ปัจจุบันในสังคมเรามีนักวิพากษ์เเละนักเคลื่อนไหวจำนวนมาก เพื่อเป็น Actor กระตุ้นสังคมให้เคลื่อนไปอย่างสมดุล ซึ่งในด้านการศึกษาเราก็มีนักวิพากษ์จำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะครู เพราะครูในระบบการศึกษาแบบเดิมยังเป็นครูนักวิพากษ์ เเม้กระทั่งระบบการผลิตครู ก็เป็นระบบการผลิตครูนักวิพากษ์ นั่นหมายถึง การตัดสินเพื่อเเบ่งเเยก ก็อาจมิใช่ต่อเติมเพื่อการเรียนรู้เเต่อย่างใด
“ใช่เเล้วล่ะ” เรากำลังติดบทบาทว่า “ครูจะต้องเป็นนักตัดสิน เเทนที่จะเข้าในว่าครู คือ นักเรียนรู้” โดยเฉพาะเวลาถามนักเรียน ครูจะถามเพื่อหาจุดอ่อน ข้อผิดพลาด จนลืมไปว่า เราต้องเป็นนักเรียนรู้ ที่จะถามเพื่อสร้างการเรียนรู้ เป็นสำคัญ ทั้งนี้ในการถามเรื่องโปรเจคงาน ของผู้เรียนเช่นเดียวกัน ครูมักจะถามว่า ทำๆไม ทำเพื่ออะไร โดยไม่ได้ถามว่า เพราะอะไรถึงทำงานนี้ มีวิธีการทำอย่างไร มีปัญหาอะไรบ้าง จัดการปัญหานั้นอย่างไร เเละได้เรียนรู้อะไรบ้างจากปัญหาเเละการลงมือทำ ซึ่งหลักวิพากษ์เพื่อการเรียนรู้ควรคำนึงถึง สิ่งต่อไปนี้
ข้อควรระวัง คือ เรามักพยายามถามเพื่อหาจุดอ่อน เช่น เธอทำแบบนี้มันไม่ถูกมันผิด แบบนี้มันไม่เกิดประโยชน์ เเละแบบนี้มันทำไม่ได้หรอก เป็นต้น
ครูที่โค้ช ควรเข้าใจเรื่องการวิพากษ์เพื่อการเรียนรู้อย่างเข้าใจ ยิ่งเป็นนักศึกษาครูยิ่งต้องเข้าใจ
ไม่มีความเห็น