พอดี ผมได้ฟังเรื่องหมอบางแก๊งส์
ที่พอตรวจพบคนป่วย ที่มีแนวโน้มจะเป็นมะเร็ง
มีแนวโน้มนะครับ ยังไม่ชัวส์เลย
ก็รีบแจ้งคนไข้ ให้จิตตก
เพื่อเสนอทางรักษาโน่นนี่
แบบที่ให้ได้เงินมากที่สุด
เชื่อไหมครับ มีประกันไว้ 10 ล้าน
ไม่พอครับ ค่ารักษา 12 ล้าน !!
เพราะต้องรักษาโรคโน้นนี้ เพิ่มเข้าไปอีก
ยิ่งมีตัง ก็ยิ่งดี จะได้ดูดได้เยอะๆ
คนเรารักชีวิต อะไรๆ ก็ยอมหมดครับ
ผมฟังแล้วคิดในใจว่า บัดซบจริงๆ
ใจทำด้วยอะไร จรรยาบรรณอยู่ที่ไหน
เอาชีวิตคนมาทำแบบนี้ได้ยังไง
นี่อาชีพหมอ ที่เราให้ความนับถือนะ
มุมมองคนเป็นอาจารย์อย่างผม
เราไม่มีการสอนศีลธรรมกันแล้ว
โลกมันถึงผลิตคนที่มีจิตใจต่ำๆ แบบนี้ออกมา
พอจิตใจเป็นแบบนี้
คนทำงานก็ไม่ได้ทำด้วยจิตสำนึก
ทำด้วยจุดประสงค์แค่ว่า ทำอะไรที่ได้เงินมากที่สุุด
แล้วก็มองคนเป็นเหยื่อ
ไม่สนจริยธรรม เอาแค่กฎหมายเล่นงานไม่ได้พอ
จะได้เอาเงินมาเสพสุข มีรถ มีบ้านหรูๆ
เอาไว้อวดกัน !!
เดี๋ยวนี้นะ ในวงการโค้ช วิทยากร
ผมเห็นสอนให้ตั้งเป้าชีวิต รวยๆๆๆ
คอร์ส หรือ หนังสือสอนรวย ขายดี
หนังสือธรรมะ ถูกแสนถูก แจกฟรีเลย
ก็ไม่ค่อยมีคนอ่าน
เห็นแล้วก็สลดครับ จะรวยลูกเดียว
แต่รวยแบบไหน ยังไม่รู้เลย
ถ้ารวยสะสมกิเลส สะสมความเห็นแก่ตัว
รวยไปแล้ว ใจก็กลายเป็นเดรัจฉาน
แบบหมอพวกที่ว่า....
คุ้มไม๊ล่ะครับ ชีวิตเรากลายไปเป็นแบบนั้น
ทำไมไม่ตั้งเป้าชีวิตว่า
เราจะเป็นคนดี มีศีลธรรม มีปัญญา
มีนิสัยดี ละกิเลส ทำงานเพื่อสังคม
และมีเงิน มีความสุขพอสมควรกับชีวิตเรา
ด้วยทางสายกลาง
...ให้ชีวิตมีคุณค่า
ไม่ตั้งเป้าแบบนี้กันละครับ ?
เห็นด้วยกับท่านอาจารย์อย่างยิ่งครับ
ครับ ผมว่าโลกเข้าสู่กลียุค ตามพุทธทำนายแล้ว
คำว่า..จรรยาบรรณ..ถูกกลืน..ด้วย..ระบบ ..เงินตรา..จ้าาา...(อาชีพหมอ..ปัจจุบัน..ทำงานเงินเดือนเริ่มต้นที่แสนบาท..ตามรพ.เอกชน...อ้ะะ)..คีโม จึง เริ่มต้น..ที่หลักหมื่น..อิอิ
คนที่ตายธรรมดาหรือรอด ตาย เพราะ กิน ยาหม้อ..ที่พระ ท่านให้ ฟรี..
เป็นหมอเพราะหวังรวย ไม่ได้เป็นเพราะจิตวิญญาณ...