​170329-1 คำชวนสับสน ในการใช้ ชุด C – Comma


ศัพท์อังกฤษ

การใช้ภาษาอังกฤษ ที่ถูกต้อง อ้างอิง มาตรฐานตามพจนานุกรม

Revised on 2017.03.28

Ref: #596547


Dictionary.com สะกด คำอ่าน “comma”

(สะกดการออกเสียงเน้น พยางค์ แรก) ว่า “KOM-uh”

ใน US English ออกเสียง “KUM-ah”


Common Errors in English Usage

ให้ รายการ ความผิดพลาด/บกพร่อง

ในการใช้ เครื่องหมาย “comma (,)”

สิ่งแรก ที่ควรสังเกต ในการ ใช้ “comma”

บ่อยครั้ง เพื่อการหยุดชั่วคราว “ในการทำข้อความในประโยค”

และ ช่วยในการ แยก วลีหนึ่ง จากอีกวลีหนึ่ง เช่น

ถ้าเขียนว่า “I plan to see Shirley and Fred will go shopping while we visit.”

แน่นอนว่า ผู้อ่านจะต้องคิดว่า “การ ‘visit’ ที่ประกาศนั้น

จะทำกับ ทั้ง Shirley และ Fred”

กระทั่งเมื่อมีประโยคส่วนต่อ ที่ทำให้รู้ว่า Fred ไม่มีส่วนเกี่ยวกับการ “visit” นั้น

โดยใส่เพียง “comma” ตัวเดียวให้ถูกที่ จะทำให้ทุกอย่างชัดเจนได้ ว่า

“I plan to see Shirley, and Fred will go shopping while we visit.”

การใช้ “comma” จะเป็น ปัญหาเวลาเขียน กับผู้ใช้ภาษาพูด เป็นส่วนใหญ่

เนื่องจากการพูด “ใช้การเน้น และจังหวะสัมผัสเสียง (rhythm)”

แสดงการเว้นระยะ เพื่อให้ความหมายที่ถูกต้องได้

การจะเขียน จากคำพูดเหล่านั้น ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

เพื่อแปลความ “จังหวะสัมผัสเสียง”ของประโยค

เพื่อ “วางตำแหน่ง” เครื่องหมาย “วรรคตอน” (punctuation marks)

นอกจากนักเขียนอาชีพ จะมีคนไม่มากนัก

ที่สามารถเขียน “บทสนทนา” (dialogue) ได้ถูกต้องเสมอ

แต่ที่น่าแปลก คือ น้อยคนจะเข้าใจว่า

“ต้องแยก ‘introductory words/phrases” จาก

‘main body’” ของ คำพูดใน “direct speech” เช่น

‘Good evening, Mr. Nightingale.’

‘Well, what did you think of that?’

บ่อยครั้ง ใช้ “comma” ช่วยกำหนด “การเว้นระยะ ภายในประโยค”

คำเฉพาะที่เหมาะสม สำหรับ “คำ/วลี เช่นนี้” คือ “parenthetical”

การจัดการ เรื่อง “parenthetical” ทำได้สามแนวทาง คือ

การขัดจังหวะในทันที ทำได้โดย ใช้ เครื่องหมาย “parenthesis” (วงเล็บ)

สำหรับ การขัดจังหวะ อย่าง “strong interjection” ให้ใช้ “dash” (-)

น่าจะได้ผลดีที่สุด โดยต้องใช้ให้ถูกต้อง

การขัดจังหวะ แบบ “mild interruption” ทำได้ดี ด้วยการใช้ “commas”

การใช้ “comma” แบบมาตรฐาน คือ “การแยก รายการต่างๆ ในคำชุดหนึ่ง” เช่น

“cats, dogs, and rabbits.”

ผู้มีอำนาจกำหนดการใช้ภาษา ยังมีความเห็นแตกต่าง

ว่า ต้องมี “comma” ที่คำก่อนหน้า “and” หรือไม่

ดีที่สุด คือ ทำตาม แบบที่ คิดว่า ผู้อ่าน/ของคุณต้องการ

และพยายาม หลีกเลี่ยง มิให้เกิดความหมายกำกวม ในประโยคนั้น

ชุดของคำ ในประโยค นั้นแตกต่าง

จากการใช้ “คุณศัพท์” หลายคำ ขยาย “นาม” คำหนึ่ง เช่น

‘He was a tall, strong, handsome, but stupid man.’

แต่เมื่อใช้ “คุณศัพท์” ขยายความกันเอง แทนการขยาย “นาม”

ไม่จำเป็นต้องใช้ “comma” เช่น

‘He was wearing a garish bright green tie.’

การทดสอบอย่างง่าย คือ

ถ้า สามารถใส่ “and” ระหว่าง “คุณศัพท์” ในชุดของวลีนั้น

แล้ว ให้ความหมาย “ชัดเจน” แสดงว่า ต้องใช้ “comma”

ครูสอนภาษา อ้างถึง การใช้ที่เรียกว่า “comma splices”

ว่าเป็นการใช้ “comma” กับ ข้อความต่างๆ ในประโยค

ที่ควรใช้ “stronger punctuation” มากกว่า “comma” ตัวอย่างเช่น

‘He brought her a dozen roses, he had forgotten she was allergic to them.’

ในกรณีข้างต้น “ควรใช้ ‘semicolon’ เพื่อให้ผู้ฟัง รู้สึกถึง ความแตกต่าง”

อี่กตัวอย่าง ของการ ใช้ “comma splice” ที่ไม่ถูกต้องอย่างมาก เช่น

‘It was a beautiful day outside, she remembered just in time to grab the coffee mug.’

ในประโยคนี้ “ไม่มีตรรกะรองรับ”ที่เห็นได้ว่า

“ทั้งสองวลี มีความเชื่อมโยง” ที่สมควรใช้เป็นประโยคเดียวกันได้

ควรต้องเปลี่ยน “comma” เป็น “period”

เพื่อให้ ส่วนที่เหลือ เป็น อีกประโยคหนึ่ง ของตัวเอง

เมื่อใดที่ไม่แน่ใจ ว่าต้องใช้ comma หรือไม่

“ให้ลอง ‘อ่านออกเสียงประโยคนั้น’”

ถ้าฟังเหมือน “natural” ว่าจะไม่ต้องการเว้นระยะ หรือลังเล

ตรงจุดที่ใส่ “comma” ก็ควรตัดออก


Cambridge Dictionary

อธิบาย การใช้ เครื่องหมาย “commas” ตามหลักไวยากรณ์ อังกฤษ

เพื่อแยก “รายการ ของคำ/วลี” ที่คล้ายกัน เช่น

‘It’s important to write in clear, simple, accurate words.’

‘They were more friendly, more talkative, more open than last time we met them.’

ปกติ ไม่ใช้ “comma” ก่อนหน้า และที่จุดสิ้นสุด ของคำเดี่ยว เช่น

‘They travelled through Bulgaria, Slovenia, the Czech Republic and Poland.’

ใน US English ใช้ “comma” ในรายการของคำ นำหน้า “and” เช่น

‘We took bread, cheese, and fruit with us.’

ใช้ “commas” เพื่อแยก คำ/วลี ที่กำหนด ‘จุดให้หยุดเสียง ชั่วขณะ’ เช่น

‘I can’t tell you now. However, all will be revealed tomorrow at midday.’

‘We had, in fact, lost all of our money.’

‘James, our guide, will accompany you on the boat to the island.’

เมื่อ ข้อความหลัก ถูกแยก ด้วย “by” “or” หรือ “but”

ปกติ ไม่ใช้ “comma” ถ้า ข้อความหลักนั้น ใช้ประธานร่วมกัน

หากแต่ บางครั้ง ใช้ ถ้าหากประธานของข้อความเหล่านั้น ต่างกัน เช่น

‘They were very friendly and invited us to their villa in Portugal.’

‘Footballers these days earn more money but they are fitter and play many more matches.’ (สองประโยค ใช้ ประธาน ร่วมกัน)

‘It was an expensive hotel in the centre of Stockholm, but we decided it was worth the money.’ (ประโยคนี้ มีประธานแตกต่าง)

เมื่อมี “subordinate clause” นำหน้า “ข้อความหลัก” (main clause)

โดยทั่วไป ใช้ “comma” เพื่อแยกข้อความนั้น

อย่างไรก็ตาม หากเป็นประโยค สั้นๆ เรามักไม่ต้องใช้เช่นนั้น เช่น

‘If you get lost in the city centre, please don’t hesitate to text us or phone us.’

‘If you get lost just phone us.’

เมื่อใช้ “subordinate clause” หรือ “non-finite comment clause”

เพื่อให้ รายละเอียด/ข้อมูล เพิ่มเติม

โดยทั่วไป ใช้ “commas” เพื่อแยก ข้อความเหล่านั้น เช่น

‘You do need to wear a darker jacket, if I may say so.’

‘To be honest, I thought they were very very rude

ใช้ “commas” เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดง ‘non-defining clause’

คือ ข้อความชนิดที่ ตามปกติ เพิ่มข้อมูลไม่สำคัญ เกี่ยวกับ นามหรือ นามวลี นั้น เช่น

‘The ambulance, which arrived after just five minutes, took three people to the hospital immediately.’

‘Hong Kong, where the first ASEAN meeting was held, is a very different city now

และเป็นเช่นเดียวกันด้วย กับ “non-finite clauses” เช่น

‘The storm, lasting as it did for several days, caused serious damage to villages near the coast.’

คำเตือน

ไม่ใช้ “comma” เพื่อเป็นเครื่องหมาย แสดง “defining clauses” เช่น

‘Barcelona was the Spanish city that was selected for the Olympic Games.’

หมายเลขบันทึก: 626670เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2017 18:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มีนาคม 2017 18:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท