ปัจจุบันมีการนำพอลิเมอร์เหลวมาใช้ในการจับตัวยางสกิมแทนกรดซัลฟิวริก
เนื่องจากการใช้กรดซัลฟิวริกต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานสูง ทั้งที่ไอออนของซัลเฟตที่เหลือตกค้าง และธรรมชาติสามารถจัดการซัลเฟตด้วยระบบของตัวเองได้ ซัลเฟตจึงส่งผลน้อยกว่าการเอาสารเคมีแบบพอลิเมอร์เหลวซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์ไปเทออกสู่สิ่งแวดล้อม
ผู้จำหน่ายพอลิเมอร์เหลวไม่ได้มีการระบุความเป็นพิษ หน่วยวิจัยเคมีวิเคราะห์และสิ่งแวดล้อม ม.สงขลานครินทร์ จึงได้พัฒนาวิธีการตรวจสอบความเป็นพิษเพื่อเผยแผ่ให้หน่วยงานและบริษัทฯ ที่รักสิ่งแวดล้อม ได้นำมาใช้ในการทดสอบ ก่อนที่จะสั่งซื้อพอลิเมอร์มาใช้ในการจับตัวยางสกิม
เพราะพอลิเมอร์ที่เป็นพิษสามารถทำลายระบบจุลินทรีย์ซึ่งเป็นพื้นฐานของห่วงโซ่อาหารในสิ่งแวดล้อม หากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กไม่สามารถอยู่รอดได้ สิ่งมีชีวิตขนาดลำดับต่อ ๆ มา ก็จะขาดแหล่งอาหาร การมีเงินตรา แต่ไม่มีอาหารให้ซื้อหา ก็คงจะตรงกับคำที่หลายท่านเคยกล่าวไว้ว่า "เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง"
หมายเหตุ ขอขอบคุณสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย และ บริษัทตัวแทนจำหน่ายพอลิเมอร์เหลว จ.สุราษฏร์ธานี2016_12_8_AsianalysisXIII_polymer_biodegradability_V2.pdf
<p “=”“>May I highlight this “…เนื่องจากการใช้กรดซัลฟิวริกต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้งานสูง
ทั้งที่ไอออนของซัลเฟตที่เหลือตกค้าง
และธรรมชาติสามารถจัดการซัลเฟตด้วยระบบของตัวเองได้
ซัลเฟตจึงส่งผลน้อยกว่าการเอาสารเคมีแบบพอลิเมอร์เหลวซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์ไปเทออกสู่สิ่งแวดล้อม
…” ?
</p>
<p “=”“>I think information like this should be of environmental and public interest but hidden in G2K. Let’s do more.
</p>