ปักกิ่ง ฮาร์บิน ช่วงปีใหม่ ไปกันเองได้ ไม่ยาก : day 1 มุ่งหน้าเข้าที่พัก Happy Dragon Hostel เที่ยวปักกิ่งกำแพงเมืองจีน


เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ ขึ้นเรื่องตอน 01.05 น. คือตี 1 กว่านี่เป็นเวลานอน เราต้องอดทนค่ะ เพื่อที่จะนอนบนเครื่อง ขึ้นเครื่องได้ ผู้โดยสารก็ตั้งท่านอนกันเลยทีเดียว ไม่มีใครเดินไปเดินมา ทุกคนนั่งสงบนิ่งเรียบร้อย พอแอร์โฮสเตสแจกอาหารกินกันเสร็จ เค้าก็แจก arrival card ก็รับมาเขียนซะให้เรียบร้อย กรอกอยู่ไม่กี่ช่องเองค่ะ ง่ายมาก จากนั้นก็เงียบกันทั้งลำ เอาแรงไว้ก่อนค่ะ เครื่องบินไปถึงปักกิ่ง เวลา 06.30 น. เวลาที่เมืองจีนเร็วกว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมง ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

พอเครื่องใกล้ลง เห็นผู้โดยสารชาวจีนเริ่มจกเอาเครื่องเต่งกายออกมาใส่เพิ่มเติมกันใหญ่ พวกเราก็เลยทำตามมั่งเอามาใส่เพิ่มนิดนึงที่เตรียมไว้ เช็คอุณหภูมิแล้ว วันนี้ 2 - ลบ 7

เครื่องเทียบงวงช้างแล้วก็เดินออกมา หนาวมาก นี่ขนาดอยู่ในอาคารนะ จากนั้นก็ไปผ่าน ตม แถวไม่ค่อยยาว แต่งง เพราะจะมีบางส่วนมาทำ Visa on arrival หลอกลวงเราว่าแถวยาว แต่จริงๆ แล้วไม่ยาวค่ะ มันมีหลายช่อง ลองดูดีดี ผ่าน ตม แล้วก็ไปขึ้นรถไฟเพื่อที่จะไปรับกระเป๋า จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้พร้อมสำหรับวันแรกที่ปักกิ่ง แล้วก็ลุยกันเลย


จากสนามบินเรานั่งรถไฟ airport express เข้าเมืองกันก่อน ค่าตั๋วรถไฟคนละ 25 หยวน (1 หยวน ประมาณ 5 บาทไทย) ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปรอด้านใน สักพักรถไฟก็มา

เดินไปด้านหน้า หาที่นั่งไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ แทรกตัวเข้าไปนั่งทันที

นั่งไปลงสุดสายเลยค่ะ จากนั้นซื้อบัตรอี้ข่าทง 3 ใบ ใบละ 100 หยวน


มี App แนะนำสำหรับคนที่จะไปเที่ยวปักกิ่งนะคะ ชื่อว่า Metro Beijing Subway โหลดได้เลยไว้ใช้เวลาจะเดินทางคือมันจะช่วยเราให้หาเส้นทางที่จะไปยังจุดหมายได้โดยกรอกต้นทาง ปลายทาง แล้วกด Search เช่นเราจะไปจาก Xidan ไปถึงสถานี dongsi ก็กดเข้าไป แล้วจะได้วิธีเดินทางมาแบบนี้เลย ง่ายมากๆ ไม่ต้องพึ่ง map ที่เป็นกระดาษเลย ผู้ดูแลเส้นทางตลอดทริปได้แก่เจ้าลูกชายตัวน้อยนั่นเอง ทริปนี้เค้าช่วยเยอะมากเห็นการพัฒนาจริงๆ


เราไปถึงที่พักกันไม่ยากเลย เดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน ก็มองหาแผนที่กันก่อนเพื่อหาทิศทางว่าจะไปทางไหนกันต่อ อันที่จริงก็ศึกษามาแล้วจากพันทิปที่มีคนมารีวิวโรงแรมที่นี่ไว้ ปรินท์แผนที่มาอย่างดี แต่ปรากฏว่า มันมีทำทาง ถนนบางเส้นถูกปิดไป ทางเข้าไม่เหมือนเดิมแล้ว ก็เลยต้องตั้งหลักหากันสักพัก แต่ก็ไม่เกินความสามารถ หากันจนเจอ...

ลากกระเป๋าไปตามทาง ด้วยแถวเรียง 1 ถึงที่พักปรากฎว่า ห้องสำหรับ 3 คนที่เราจองไว้ไม่ว่าง พนักงานก็เลยให้เราอยู่ห้องสำหรับ 2 คน 2 ห้อง ไม่คิดเงินเพิ่มและสามารถเช็คอินได้เลย ก็เลยยอม จ่ายค่ามัดจำกุญแจไป 200 หยวน ห้องนี้อยู่ชั้น 1 ก็เลยลากกระเป๋าเข้าไปกันเลย ในห้องมีกาต้มน้ำร้อนให้ ก็เลยจัดการต้มกาแฟกินกันก่อนออกไปลุย ก่อนออกไปซื้อน้ำที่แรงแรมติดตัวไปด้วย ราคาขวดละ 2 หยวน (750 ml) ส่วนขวดใหญ่ ราคาขวดละ 5 หยวน นี้เป็นภาพบรรยากาศภายในห้อง พออยู่ได้สบายเลยทีเดียว


นี้เป็นบรรยากาศรอบๆ ภายนอกห้องพัก และ Lobby พนักงานที่นี่ภาษาอังกฤษค่อนข้างดีเลยทีเดียว

เราจะไปกำแพงเมืองจีนกันโดยจะไปขึ้นที่ด่านปาต้าหลิง เรานั่งรถไฟไปลงที่สถานี Jishuitan exit A ออกมาแล้วเลี้ยวซ้าย ตามป้าย Bus station ไปเรื่อย เราจะไปโดยรถบัสสาย 877 ตอนแรกงงมาก ไปถึงสถานีรถบัสแล้วเดินหาไม่เห็นเจอสาย 877 เดินไปเดินมาเจอสาย 919 อีก ซึ่งที่อ่านมาบอกว่า 919 ก็ไปได้ แต่เดินไปถามคนขับรถ เค้าส่ายหน้าคือไม่ไป ก็เลยถามคนแถวนั้น มีปัญหาเรื่องการสื่อสารอีกเพราะเขาไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แถมมีแท็กซี่มาวนเวียนถามตลอดวเลาจนเราถอดใจเลยพากันเดินออกมาจากบริเวณนั้น เดินไปเรื่อยๆ ก็เจออยู่ด้านหน้านั่นเอง เราเดินเลยไปด้านหลังก็เลยไม่เห็น เราถามคนขับ เขาบอกว่าไป ก็เลยขึ้นกันเลย ก่อนขึ้นแตะบัตรอี้ข่าทง เลยไม่รู้ว่าราคาเท่าใด แต่ข้อมูลบอกว่าราคาเพียง 6 หยวนต่อเที่ยวหากใช้บัตรอี้ข่าทง แต่ถ้าจ่ายเงินสด จะราคา 12 หยวน/เที่ยว

บรรยากาศภายในรถค่อนข้างอึดอัดมาก คือเบียดกันแบบสุดๆ แต่เรา 3 คนก็ได้นั่ง บางคนไม่มีที่นั่งก็ยืนไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงขณะอยู่บนรถก็เริ่มหิวเพราะเลยเวลาอาหารกลางวันแล้วก็จกเสบียงที่เตรียมมากินไปพลางๆรถวิ่งยาวเลยไม่จอดรายทาง เราหลับเกือบตลอดทางเพราะง่วงมากสักพักก็ถึง

จุดนี้เป็นจุดที่รถจอดที่จะไปขึ้นยังด่านปาต้าหลิง ลงมาแล้วหาของกินกันก่อนเลย หาซาลาเปากินกันคนละลูก 5 ลูก 20 หยวน

เราพยายามจะไปซื้อตั๋วที่บูธขายตั๋วปรากฎว่าเค้ากำลังจะปิด และสุดท้ายก็ปิดไม่ขายแล้วก็เลยต้องไปซื้อจากไกด์ที่กำลังจะพาทัวร์ขึ้นไปเพราะเราไม่รู้ว่า มีที่ขายตั๋วอีกจุดอยู่ตรงทางขึ้นรถ sliding car ราคาเข้ากำแพงเมืองจีน รวม sliding car 3 คน รวมจ่ายไป 405 หยวน

เดินตามทัวร์จีนกลุ่มนั้นไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้น sliding car คันละ 1 คน คือ น่ากลัวมาก ไม่มีอะไรที่บอกว่าปลอดภัย นอกจากเข็มขัดที่รัดไว้ ทางขึ้นของ sliding car ชันแบบนี้ ได้กลิ่นการเสียดสีของเหล็กไปตลอดทาง หลับตาและสวดมนต์แป้ปเดียวก็ถึง

เดินออกจาก Slide car เพื่อชมกำแพงเมืองจีนที่เคยฝันไว้ตอนเป็นเด็กๆ ว่าสักวันฉันจะไปเยือน มันคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในตอนนั้นจนถึงขณะนี้สิงทีไ่ด้เห็นมันช่างไม่น่าเชื่อ แนวกำแพงทอดยาวไปตามสันภูเขายิ่งใหญ่ อ่อนช้อย และงดงาม

เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศและสถานที่ข้างบนลมแรงและหนาวมากอยู่กันสักพักก็ลงมาที่สถานีของ sliding car เพื่อลงไปข้างล่าง สวดมนต์อีกรอบ !!!

ระหว่างทางเดินกลับไปยังรถบัสเข้าเมือง ก็จะมีบรรยากาศแบบนี้ มีอาหารให้เราซื้อเพื่อโยนให้หมี ขายอาหารของกิน และร้านขายของที่ระทึกต่างๆ

กลับเข้าเมืองด้วยรถบัสสายเดิม หลับมาตลอดทางเช่นเคย ถึงแล้วก็พากันไปเดินเล่นชมบรรยากาศความเป็นจีนในเมืองกัน ส่วนอาหารเย็นวันนี้กินในห้างแห่งหนึ่ง พนักงานพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย พวกเราใช้วิธีชี้ๆ ตามเมนู อิ่มท้องแล้วก็กลับไปพักผ่อนเอาแรง

วันนี้เที่ยวกันจนยมแล้ว พักผ่อนเอาแรงก่อนเพื่อว่าพรุ่งนี้จะลุยใหม่ รอติดตามนะคะ

หมายเลขบันทึก: 628896เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2017 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2017 19:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท