เมื่อไตร่ตรองสิ่งที่อยู่ในหัวแล้วแกะรอย ก็จะเจอภาษาความคิดมากมายซ่อนอยู่ให้ค้นหา บันทึกนี้เขียนไว้เมื่อ ๒๘ มค.๒๕๕๘ หยิบมาอ่านอีกก็เจอชุดภาษาที่เชื่อมความสัมพันธ์ความคิดกับความรู้สึกอย่างน่าประหลาดใจยิ่ง
ผู้ใหญ่ ใช้ภาษาที่เรียกว่า "เหตุผล" คุยกับตัวเองก่อนเกิดการตัดสินใจ "ทำ-ไม่ทำ"........เด็ก ใช้ภาษาที่เรียกว่า "ความรู้สึก" คุยกับตัวเองก่อนเกิดการตัดสินใจ "ทำ-ไม่ทำ" ........ กึ่งเด็ก กึ่งผู้ใหญ่ ใช้ภาษาที่เรียกว่า "ความเชื่อ" คุยกับตัวเองก่อนเกิดการตัดสินใจ "ทำ-ไม่ทำ" ........
กว่าจะคุยกับผู้ใหญ่ให้ "รู้" เรื่อง ก็ต้องพาตัวเองมุดกล่องความคิดจำนวนมหาศาล กว่าจะคุยกับเด็กให้ "รู้" เรื่อง ก็ต้องพาตัวเองมุดลงไปอยู่ในกล่องความรู้สึกเดียวกันกับเด็กให้เป็น
.............. การมีสภาวะกึ่งเด็ก กึ่งผู้ใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวกับอายุเลย ประสบการณ์ที่พบเจอหลังได้กระทำต่างหากที่หล่อหลอมให้เกิดสัดส่วนที่แตกต่างของสภาวะทั้งสองในตัวผู้คน
"โกรธ กลัว รัก" เป็นภาษาที่ผู้ใหญ่มักจะเข้าใจว่าเด็กเข้าใจ แต่แท้จริงแล้ว "กอด ยิ้ม บึ้ง เสียงดัง หอมแก้ม ทำให้เจ็บ ถนอม ไม่สนใจ ผลักไส เย็นชา" ต่างหากเป็นภาษาที่เด็กเข้าใจ
..............
เด็กชอบมุดเข้าไปลองเล่น ลองเรียน ลองอยู่ ลองชิมลางในกล่องความรู้สึกของตัวเอง แล้วจดจำไว้ กล่องไหนที่มุดแล้วความสุขบังเกิดก็จะมุดอยู่นั่นแล้ว กล่องไหนที่มุดแล้วทำให้ประหลาดใจก็มุดจนหมดความประหลาดใจ แล้วก็ค้นหากล่องที่จะมุดไปเรื่อยๆ ใช้ความสุขเป็นไฟส่องทางในชีวิต หากล่องที่จะลองมุดต่อ
ผู้ใหญ่ชอบมุดเข้าไปลองเล่น ลองเรียน ลองชิมลางในกล่องความคิด ไม่ชอบมุดเข้าไปลองเล่น ลองเรียน ลองชิมลางในกล่องความรู้สึก เมื่อลองอยู่ในกล่องความรู้สึก ก็ชอบมุดเข้าไปชิมลางกับกล่องความกลัว จนเชี่ยวชาญกับการใช้ความกลัวเป็นไฟส่องทางในชีวิต ผู้ใหญ่จึงหาความสุขเจอแค่แว๊บๆ เจอความหวั่นไหวข้างในบ่อยๆ ................
อืม มนุษย์ ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนเสียนี่กระไร
เด็กและผู้ใหญ่มีอะไรคล้ายๆกัน
บางครั้งเด็กก็เป็นผู้ใหญ่
ในภาพต้นอะไรครับ
เพื่อนที่พิษณุโลกเป็นอย่างไรบ้างครับ