หลังจากหยุดยาวช่วงปีใหม่ไปแล้ว 4 วัน
วันนี้ก็เป็นวันเปิดเทอมวันแรกแห่งปี 2560
คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านริมใต้ทุกคนมาโรงเรียนด้วยความสดใส
สวัสดีปีใหม่ 2560 ค่ะ ^^
ช่วงวันหยุดช่วงวันปีใหม่ที่ผ่านมา ฉันมีความสุขมาก
เพราะเวลาแห่งความสุข ถูกใช้ร่วมกับบุคคลอันเป็นที่รัก ... ครอบครัวของฉัน ^^
ครอบครัวของเรากินหมูกระทะด้วยกัน และพูดคุยกันอย่างมีความสุข
ฉันอยากให้ทุกวันมีความสุขเหมือนช่วงวันปีใหม่จัง ^^
ตอนจะกลับมาหอพัก ฉันแวะไปหาพ่อก่อนกลับ
พ่อกำลังทำคันนา พ่อกำลังจะปลูกข้าว
ฉันไม่เคยอายที่มีพ่อแม่เป็นชาวไร่ ชาวนา
กลับภูมิใจซะมากกว่า...
เพราะชาวไร่ ชาวนา คนนี้แหละที่ส่งฉันเรียนมาจนถึงทุกวันนี้
และอีกไม่กี่เดือน ฉันก็จะเรียนจบแล้ว
ก่อนกลับ ฉันถ่ายรูปกับพ่อด้วย เอาไว้ดูเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ^^
ปีเก่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลานี้เป็นปี 2560 แล้ว
พวกเรา ครูเป็นเลิศ กำลังจะเรียนจบในไม่กี่เดือนนี้แล้ว
ฉันรู้สึกเหมือนพวกเราเพิ่งพบกัน ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เมื่อไม่นานมานี่เอง
เวลาช่วงหลังปีใหม่นี้ ทำให้ฉันได้ตระหนักว่า ต้องเร่งทำงานให้เสร็จเรียบร้อย
และที่สำคัญคือ เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนแล้วกับชีวิตนักศึกษาฝึกสอนที่โรงเรียนบ้านริมใต้แห่งนี้
แค่คิดก็รู้สึกใจหายจัง... เวลาผ่านไปเร็วจัง...
วิถีชีวิตของคณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านริมใต้ก็ดำเนินไปอย่างปกติเช่นเคย
นักเรียนก็เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเช่นเคย
ทุกคนยังเหมือนเดิม นักเรียนยังน่ารักเหมือนเดิม และคณะครูยังอัธยาศัยดีเหมือนเดิม
วันนี้มีการนำเสนอภาษาอังกฤษวันละคำหน้าเสาธงเช่นเดิม
คำศัพท์ภาษาอังกฤษคำแรกของปีนี้คือ คำว่า...
ภาพการนำเสนอคำศัพท์ภาษาอังกฤษในวันนี้
เปิดเรียนวันแรกของปีวันนี้ ก็มีคนสร้างวีรกรรมซะแล้ว
เรื่องมีอยู่ว่า... กลางวันนี้ฉันเดินทางไปโรงอาหารเพื่อกินข้าวตามปกติ
แต่บังเอิญว่า โรงอาหารของนักเรียนที่อยู่ข้าง ๆ ที่กินข้าวมีความผิดปกติ
เนื่องจากมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งจำนวน 7 คน ขึ้นไปยืนบนเวที
สมาชิกที่ขึ้นไปยืนบนเวที คือ สมาชิกชั้น ป.6/1 และ ป.6/2
ชั้น ป.6/1จำนวน 4 คน ฉันไม่รู้จักชื่อ เพราะไม่ได้สอนพวกเขา
แต่ ป.6/2 อีก 3 คนที่เหลือ ฉันรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นกลุ่มที่เฮี้ยวที่สุดในห้อง
ได้แก่ ด.ช.นันทนากร ด.ช.เอกกมล และด.ช.เดชาธร รู้รอบ
เรียนในห้องว่าดื้อที่สุดแล้ว แต่การกระทำวันนี้ยิ่งกว่า
เด็กกลุ่มนี้ทำหน้าสำนึกผิด และก้มหน้าก้มตากันยกใหญ่เลย
จากนั้นก็มีครูฝ่ายปกครองแห่งโรงเรียนบ้านริมใต้เดินเข้ามาหาเด็ก ๆ กลุ่มนี้
คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านริมใต้รู้จักกิตติศัพท์ของชื่อ "ครูโน่" ดี
เพราะคุณครูเด็ดขาด และน่าเกรงขามมาก สำหรับนักเรียนทุกคน
ไม่ว่าเด็กคนไหนจะดื้อ จะซนขนาดไหน
หากถูกครูโน่ปราบก็รับรองว่า หงอยเป็นแมวเลยทีเดียว
ครูโน่ไต่สวนเด็กด้วยเสียงกึกก้องทั่วทั้งโรงอาหาร
เด็กนักเรียนที่นั่งกินข้าวก็เงียบกริบทั้งโรงอาหาร
สืบไปสืบมา จึงได้รู้ว่า เด็กกลุ่มดังกล่าวนี้ ทำความผิดอันถือว่าใหญ่หลวงสำหรับโรงเรียนนี้
นั่นก็คือ การโดดโรงเรียน
หลายโรงเรียนอาจมองว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับโรงเรียนทั่วไป
แต่สำหรับโรงเรียนนี้ นี่คือปัญหาใหญ่มาก
เพราะขนาดฉันเข้ามาฝึกสอน ณ โรงเรียนแห่งนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเด็กกล้ากระทำการแบบนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายอำนาจครูโน่มาก
ภาพเด็กกลุ่มที่ทำผิด ได้ขึ้นไปยืนบนเวที
เด็กกลุ่มนี้นัดแนะกันโดดโรงเรียนด้วยความคึกคะนอง
แล้วยังมีการนัดแนะกันนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนหลังจากโดดโรงเรียนแล้วด้วย
เพราะจะพากันไปเที่ยว และเล่นเกมตามประสา
ตอนแรกเด็ก ๆ คงนึกสนุกและคึกคะนองที่ได้ทำการแบบนี้
แต่เมื่อถูกครูโน่จับได้ เรื่องนี้จึงไม่น่าสนุกอย่างที่คิด
เพราะมันเหมือนเป็นฝันร้ายซะมากกว่า
แค่ครูโน่ไต่ถามด้วยเสียง ด้วยคำพูด ฉันยังรู้สึกกลัว
แล้วเด็ก ๆ ที่ทำผิด คงรู้สึกกลัวจนฉี่แทบราด
แต่ละคนก้มหน้าก้มตา สำนึกผิดกันยกใหญ่
ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจครูโน่สักคน
ฉันยืนมองดูว่า เด็กกลุ่มนี้จะทำอย่างไรต่อ
เด็กกลุ่มนี้ได้แต่ยืนนิ่งบนเวที และไม่ได้รับอนุญาตให้นั่ง
ที่ครูโน่ให้ขึ้นไปยืนบนเวที เพราะเป็นการแสดงให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่าง
คนอื่นจะได้ไม่กล้ากระทำความผิดเหมือนเด็กกลุ่มนี้อีก
เด็กกลุ่มนี้ถูกทำโทษ เพื่อจะได้หลาบจำและไม่กล้าทำผิดอย่างวันนี้อีก
กล้าจะได้รับอนุญาตให้ลงจากเวทีเพื่อมากินข้าว เด็กกลุ่มนี้ก็คงเมื่อยขามาก ฉันคิดว่างั้น...
เพราะมีบางคนที่จะนั่ง ครูโน่ก็จะตะโกนถามว่า ใครอนุญาตให้นั่ง
แค่ได้ยินเสียง เด็ก ๆ ก็ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
เรียกได้ว่า ยืนจนขาแข็ง กว่าจะได้รับอนุญาตให้กินข้าว...
สวัสดีวันเปิดเรียนวันแรกแห่งปี 2560
เปิดเทอมวันแรก เด็กดื้อก็สร้างวีรกรรมซะแล้ว
วันนี้คงเป็นวันที่เด็กกลุ่มนี้เข็ดหลาบและจดจำไปอีกนานแสนนาน...
ไม่มีความเห็น