ลงพื้นที่ครั้งที่ 8


                                                                                                    วันที่สัมภาษณ์ สำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนาม 

                                                                                                                    วันที่ 25 เมษายน 2561

ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่ครั้งที่ 7 นะคะ เราได้มาเอาข้อมูลตามที่ผู้ใหญ่บอกไว้ แต่พอมาถึงรองผู้ใหญ่กลับบอกเพียงว่าไม่มีข้อมูล สามารถเล่าให้ฟังได้แค่ประวัติของผู้ใหญ่ว่ามีกี่คน แค่นั้นและยัแนะนำให้พวกเราไปหา ผู้ใหญ่คนเก่าจะดีกว่า พวกเราก็รีบไปหาผู้ใหญ่คนเก่าเลยค่ะ พอไปถึงคุณลุงใจดีมาก เรียกพวกเราเข้าไปนั่ง จึงได้พูดคุยกัน คุณลุงบอกว่าลุงเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและในตอนนี้ดำรงตำแหน่งรองนายกอยู่ คุณลุงเล่าว่าคุณลุงเคยทำหนังสือประวัติหมู่และได้มอบให้ผู้ใหญ่คนปัจจุบันไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ทั้ลุงไม่มีหนังสือเเล้วแต่ลุงเล่าให้ฟังได้ พวกเราเลยบันทึกเสียงและแกะมาได้ตามนนี้ค่ะ

ประวัติของหมู่บ้านรางอีเม้ย

          เดิมตำบลดอนตูมกับอำเภอกำแพงแสนเป็นอำเภอเดียวกัน สมัยก่อนอำเภอกำแพงแสนจะอยู่ที่ 3 แควคืออำเภอดอนตูมปัจจุบัน ตำบลห้วยขวางเมื่อก่อนใช้ชื่อตำบลว่า ลำเหย พออำเภอกำแพงแสนย้ายกลับมาอยู่ที่ปัจจุบันหรืออำเภอท่า อำเภอดอนตูมเลยเป็นกิ่ง ตำบลลำเหยกับตำบลห้วยขวางเลยแบ่งกัน ตำบลห้วยขวางขึ้นกับอำเภอกำแพงแสน ส่วนตำบลลำเหยขึ้นกับกิ่งอำเภอดอนตูม

          ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ที่หมู่บ้านเป็นนิคมรัฐบาลที่ให้ชาวบ้านมาจับจองพื้นที่ ในพื้นที่มีแต่คนต่างชาติ ไทย จีน ลาว มอญ และยิว ที่มาขอ เล่ากันว่า คนมอญที่อพยพมาจากเพชรบุรี เป็นเด็กหญิงอายุประมาน 12-13 ขวบ ได้มาตกน้ำตายที่ลำรางหน้าโรงเรือนคลองธรรมชาติหรือคลองดิน ที่เป็นทางจากกาญจนบุรี ที่จะไหลลงแม่น้ำท่าจีน เด็กหญิงชื่อเม้ยที่จมน้ำตายหน้าลำรางนั้นเฮี้ยนมาก เวลาที่ผู้คนผ่านไปทางห้วยน้ำหรือปั่นจักรยานผ่าน หรือเดินผ่านห้วยนั้นก็จะเห็นเด็กผู้หญิง จึงมีการตั้งศาลเพื่อกราบไหว้ที่ลำรางนั้น เลยตั้งชื่อว่ารางอีเม้ย จากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นศาลแม่เม้ย จึงได้ตั้งชื่อโรงเรียนว่า โรงเรียนรางอีเม้ย ปัจจุบันนี้ได้ผ่านมาเป็น 100กว่าปีแล้ว

          พอแบ่งตำบลแล้วจากลำเหยมาเป็นห้วยขวางเลยตั้งชื่อหมู่บ้านหมู่ที่7 ตามโรงเรียน คือหมู่บ้านรางอีเม้ย ผู้ใหญ่คนแรกที่ทราบมา คือ ผู้ใหญ่ ป่วน ไม่มีหลักฐานปรากฏ ในสมัยก่อนเรียนกันว่าพ่อบ้าน ต่อมาผู้ใหญ่ที่ต่อจากผู้ใหญ่ป่วน คือ ผู้ใหญ่ ปิ่น เนินนุช เข้ามาปกครองเมื่อ พ.ศ. 2489-2518 คนต่อมาคือ ผู้ใหญ่เซี้ย ศรีพูนทรัพย์ ปกครองตั้งแต่ พ.ศ. 2518-2538 20ปีเต็ม จนอายุ60ปี ต่อมาเป็น ผู้ใหญ่พสิษฐ์ เจริญผล จากนั้นได้เปลี่ยนระบบผู้ใหญ่ 60 ปี ในปี 2538 ได้เป็นผู้ใหญ่ 3 สมัย มา15ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538-2554

 

ต้องขอขอบคุณคุณลุงพสิษฐ์ เจริญผลมาก ที่ให้ข้อมูลแก่พวกเรา 

        

หมายเลขบันทึก: 646739เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2018 00:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2018 00:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท