ทำไมต้องเลือกลงทุนในกองทุนรวม?


“กองทุนรวม” (Mutual Fund) ก็คือ โครงการลงทุนที่ระดมเงินทุนจากนักลงทุนหลายๆ มารวมกันให้เป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ แล้วนำไปจดทะเบียนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล จากนั้นก็จะนำเงินที่ระดมทุนได้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทต่างๆ ตามนโยบายการลงทุนที่ได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายแก่นักลงทุนนั้น

ทำไมถึงต้องเลือกลงทุนในกองทุนรวม??

1. มีมืออาชีพบริหารเงินให้กล่าวคือ บลจ.ซึ่งได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจจัดการกองทุนรวม จะมีกระบวนการลงทุน ดังนี้

-แต่งตั้งผู้จัดการกองทุนรวมซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการลงทุน และผ่านการอบรมและทดสอบตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนด

-วิเคราะห์ว่าจะซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใด และจะลงทุนเมื่อไหร่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กองทุนในระยะยาว โดยการวิเคราะห์คุณภาพทางการเงินและความสามารถในการทำกำไรของหลักทรัพย์ที่จะลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยใช้ผลงานวิจัยการลงทุน (Investment Analysis) และการเข้าเยี่ยมพบผู้บริหาร (Company visit) ของบริษัทที่ลงทุนหรือจะลงทุน

-มีการติดตามสิทธิและผลประโยชน์จากการลงทุน (เงินปันผลหรือลูกหุ้นตามสิทธิ)และจัดให้มีการเก็บรักษาทรัพย์สินไว้กับผู้ดูแลผลประโยชน์

-มีการบันทึกบัญชีทรัพย์สิน และคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเป็นรายวันตามราคาตลาด และสอบทานโดยผู้ดูแลผลประโยชน์

-มีการประกาศมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และรายงานการลงทุนของกองทุนรวมให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบ ทำให้คุณได้รับความสะดวก เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์แต่ละตัวเพื่อตัดสินใจลงทุนเอง อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องทำหน้าที่ในการติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนที่ได้ลงทุนไปด้วย



2. มีการกระจายความเสี่ยง เพราะกองทุนรวมนั้นนำเงินของผู้ลงทุนหลาย ๆ รายมารวมกันแล้วไปลงทุนในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ต่างประเภทกันหลาย ๆ ตัว (investment portfolio)จึงเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งหากคุณลงทุนด้วยตัวเอง ก็อาจมีข้อจำกัดด้านจำนวนเงินที่ทำให้ลงทุนในหลักทรัพย์ได้เพียงไม่กี่ตัว

3. มีสภาพคล่อง กล่าวคือ ในกรณีที่เป็นกองทุนรวมเปิดซึ่งรับซื้อคืนหน่วยลงทุน คุณสามารถที่จะเปลี่ยนหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ให้กลายเป็นเงินสดได้ด้วยการขายหน่วยลงทุนคืนให้กับ บลจ. ที่เป็นผู้จัดตั้งกองทุน ทั้งนี้ กองทุนแต่ละกองทุนก็จะมีการกำหนดสภาพคล่องไว้หลากหลาย เช่น สามารถซื้อขายได้ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เป็นต้น ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกกองทุนให้เหมาะสมกับความต้องการสภาพคล่องของตนเองได้ หรือถ้าหากเป็นกรณีกองทุนรวมปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คุณสามารถเพิ่มสภาพคล่องให้ตนเองได้โดยการนำหน่วยลงทุนที่ถืออยู่ไปขายเปลี่ยนมือได้ในตลาดหลักทรัพย์

4. มีความหลากหลาย ทั้งนโยบายการลงทุนและรูปแบบการลงทุนในตราสารทางการเงินแบบต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงตั้งแต่น้อยที่สุดจนถึงมาก ทำให้คุณสามารถเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเอง หรือจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมหลาย ๆ รูปแบบพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนอย่างไร มีฐานะทางการเงินเพียงใด แลยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้แค่ไหน

5. มีกลไกปกป้องผู้ลงทุน กล่าวคือ มี ก.ล.ต.ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแลธุรกิจการจัดการกองทุนรวม โดยกำหนดกฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจ วางกลไกการเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ลงทุนถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงวางหลักเกณฑ์และกำกับดูแลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมสำหรับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยรวม

สรุป กองทุนรวม จึงเป็นเครื่องมือในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ มีการจัดการลงทุนอย่างเป็นระบบ โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้การลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีสุด ภายใต้กรอบความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้


ที่มา :http://www.thaimutualfundnews.com
:http://www.salaryinvestor.com

หมายเลขบันทึก: 625765เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2017 23:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม 2017 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท