เหตุใดคนไข้ จึงออกจากระบบการรักษาแผนปัจจุบัน?


เคยสงสัยมั๊ยว่าทำไมคนไข้โรคเรื้อรังถึงได้ หนีหายจากระบบการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน กลับไปรักษากับ หมอพื้นบ้าน ไม่ใช่นั้นนะแต่บางครั้งยังทิ้งยาที่เราให้แสนแพง ไปกินยาต้ม ยาลูกกลอน หรือแม้แต่เชื่อตำโฆษณา ของผลิตภัณฑ์ที่มีขายในท้องตลาดซึ่งจริงแล้ว อาจมีประโยชน์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากที่ดิฉันทำงานคลุกคลีกับไข้กลุ่มนี้มานาน รวมทั้งเป็นผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังเองนั้นพอจะสรุปได้คร่าวๆว่า

  • หมอ พยาบาล ใช้ปัญญาในการรักษา แต่ขาดการใช้หัวใจในการรักษา ที่จะเข้าถึงความรู้สึกของคนไข้ ประมาณมีความรู้ท่วมหัว แต่ไม่สามารถเอามาปรับใช้กับผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมในแต่ละราย เป็นยังไงขอ ยกตัวอย่างชัดๆ เช่น การคลอดลูก เรารู้ถึงกลไกการคลอด แต่เราไม่เคยเจ็บท้องคลอดนั่นเอง ดิฉันถามเลยว่าในที่นี้มี หมอพยาบาลกี่คนที่กล้าคลอด ลูกแบบธรรมชาติ ดิฉันยกมือคนแรก ว่ากล้าเพราะครั้งหนึ่งในชีวิตกับการมีลูกขอเจ็บท้องคลอด อยากรู้ว่าแม่เจ็บแค่ไหนตอนที่คลอดเราออกมา รู้แล้วไม่เสียที่เกิด แต่ส่วนใหญ่ดิฉันว่าขอผ่าตั้งแต่เพิ่งรู้ว่าท้องด้วยซ้ำ แล้วก็มีข้ออ้างต่างๆนานาว่า เด็กตัวโต เชิงกรานแคบ(จริงบ้างไม่จริงบ้าง ) แต่เห็นคลอดมาอย่างดีน้ำหนัก ไม่เกิน 3500 กรัม นะส่วนใหญ่ แต่พอเป็นคนไข้ เรามักบอกว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด แล้วเราก็ยกข้อดีของการคลอดธรรมชาติมาเป็นน้ำทั้ง 10 สาย คนไข้ก็ทำตาปริบๆ แล้วแต่เวรกรรมตูก็แล้วกัน ใจก็อยากถามกลับ ว่า ตอนหมอคลอดลูกหมอคลอดแบบไหน เหตุผลเพราะอะไร ทำไมลูกหมอถึงเก่งดีแท้ ฉันก็อยากได้แบบหมอนี่แหล่ะ คนไข้เบ่งตาเหลือกเด็กออกมา 4200 ก็มี ไหง๋คลอดได้ (ว่ะ) ขนาดเด็กแฝด ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดมี แต่บางครั้งเราก็ตัดสินใจให้คนไข้พยายามคลอดธรรมชาติ บางครั้งคลอดออกมาได้คนเดียว อีกคนเข้าห้องผ่าตัดด่วนเพราะติดคลอดไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะข้อดีของการคลอดแบบธรรมชาตินี่แหล่ะ แต่ หมอ พยาบาลส่วนใหญ่ไม่เลือก ว่ามั๊ย แล้วงี้จะให้คนไข้เชื่อเราได้อย่างไรล่ะตัวอย่างมันน้อยผิดกับหมออีกฝั่ง ที่ปัญญาที่จะรักษาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ได้ใจน่ะมากกว่า เพราะเขาใช้ใจอ่านใจ อ่านความรู้สึก ผ่านคำพูดและความห่วงใยที่มาจากใจเขา (อาจจริงไม่จริงไม่รู้ ) คนไข้ไหนล่ะจะไม่โอนเอนตาม ก็เขาดูจริงใจน่ะ
  • หมอพยาบาลรู้ปัญหาคนไข้แต่ไม่เข้าใจปัญหาคนไข้ เช่นการเกิดปัญหา ในการใช้ยา มาเมื่อไหร่แกกินยาผิดตลอดชีวิต เราก็รู้ว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากกินยาผิด แต่ ตา ยาย แก่ ๆอยู่ลำพังหูตา พร่ามัว มียา 10 ชนิด แต่ละชนิด กิน ขนาดไม่เหมือนกัน เวลาอธิบายยาเราก็ ผ่านช่องกระจก พูดเร็วๆ รีบๆ เพราะคนไข้มาก แล้วก็ยกยา 1 กระสอบไปบริหารจัดการ แกใช้ถูก 5 ตัวก็บุญล่ะ มาเมื่อไหร่เราก็ดุซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ผิดกับหมอ อีกฝั่ง แกไม่ต้องอะไรมาก ยาหม้อเดียวกินแบบเดียวรักษาสารพัดโรค แถมอวดอ้างว่าเป็นสมุนไพร ซึ่งบ้านเราเอง ก็ชอบกระพือข่าวเรื่องสมุนไพร โน่นนี่ สรรพคุณดีสารพัด จนทุกคนเข้าใจว่าอะไรที่เป็นสมุนไพรนั้นดีเลิศไปหมด แต่เรากลับไม่อธิบายการใช้สมุนไพรที่ถูกต้องให้คนไข้ เรียกได้ว่าหมอฝั่งนี้ เขา เข้าใจปัญหาและหาทางแก้ได้ถูกเพล้ง แล้วใครล่ะไม่เชื่อ
  • สุดท้ายน่าจะเป็นศรัทธา และ ความไว้เนื้อเชื่อใจ นี่แหล่ะ ดิฉันเคยเจอคนไข้ เป็นโรคกล้าเนื้ออ่อนแรงคนหนึ่ง ที่ออกจากระบบการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน ไปพึ่งไสยศาสตร์ แล้วกลับมาอีกครั้งด้วยสภาพที่สะบักสบอม ดิฉันถามคนไข้ เธอตอบได้น่าฟังมากไม่น่าเชื่อ ดิฉันถามว่า

คนไข้ เรา พ่อแม่ เราก็เหมือนคนตาบอด แล้วคนตาบอดจูงคนตาบอดมิพากันตกเหวตายหรือ

คนไข้ตอบว่า ก็คนนั้นเขาเป็นคนเลี้ยงฉันมา คนตาดีที่ฉันไม่รู้จักฉันไม่รู้ว่าเขาจะช่วยฉันจริงแค่ไหนหรือเอาฉันไปปล่อยทิ้ง

ป๊าด !!!!!! ตอบได้กินใจ ม๊าก ดิฉันก็เลยอธิบายถึงตัวโรคและการรักษา พ่อแม่คนไข้ เข้าใจ และยินดีที่จะเข้าระบบการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบัน ดิฉันหันไปถามคนไข้อีกครั้ง ว่า ตอนนี้คนตาดี จะพารักษา โอเคมั๊ย คนไข้ตอบ ฉันถามพ่อแม่ฉันก่อน น่าน!!!! ปะไร มันคือความศรัทธาและไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งมันยากที่จะเข้าถึง เพราะทุกครั้งที่เขามาเราเอง คุยกับคนไข้น้อยมาก ประมาณ พยาบาลก็รีบๆซักประวัติ ให้เร็ว สีหน้าเคร่งเครียด หมอก็เอ้ามารับยาต่อ หรือ ไม่มีอาการอะไรนะ หมอให้ยาเดิมนะ เครเรียบร้อย ไปรับยาได้ แล้วหันหน้าหนี บางทีก็ลืมจิ้มฟังปอดหัวใจ ในขณะที่หมออีกค่ายเขาเฝ้าถามด้วยความห่วงใย ปลอบประโลม แม้การรักษายังไม่เห็นผล สัมผัสเบาๆ เขาก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ไม่ต้องมีกฎ ไม่ต้องมีระเบียบ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่ดุไม่บ่น หากเป็นฝั่งเรา มีระเบียบข้อกำหนดตั้งแต่ก้าวผ่านหน้าประตู รพ. ผิดนิดหน่อยถูกบ่นตั้งแต่ ผู้ช่วย พยาบาล หมอ สุดท้ายเภสัช ไม่พอ บางครั้งเชิญโภชนากรมาบ่นต่อ คนไข้ก็เฮ้ยชีวิตมันเศร้า

เป็นเพียงการวิเคราะห์เล็กๆ ของพยาบาลบ้านนอก เพื่อนๆลองวิเคราะห์เพิ่มให้หน่อยนะ เพื่อเราจะเขาถึงใจของคนไข้ได้มากขึ้นกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คือ การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายใต้การอยู่ร่วมกับโรคเรื้อรังอย่างมีความสุขนั่นเอง

ชลรรธร


หมายเลขบันทึก: 622995เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2017 02:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2017 02:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แปลงร่างเป็นหมอไสยด้วยหัวใจกันดีก่า

เหตุที่คนไข้ออกจากระบบการรักษาแผนปัจจุบัน.. สาเหตุเพราะเขายังรู้สึกขาดความมั่นใจ ไม่มีที่พึ่ง ซึ่งเราชาวสาธารณสุขเจ้าไม่ถึงจิต+วิญญาณของเขาค่ะ

ไม่ได้เกิดมามีอาชีพนี้..แต่คนเคยอยู่ข้างกายแลคนไกลตัว..เป็นหมอทั้งคู่..ก็เลยพอจะเข้าใจและเห็นใจ. คนมีอาชีพนี้. ..เจ้าค่ะ..โดยเฉพาะ. ผู้เป็นพยาบาล...ที่มีจริยธรรม จิตสูง....อย่าง ชลัญธร..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท