติกรรมผู้คนไปในตัว ซึ่งก็ช่วยได้เยอะ ใครไม่กล้าพูดก็ใช้การเขียนสื่อสารแทน เกิดการตามหากัน โอบกอดกัน

เป็นการเขียนเพื่อบำบัดและสื่อสารสร้างสรรค์ ผ่านเวทีนี้มาวันสองสันก็เจอจดหมายน้อยของคนติดถ้ำฯ และญาติมิตรก็พลอยมีความสุข ผมว่าเขาก็คงมองไม่ต่างกันครับ ….

“ขอโทษ” หรือ “ขอบคุณ” มันเป็นการช่วยลดทิฐิของใครสักคนที่มีต่อใครสักคนอย่างแนบเนียน ;)…

ใช่ครับ ออาจารย์วัส Wasawat Deemarn

กระบวนการนี้ง่ายงามครับ รำลึกวัฒนธรรมการสื่อสารของคนเราไปในตัวก่อนก้าวเข้ายุคไอทีอันล้ำสมัย แต่แน่ชัดเหมือนอาจารย์ฯ ว่า นี่คือกระบวนการช่วยลดทิฐืของเราและเราไปในตัว ซึ่งถ้าไม่เข้าข้างตนเองมากนัก ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งในแบบฉบับบันเทิงเริงปัญญาที่ได้รับการตอบรับที่ดี ครับ

ขอโทษและขอบคุณ..นั้นเป็นแบบอย่างวัฒนธรรมฝรั่ง…ที่ปรากฏได้ยากในสังคมไทยแต่ที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น…"”น้ำใจ.”..นั้น..มันเปี่ยมล้น..เมื่อถูกแสดง..ออกมา…..ดังที่เห็น..เป็นครั้งคราว..!หรือ อาจจะ มีทุก ๆ นาที ที่เรา..ไม่ได้สัมผัส.ด้วยโสต.ทั้งห้า..ได้….

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท