๑ พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันแรงงานแห่งชาติ และนานาชาติ การพูดคุยในข่าวกิจกรรมแรงงาน ในวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ทำให้ผมคิดในใจว่า เราต้องช่วยกันบอกสังคมว่า หากจะยกระดับประเทศไทยขึ้น เป็นประเทศที่มีรายได้สูง หลุดจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง หรือหลุดจากกับดักรายได้ปานกลาง คนไทยต้องเลิกประกอบอาชีพเป็นแรงงาน เพราะเครื่องจักรจะมาทำงานแทน และแย่งงานไปหมด
ในยุคนี้ คนต้องเปลี่ยนแนวทางเลี้ยงชีพตนเอง เป็นทำงานใช้สมอง (brain) เป็นหลัก เลิกทำงานที่เน้นใช้ กล้ามเนื้อ (brawl) เป็นหลัก
การศึกษา การเลี้ยงดู และการสื่อสารในสังคม จึงต้องส่งเสริมเด็กและเยาวชนให้มีเป้าหมายชีวิตเป็น ผู้ทำงานสมอง เป็นผู้ประกอบการ เป็นผู้สร้างสรรค์ เป็นผู้มองเห็นโอกาสในการทำมาหากิน และทำประโยชน์ ให้แก่ผู้อื่นและแก่สังคม และเป็นผู้เรียนรู้เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งตลอดชีวิต
ที่สำคัญ ต้องเป็นคนสู้งาน รับผิดชอบ มองการณ์ไกล มีภูมิคุ้มกันที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของอบายมุข ซึ่งมองในมุมหนึ่ง เป็นเหยื่อของความอ่อนแอของตนเอง ที่เป็นความอ่อนแอทางใจ
วิจารณ์ พานิช
๒ พ.ค. ๖๐
What you say "...คนไทยต้องเลิกประกอบอาชีพเป็นแรงงาน เพราะเครื่องจักรจะมาทำงานแทน และแย่งงานไปหมด..." would be common in industrialized countries. For Thailand today this "คนไทยต้องเลิกประกอบอาชีพเป็นแรงงาน เพราะคนประเทศใกล้เคียงจะมาทำงานแทน และแย่งงานไปหมด..." would be common.
เห็นด้วยกับ คุณ sr....เจ้าค่ะ...เครื่องจักร เมืองไทย..คงยังไม่ได้ใช้..หุ่นยนต์และสมองกลไปทั้งหมดได้เพราะการลงทุนสูงที่อยู่ในมือและสมอง..ของประเทศผู้ผลิต..ส่วนใหญ่กรรมกรในโรงงานก็เป็น..คนงานจากประเทศเพื่อนบ้าน..เครื่องจักรในโรงงานมีอายุมากแล้วส่วนใหญ่ก็ซื้อของเก่า..เขามาดัดแปลง..ซึ่งเจ้าของโรงงานจำเป็นต้องใช้กรรมกรต่างชาติที่มีรายได้น้อย..และบางสิ่งบางอย่างที่เบียดบังได้..
ตราบใด ที่การปกครองยังอยู่ในระบบที่..ยังไม่ให้..เสรีในความคิดเห็นโต้แย้งได้เห็นต่างได้..รวมทั้งระบบการเรียนทั้งการปกครอง..ที่มุ่งแต่ทำเงินท่าเดียวและกระดาษปริญญาบัตรที่มีไว้แค่ประกาศเกียรติคุณติดกรอบ แขวนผนังเคารพธนบัตร..มากกว่าคุณค่าตน..เพราะถูกหล่อหลอมมาอย่างนั้น...
จึงเป็นปัญหาใหญ่..ที่แก้ยาก..หากจะยังมีแต่การเปลี่ยนแปลงแค่รูปบนกระดาษ..