ธรรมะเปลี่ยนศรัทธา จากสมเด็จพระอริยะวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช

สำหรับใครที่ไม่ได้ฟังคติธรรมของสมเด็จพระอริยะวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ที่ทรงประธานเนื่องในวันวิสาขบูชาโลกที่ผ่านมา (วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑) ขอเชิญชมคลิปด้านล่างนี้ ประมาณนาทีที่ ๒๐ เป็นต้นไป หรือหากไม่ถนัดก็เชิญลัดไปอ่านแก่นคติธรรมด้านล่าง

ความตอนหนึ่งว่า ....

"...เมื่อพิจารณาข่าวสารของโลกทุกวันนี้ หลายคนอาจรู้สึกว่า ในปัจจุบัน มีข่าวที่ไม่น่าพึงใจมากขึ้นทุกที บางเรื่องก็เป็นที่น่าสลดหดหู่ บางเรื่องก็เป็นที่น่าหวาดหวั่น บางเรื่องก็เป็นที่น่าขุ่นเคืองใจ จนคนบางคนกลายเป็นคนตื่นข่าว เป็นคนระทมอมทุกข์  หรือตกอยู่ในภาวะเครียด หรือซึมเศร้าไปบ้างก็มี 

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระมหากรุณาสั่งสอนให้เราทั้งหลายเป็นผู้ตื่นรู้ เป็นผู้พ้นจากความหลับไหล เป็นผู้สามารถรู้เท่าทันจิตใจของตนเองอยู่ตลอดเวลา 

ความรู้เท่าทันดังกล่าวนี้ คือการรู้แจ้งสภาวะธรรมทั้งหลาย ไม่ว่ารูปธรรมหรือนามธรรม ว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา และไม่ใช่ของเรา หากแต่เป็นสภาวะที่เกิดดับ สลับกันไปไม่รู้จบสิ้น 

ความไม่รู้เท่าทันสภาวะเช่นนี้เอง ที่อำพลางให้คนเราคิดผิด เข้าใจไปว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนจีรังยั่งยืน เป็นตัวเราและเป็นของเรา เปรียบเสมือนการใช้เวลาตลอดชีวิต ชมมายากลอย่างเพลิดเพลิน โดยมิรู้เท่าทันว่า ภาพอันดำเนินต่อเนื่องอยู่เหล่านั้น เป็นเพียงมายาที่ดวงตาทั้งสิ้น 

แต่ถ้าเมื่อใด บุคคลมีความรู้แจ้งในสภาพทุกข์ สภาพการเปลี่ยนแปลง และสภาพที่ว่างจากความเป็นตัวตน เขาย่อมจะสามารถละคลายความโลภ ความโกรธ และความหลง ที่ล้วนเกิดจากความเห็นแก่ตัวลงได้ 

อย่างไรก็ตาม การที่จะละคลายความยึดมั่นถือมั่น อันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้น ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย หากขาดธรรมะที่เรียกว่า "สติ" ความทุกข์ยากในโลกมนุษย์ ที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ ล้วนเกิดจากภาวะขาดสติด้วยกันทั้งสิ้น 

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงประธานพระบรมพุทโธวาทไว้ว่า สติเป็นเครื่องตื่นอยู่ในโลก 

เพราะฉะนั้น บุคคลใด ครอบครัวใด ชุมชนใด และสังคมใด ปรารถนาจะประสบสันติสุขอันไพบูลย์ บุคคลนั้น ครอบครัวนั้น ชุมชนนั้น และสังคมนั้น จำเป็นต้องสั่งสมภาวะแห่งการตื่นรู้ เพื่อจะได้รู้เท่าทันการคิด การพูดและการกระทำ ด้วยสัมมาสติ อันเป็นหนทางไปสู่ปัญญา นำมาซึ่งความหลุดพ้นจากห้วงทุกข์ได้อย่างแท้จริง...

...สาธุชนทั้งหลาย จงอย่าได้ละเลยการอบรมเจริญสติ ให้รู้เท่าทันกาย วาจา และใจของตน อันจักได้ชื่อว่า เป็นการกระทำหน้าที่ชาวพุทธ ได้ประพฤติตามหลักปฏิบัติบูชาที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ และเป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนอยู่คู่โลกนี้สืบไป ตราบกาลนาน...

หลังจากได้ฟังธรรมนี้แล้ว รู้สึกถึงศรัทธาและเคารพบูชาอย่างหมดใจต่อองค์สมเด็จพระสังฆราช พระองค์นี้   สาธุ...