ชีวิตหนึ่งที่เกิดมาบนโลกใบนี้
มีหลายสิ่งหลายอย่างนัก..ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต.....มันผ่านเข้ามา..แล้วก็ผ่านไป
สุขก็รู้ว่าสุข ทุกข์ก็รู้ว่าทุกข์ เศร้าใจ เสียใจ สมหวัง..ก็รับรู้มันเช่นนั้น
..
แต่จะมีสักกี่สิ่งในชีวิตกัน? เมื่อเราได้คิดถึงมันรำลึกถึงมันแล้ว....เกิดความสุขทางใจขึ้นมาอย่างประหลาด... จริง ๆ นะ
..
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมา ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา...มันมีทั้ง “ฉาบฉวย” และ “จีรัง”
คำสองคำนี้แหละ!! ที่มันเกิดขึ้นกับเรา
เมื่อเราได้พิจารณาลงไป..เราจะรู้ได้ด้วยตัวของเราเองครับว่า ..สิ่งที่เกิดขึ้นมานั้น... มันเป็นเช่นไร?
..
ชีวิตของผู้เขียนมันก็ไม่ต่างกัน มันทำให้เราได้คิด ได้เห็น ได้ดูความเป็นไปของตัวเอง...
ตัวเรานั้น!!ใช่ว่าจะเป็นคนดีอะไรมากมายนัก....เราก็ยังคงมีส่วนที่ไม่ดีในตัวของเราอีกเยอะแยะ…
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว...ทำให้คิดถึงว่า...ตัวเองนั้น... กำลังเลือกซื้อส้มเขียวหวานมากินให้หายอยากสักกิโลหนึ่ง ..ส้มกองโตๆ กองนั้น.. สิ่งหนึ่งที่เห็นก่อนเพื่อนคือ... ส้มลูกที่มันมีตำหนิ แต่เมื่อเห็นแล้วกลับไม่หยิบ สิ่งที่ผู้เขียนหยิบกลับเป็น ส้มลูกดี.. ผิวสวย
..
เห็นมั้ย!!ครับว่า..แม้แต่กองส้มกองหนึ่ง มันก็มีทั้งส้มลูกดีและลูกเสียปนกัน ผู้เขียนหยิบเฉพาะส้มลูกดี ผิวสวย ส่งให้แม่ค้า.. จ่ายเงิน ... แล้วเอามันกลับมานั่งปอกกิน ...อย่างเอร็ดอร่อย ..หวานหอมชื่นใจ.....
นี่คือความรู้สึก ณ ตอนนี้..
ตัวเราเองนั้น..เมื่อย้อนกลับมาดูเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้ว
มองมันให้ลึก...เราก็จะเห็นว่า.. ความดีงามที่อยู่บนโลกที่สวยงามใบนี้นั้น.. มันยังคงมีอยู่อย่างมากมาย.. เปรียบได้กับผลส้มลูกดีที่มันกองรวมกับผลส้มลูกที่มีตำหนิ...แล้วเราก็เลือกลูกดีมากิน
..
เมื่อมองเช่นนั้น...มัน “สุนทรีย์” นะ...
..
คนเราเองก็เช่นกัน...มันใช่ว่าจะมีแต่เรื่องเลวร้ายไปเสียทุกเรื่อง แต่เมื่อเราเลือกหยิบ เลือกที่จะมองมันแล้ว .... มันทำให้หัวใจของเรามีพลังมิใช่หรือ?
..
วันที่เราได้ปฏิบัติ ได้ภาวนา ได้ให้ทาน รักษาศีล หรือทำสิ่งใดก็ตามที แล้วมันเกิดกุศลขึ้นในใจเราแล้วละก็.... วันนั้นเท่ากับว่า.. เราได้สลัดสิ่งที่มันไม่ดีออกจากตัวของเราลง... ทำมันวันละเล็ก..ละน้อย...อย่างนี้แหละ!!
วันหนึ่งข้างหน้า....เราจะไม่เสียใจเลย กับคำว่า “โอกาส” ที่มันผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา..แล้วเราได้ไขว่คว้ามันเอาไว้
และคำว่า”โอกาส” นี้เองที่ทำให้ผู้เขียน นึกถึงถ้อยคำบางส่วนที่ตัวเองเคยเขียนเอาไว้ ความว่า..
..
@อาจารย์..ได้เห็นหัวใจที่ใฝ่ดีของพวกเรา...อยู่ในกระดาษแผ่นนี้
และอาจารย์เชื่อนะว่า...สิ่งที่พวกเราเขียนลงไปนั้น .. มันคือสิ่งแทนตัวของพวกเราทุกคน
คนภายนอก อาจมองว่า... พวกเรานั้น..เป็นคนไม่มีหัวใจ เป็นคนที่หัวใจแข็งกระด้าง ..
เพราะว่าในวันนี้...พวกเขาเหล่านั้น..ไม่ได้สัมผัสห้วงคิดคำนึงของพวกเรา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาทุกคน เปลี่ยนไป นั้นก็คือ.."สมาธิ..สมาธิยกใจสู่สวรรค์ ที่พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ฯท่านได้มีเมตตามอบให้กับพวกเราทุกคน
..
ผู้เขียนได้เห็นนักโทษหลายคน... เอามือปาดน้ำตา.. บางคนน้ำตาคลอเป้า
..
มันมีความสุขอย่างประหลาดนะครับ ที่ชีวิตหนึ่งของเรานั้น...เราได้ทำอะไรที่มีค่า..”เพื่อผู้อื่น”@
เพราะสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น ...ผู้เขียน ได้รับ”โอกาส” นี้
โอกาสที่ได้... เดินตามรอยเท้าของท่าน
“พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร” พระผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม
สาธุๆครับ
ขอชื่นชมการทำความดี
สาธุบุญค่ะ