เห็นข่าวพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับนึง ว่ารัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง มีแนวคิดที่จะดำเนินการแก้กฎหมายเพื่อเก็บภาษี กับธุรกิจออนไลน์ โดยได้ศึกษาแนวทางจากประเทศอินเดีย ซึ่งเรียกว่า การจัดเก็บภาษีเพื่อความเสมอภาค ระหว่างผู้ประกอบการในประเทศ และผู้ประกอบการต่างประเทศ(Equalization Levy) และแนวทางจากประเทศญี่ปุ่นที่บังคับให้ธุรกิจข้ามชาติ เช่นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook และ Line จะต้องทำการจดทะเบียนในประเทศเพื่อการจัดเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
และอาจมีการเจรจาให้บริษัทรอี-คอมเมิร์ซข้ามชาติทั้งหลาย ช่วยเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกรมสรรพากร จากคนไทยที่มาใช้บริการ เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศ
ส่วนอีกข่าวนึงคือ ผู้ให้บริการรถโดยสาร Uber และ Airbnb ซึ่งเป็นบริการที่เปิดโอกาศให้ผู้ที่มีห้องพัก สามารถนำห้องของตัวเองมาเปิดให้เช่าได้ ที่ขณะนี้กำลังสร้างความปวดหัวให้กับประเทศต่างๆทั่วโลก
จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้การทำธุรกิจไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เราซื้อ-ขายสินค้า และบริการกันโดยไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ทั้งสะดวกและรวดเร็วถูกใจคนรุ่นใหม่
แต่การที่ผู้ประกอบการเหล่านี้ เข้ามาทำธุรกิจซึ่งยังไม่มีกฎหมายรองรับในประเทศไทย ทำให้ผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งเป็นคู่แข่งทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จะมีข้อจำกัดที่โดนควบคุมด้วยกฎหมาย ซึงเป็นความเสียเปรียบทางด้านธุรกิจ
ยกตัวอย่างเช่นทีวีดิจิตอล ที่ผู้ประกอบการไทยมาประมูลสู้กัน จนต้องเสียค่าสัมประทานกันเป็นพันเป็นหมื่นล้าน แต่สุดท้ายผู้บริโภคกลับเลือกที่จะใช้บริการกับสื่อออนไลน์มากกว่า ซึ่งสื่อออนไลน์เหล่านั้นไม่ต้องเสียค่าสัมประทานใดๆ แถมยังสามารถทำราคาได้ต่ำกว่าเพราะไม่ต้องมีขั้นตอนทางภาษี
หรืออย่าง Uber ที่นำรถมาวิ่งแย่งผู้โดยสาร โดยไม่ต้องทำตามกฎหมายเหมือนกับรถแท็กซี่ของผู้ประกอบการไทย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐจะมีมาตการอะไรออกมาควบคุมในเรื่องนี้บ้าง
คนทำธุรกิจก็คงต้องปรับตัวกันไป ใครตามทันก็ได้เฮไปกับเค้า ส่วนใครที่วิ่งช้าก็ตกรถไฟล้มหายตายจาก เป็นแบบนี้มาตั้งแต่โบราณ สำหรับลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือน ที่ต้องเสียภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว งานราชการ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะนอกจากจะมั่นคงแล้ว สวัสดิการต่างๆ ยังครอบคลุมถึงคนในครอบครัวด้วย
ไม่มีความเห็น