ยลมัณฑะเลย์(หมู่บ้านมิงกุน:ตอนที่2)


สถานที่สำคัญที่แรกที่เข้าไปสักการะได้แก่ "ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี" .หรือเรียกว่าเจดีย์ชินเพียวมิน ก่อนเข้าประตูวัดต้องถอดรองเท้า เขามีที่ฝากรองเท้า  แต่เราเตรียมถุงใส่รองเท้าถือไปเอง จะได้ไม่ต้องเสียทิปค่าฝาก นอกจากนั้นจะมีเด็กมาขายดอกบัวและมาลัยไหว้พระเยอะมาก เด็กมอมแมม ไม่ไปโรงเรียนผู้ปกครองไม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา คิดว่าทำอย่างนี้ได้เงินก็พอแล้ว

เจดีย์ชินพิวเม  เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆของเจดีย์มินกุน ที่อยู่ในรัฐสกาย ทางตะวันตกของเเม่น้ำอิรวดีอยู่ทางตอนเหนือห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ 10 กิโลเมตร เเละเป็นเส้นทางเดียวกับการเดินทางไปเจดีย์มินกุน เจดีย์มีลักษณะเป็นชั้นๆสีขาวซึ่งได้เเรงบรรดารใจมาจากเขาพระสุเมรุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยหลักภูมิจักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลาง ณ ยอดเขาพระสุเมรุ อันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูมิ เจดีย์ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากเเผ่นดินไหว ในปี 1836 เเล้วถูกบูรณะขึ้นในปี  1874

"หม่องช้อปเพลิน" ระหว่างไหว้พระตามสถานที่สำคัญได้ผ้าโสร่ง หมวก ฯลฯและ>>ชมการเพนท์หมวกใบลาน<<เดินไปอีกสถานที่หนึ่งที่นี่มีเจ้าอาวาสใหญ ่เป็นพระองค์ใหญ่ที่สุดที่นี่ สิ่งสำคัญ 1 ใน5  มีเด็กเดินตามเพื่อถ่ยรูปให้เพราะเขาหวังทิปจากนักท่องเที่ยว

ระฆังยักษ์หมิงกุน ใหญ่สุดในโลก (Mingun ball) ระฆังยักษ์หมิงกุนหรือ Mingun bell เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ติดกับเจดีย์หมิงกุน (mingun pagoda) ห่างจากตัวเมืองมัณทะเลย์ทางรถ 10 กิโลเมตร ผมว่าอาจจะ 15 กิโลด้วยซ้ำ ข้ามแม่น้ำอิรวดีแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือของมัณฑะเล ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิรวดี การหล่อระฆังเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1808 และได้เสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ.1810 น้ำหนักระฆังเป็น 90 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลางขอบระฆังเป็น 4.95 เมตร ซึ่งจะช่วยให้เส้นรอบวงประมาณ 15.47 เมตร ความสูงโดยรวมของระฆังคือ 6.3 เมตร

อีกหนึ่งความใหญ่โตอลังกาลงานสร้างในเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาร คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกเสียจาก เจดีย์ที่มีนามว่า “มิงกุน”  ความใหญ่โตนี้สร้างไม่เสร็จหรอก แต่ทั้งหมดเหลือไว้แค่เพียงหลักฐานและร่องรอยแห่งความทะเยอะทะยานของพระเจ้าปดุง  และเหลือเพียงเศษซากไว้ให้เราได้ชมกัน  ที่ท่าเรือหมู่บ้านมิงกุน เมื่อขึ้นฝั่ง เราจะพบโบราณสถานจุดแรกที่มีชื่อว่า เจดีย์เซตตอยา ซึ่งพระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างครอบรอยพระพุทธบาทจำหลังบนหินอ่อน เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวย่างสู่ดินแดนที่พระเจ้าปดุงมีพระราชดำริจะสร้างเจดีย์มิงกุน หรือ “เจดีย์จักรพรรดิ” ที่ใหญ่ที่สุดและสูงกว่าเจดีย์ใดๆในสุวรรณภูมิ

ชมเจดีย์มิงกุน 1 ใน5 สิ่งสำคัญ เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก(สมัยก่อนปัจจุบันที่กรุงมอสโคใหญ่ที่สุด) เพราะสูงถึง 152 เมตร แต่ยังสร้างไม่เสร็จ ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตการณ์แผ่นดินไหว

เศษซากเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สร้างไม่เสร็จ มีสิงห์คู่ประดับอยู่ด้านหน้า ภายในวิหารมีพระพุทธรูปขนาดเล็กประดิษฐานอยู่ มองเห็นพุทธศาสนิกชนแวะเวียนเข้าไปกราบไหว้บูชา ขอพรจากองค์พระอยู่ไม่ขาดสาย ซึ่งจะมีพระสงฆ์คอยสวดมนต์อยู่ภายในวิหาร   สิงโตใหญ่ สิ่งสำคัญ1 ใน5. เหลือแต่บั้นท้าย ส่วนหัวลงไปกินน้ำในแม่น้ำอิรวดีตามความเชื่อ จากตรงนึ้เป็นที่ลงเรือกลับในเส้นทางเดิม จะมีแท๊กซี่วัวเทียมเกวียนไว้บริการนักท่องเที่ยว

ชมสถานที่ที่สำคัญแล้ว ลงเรือกลับทางเดิมใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง  ขึ้นจากเรือกลับขึ้นรถบัสเดินทางสู่มัณฑะเลย์ไปทานอาหารมื้อกลางวัน แและไปเที่วต่อค่ะ....ตามมาค่ะ


หมายเลขบันทึก: 645209เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2018 21:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มีนาคม 2018 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท