(5) เชงเก้นวีซ่า ถึงเวลาลุ้นระทึก...บินด่วนไปภูเก็ต


ส่งเอกสารแบบไหน ได้รับด่วนจี๋...มีวิธีหาตั๋วเครื่องบินถูกๆแบบซื้อแล้วเดินทางเลยหรือเปล่า

หลังจากทราบว่าหนังสือเชิญมาถึงบ้านแล้ว ก็ปฏิบัติการ "ส่งด่วน" หนังสือเชิญมากรุงเทพฯ เพื่อให้ทันไปทำวีซ่าที่ภูเก็ตในวันรุ่งขึ้น...

อันดับแรก โทร.หาน้องสาวที่สวี (จ.ชุมพร) ให้ไปส่งหนังสือเชิญดังกล่าวที่ยังอยู่ในหีบห่อเรียบร้อยมาให้ที่ปลายทางสถานีรถไฟหัวลำโพง โดยส่งขบวนที่มาถึงหัวลำโพงเร็วที่สุด 

จากสถานีสวี มีขบวนรถเร็ว 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ออกจากสวีเวลาประมาณ 19.00 น. และมาถึงหัวลำโพงเวลา 05.00 น. อีกขบวนหนึ่งคือ 168 กันตัง-กรุงเทพฯ ขบวนนี้มาช้ากว่ารถเร็วนครฯ 1 ชั่วโมง แต่โดยปกติแล้ว 168 จะไม่ค่อยเสียเวลา ส่วน 174 นี่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเสียเวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง

เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ส่งขบวน 174 นี่แหละ...

คืนนี้ (31 พฤษภาคม) นอนโรงแรมปรินซ์ พาเลส แต่ไม่ค่อยหลับ เพราะวิตกกังวล เข้าเว็ปการรถไฟ มานั่ง track ขบวนรถเกือบทุกชั่วโมง ว่ารถมาถึงไหนแล้ว เสียเวลาหรือไม่ เมื่อรู้ข้อมูลคร่าวๆว่าขณะนี้รถมาได้เกินครึ่งทางแล้ว โดยช้ากว่ากำหนดการเดิมไปประมาณ 30 นาที ก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย

นึกขึ้นได้ อ้าว แล้วเราจะหาตั๋วถูกไปภูเก็ตพรุ่งนี้เช้ามืดยังไงดีล่ะเนี่ย เพราะต้องไปทำวีซ่าตอนเช้าเสียด้วย (เปิดบริการเฉพาะช่วงเช้า) ซื้อวันนี้ บินพรุ่งนี้ตั๋วคงจะแพงมาก

คลิ้กๆเข้า Facebook ของ AirasiaBig (โปรแกรมสะสมคะแนนและแลกตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย) โอ๊ย ดีใจแทบตาย มีโปรโมชั่น Final Call ใช้แต้ม 1,000 แต้มสำหรับเส้นทางภูเก็ตพอดี...ไม่รอช้า ล้อกอินเข้าไปเช็คตั๋วด้วยใจระทึก เดชะบุญเป็นช่วง Low Season ยังมีตั๋วแลกแต้มที่ใช้แค่เที่ยวละ 1,000 แต้ม ทั้งไปและกลับในวันพรุ่งนี้...ขาไปจึงแลกแต้มเที่ยวเช้า ออกจากดอนเมือง 06.45 และไปถึงภูเก็ตประมาณ 08.00 น. ส่วนขากลับ ออกจากภูเก็ตประมาณ 15.30 น. 

ขาไปนี่แหละที่ต้องลุ้นระทึก เพราะต้องไปรับหนังสือเชิญที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเวลา 05.00 น. จากนั้น ต้องไปสนามบินดอนเมืองให้ทันขึ้นเครื่อง (ต้องไปถึงดอนเมืองอย่างช้า 06.00 น.) 

ค่าเสียหาย (ค่าตั๋ว) สำหรับเที่ยวบินไปกลับภูเก็ต 600 กว่าบาท (ใช้แต้มแลกไปกลับ 1,000) การแลกแต้ม Big เป็นตั๋วเครื่องบินนี้ ต้องใช้แต้มขั้นต่ำขาละ  500 แต้ม บวกเงินเพิ่ม (ถ้าใช้แต้ม 2,000 แลกไปกลับ จะเสียเงินเพิ่มแค่ 400 กว่าบาท เอาน่า ประหยัดแต้มไว้ก่อนเพื่อใช้ฉุกเฉินคราวต่อไป)

ได้ตั๋วแล้วก็ทำ Mobile Check in เรียบร้อยทั้งขาไปและขากลับ เพื่อประหยัดเวลา ถึงสนามบินจะได้วิ่งเข้าเกทไปรอขึ้นเครื่องเลย โดยเปิด E-Boarding Pass จากในมือถือ ไม่ต้องไปเข้าแถวเช็คอิน จะไปเช็คอินที่ตู้เช็คอินก็ไม่ทันเวลา (เช็คอินผ่านเครื่องอัตโนมัติจะต้องทำก่อนเครื่องออก 1 ชั่วโมง)

04.00 เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น แม้จะงัวเงียแค่ไหน เพราะนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง ก็ต้องรีบลุก อาบนำ้แต่งตัวแล้วลงมาเรียกแท้กซี่หน้าโรงแรมไปสถานีรถไฟหัวลำโพงทันที ข้าวเช้าลิมไปเลย ไม่ต้องกิน แต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ฝากคูปองไว้ให้น้องบ่าวที่บ้านอยู่แถวโบ๊เบ๊มากินแทน (ไม่เสียสิทธิ์)

นึกว่าเราจะตื่นเช้าอยู่คนเดียว ที่ไหนได้ พ่อค้า แม่ค้าขายผ้าตลาดโบ๊เบ๊ ตั้งแผงกันพรึบพรับแระ คึกคักแต่เช้าเหมือนตลาดสดจริงๆ

ถึงสถานีรถไฟหัวลำโพงตอน 05.00 น. ดูหน้าจอยักษ์ที่แสดงเวลารถเข้าออกสถานีหัวลำโพง ปรากฏว่าขบวน 174 ล่าช้า 30 นาที จะมาถึงหัวลำโพงเวลา 05.30 น.

ประมาณ 05.15 น. รีบไปรอตรงที่รับส่งสินค้า แล้วแจ้งพี่ๆพนักงานที่นั่นว่า มารอรับเอกสารด่วนจากขบวน 174 พร้อมทั้งบอกชื่อเราไป พี่พนักงานใจดี พอรถเข้าสถานีปุ๊บ รีบวิทยุสื่อสารไปบอกให้พนักงานไปเอาเอกสารที่เป็นซองๆ มาให้ก่อนเลย พอ 05.30 รถเข้าชานชาลาปุ๊บ มีรถขนสัมภาระ ไปรับเอกสารมายังศูนย์รับส่งสินค้าทันที

มีเอกสารอยู่ 2 ซอง ซองแรกสีน้ำตาล อีกซองสีขาว น้องที่เยอรมันบอกว่าซองเอกสารของเราจะเป็นสีน้ำตาล เอาแล้วสิ เอกสารที่ส่งมาจะเป็นหนังสือเชิญหรือเปล่านี่ หรือว่าเป็นพวกบัตรสมาชิกโรงแรมต่างๆที่เราสมัครไว้ แล้วเขาส่งมาให้จากต่างประเทศ

เห็นชื่อคนส่งหน้าซองค่อยโลงใจ เอกสารซองสีขาวนี้เป็นหนังสือเชิญของเราแน่ ระหว่างเซ็นต์รับเอกสาร พี่ๆการรถไฟที่ใจดี ก็ดุเราเล็กน้อยว่า "เอกสารสำคัญ ส่งมาแบบนี้ไม่กลัวสูญหายเหรอ มันเคยมีเอกสารตกหล่นด้วยนะ แล้วอีกอย่าง ปกติรถไฟขบวนนี้จะเสียเวลาหลายชั่วโมงมาก วันนี้โชคดีที่มาตรงเวลา"

เรารับเอกสารแล้วรีบวิ่งออกมาโบกแท้กซี่ไปดอนเมืองทันที บอกลุงคนขับแท็กซี่ว่า "ซิ่งโลด" ขึ้นทางด่วนตรงหัวลำโพงไปลงดินแดง ผ่านทางยกระดับตรงห้าแยกลาดพร้าว เข้าถนนวิภาวดี รังสิต ลุงเหยียบ 120 กม.ต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถึงสนามบินดอนเมืองก่อนเวลา 06.00 เสียอีก (คิดในใจนี่ถ้าเกิดเฉี่ยวชนขึ้นมา ศพคงจำหน้าไม่ได้)

โอ๊ย มีเวลาถมเถ เดินผ่านเครื่องเอกซเรย์ ไปยังเกทแบบชิลล์ๆมาก 

อุ๊ย ขึ้นเครื่องแล้วเพิ่งเห็น เราได้นั่ง Hot Seat ซึ่งปกติต้องเสียตังค์หลายร้อยในการเลือกที่นั่งที่คลุมหัวสีแดงไว้ ข้อดีของการจองตั๋วล่วงหน้าไม่กี่ชั่วโมงนี่ มีโอกาสจะได้นั่ง Hot Seat เยอะ เพราะผู้โดยสารท่านอื่นถูกสุ่มให้นั่งที่ธรรมดาไปจนหมด จะเหลือเฉพาะ Hot Seat สำหรับผู้โดยสารที่จองแล้วเดินทางเลย

หลับบนเครื่องไปนิดหน่อย ตื่นมาอีกทีก็เกือบถึงภูเก็ตแระ กว่าจะลงจากเครื่องก็เลยเวลา 08.00 น.ไปแล้ว

จ้ำอ้าวออกมาข้างนอก ถามหารถ Airport Bus เข้าเมืองทันที เพราะรถนี้จะผ่านเส้น Bypass ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถานกงสุลพอดี...โชคดีอะไรเช่นนี้ รถบัสออกไปแล้วเมื่อกี้ แต่มีรถตู้รอผู้โดยสารอยู่ 2-3 คนก็จะเต็มและออกเดินทางทันที กะในใจ...คงไปถึงกงสุลเยอรมันน่าจะประมาณ 9 โมงเช้า จะได้ทำวีซ่าคิวแรกๆ แน่

และแล้ว เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้นจนได้....

หมายเลขบันทึก: 631746เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2017 22:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม 2017 17:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท