วันที่ ๑๔ พ.ย. ๔๙ สภามหาวิทยาลัยมหิดลไปเยี่ยมคณะสิ่งแวดล้อมฯ ซึ่งมีศูนย์วิจัยพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงคุยกันต่อเรื่องวิทยาเขตนครสวรรค์อยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ คือ พื้นที่ที่เป็นวิทยาเขตอยู่ในบริเวณที่มีชื่อว่า "บึง........" ซึ่งเป็น "แก้มลิง" อยู่โดยธรรมชาติ ดังนั้น ปีนี้น้ำจึงท่วมขนาดที่เขื่อนสูง ๒.๘ เมตร เอาไม่อยู่ และน้ำท่วมอาคารถึงครึ่งความสูงของชั้นล่าง
มีคนพูดว่ามหาวิทยาลัยโดนหลอก ให้เข้าไปใช้พื้นที่ที่ไม่เหมาะสม และไม่ควรใช้ เพราะควรปล่อยให้เป็นพื้นที่ว่าง และว่าตอนเลือกสถานที่ก็มีการขัดแย้งกันภายในจังหวัด
ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่ก็ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า การเรียกร้องตั้งมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด และการเลือกสถานที่อาจมีผลประโยชน์ส่วนบุคคลแอบแฝง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะต้องดูแลเรื่องแบบนี้อย่างระมัดระวังและรอบคอบ
การพูดคุยลามไปถึงวิทยาเขตกาญจนบุรี ว่าขึ้นไปตั้งอยู่บนเขา ไม่มีน้ำ ต้องปั๊มน้ำขึ้นไปจากแม่น้ำแควน้อย ซึ่งอยู่ต่ำลงไปมาก
การพูดคุยวันนั้นมีมิติเชิงลบอยู่มาก ผมไม่ทราบว่าจริงแค่ไหน เป็นความท้าทายต่อระบบ governance มหาวิทยาลัย ว่าต่อไป เมื่อมหาวิทยาลัยออกไปอยู่นอกระบบราชการ กลไก governance จะต้องเข้มแข็งขึ้น จะดูแลเรื่องที่ฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยเองก็ไม่คุ้นเคยได้อย่างไร
วิจารณ์ พานิช
๑๕ พ.ย. ๔๙
อย่าว่าแต่มหิดลถูก Convince ให้มาลงบึงเสนาทนี้เลย
หากสังเกตอีกนิดนึง ก็จะเห็นอาคารย่อมๆ อยู่ข้างติดกันก่อนถึงมหิดล
มีสภาพยังไม่ใช้งานแต่ถูกทิ้งร้าง
บนอาคารติดป้าย "สำนักโยธาผังเมืองนครสวรรค์"
ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ออกผังเมืองเองและระบุว่าตรงนี้เป็นบึงสีเขียว
นับว่าการเมืองแรงจริงๆ
หน่วยงานที่ว่าก็ไม่ยอมมาใช้อาคารนี้หรอกครับ! ถือว่ายังไม่เสียท่า...............
http://gotoknow.org/blog/council/63611
ผมเห็นภาพว่าผู้บริหารระดับสูงพ่อหมอท่านๆ คงจะว่าๆ โปรเจกต์กันไปโดยลืมไปว่ามีคณะสิ่งแวดล้อมฯ, คณะวิศวกรรมฯ เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่จะสามารถปรึกษาได้
อาจเพราะถือว่ามีสถาปนิกใหญ่จากข้างนอกเป็นที่ปรึกษาประจำ แม้ในสภาก็รู้สึกจะมีท่านนึง
พอเกิดปัญหาค่อยโยนมาทางนี้ก็ถูกมองว่าทำไมไม่ดูแล.....ทั้งที่ไม่รู้เรื่องไม่ได้รับเชิญปรึกษาด้วยเลย
สถาปนิกในมหิดลก็มีจำนวนไม่น้อย เฉพาะในคณะสิ่งแวดล้อมก็มีเป็นอาจารย์ถึง 3 ท่าน
ตอนนี้ก็มีสถาปนิกปริญญาเอกวางแผนผังเมืองด้วยซ้ำ ผมเองน่ะเห็นแล้วอึดอัด
ยิ่งฟังรู้มาว่าคุณอนุชาตินักสังคมเที่ยวพูดไปว่ามหิดลเราไม่มีสถาปนิกเลยต้องเชิญคนข้างนอกมาปรึกษา ฟังแล้วเจ็บใจครับ (ที่ประชุมวางผังศาลายา ตค.2550) บริษัทที่ปรึกษาภายนอกนั้นกร่างในที่สุดก็ดันงานเข้าบริษัทตนถ้าทำแล้วออกมาประเสริฐศรีไม่ว่า
แต่ทำแล้วออกมาเป็นตึกๆ แถวๆ เบอะบะคับที่คับทาง แทนที่จะออกมาให้มันดูมีนวัตกรรมลำสมัยสมกับที่ใช้งบประมาณสูงๆ ก็ขอ Comment เสียหน่อยนะครับ
P_POP อ.พิจักษณ์ คณะสิ่งแวดล้อมฯ โทร 089-690-3696