​The 2nd day with Angkhor


วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเที่ยวปราสาทหิน แต่เป็นวันที่ 3 ของทริปค่ะ

เราออกจากโรงแรมเวลา 08.30 น. ยังไม่ถึง 09.00 น. ดีนักก็ถึงบายน แต่คนเย๊อะมาก...เราจึงเปลี่ยนแผนเที่ยวแค่ 2-3 ที่ จะไปพิพิธภัณฑ์ในช่วงบ่าย เอาบายนและนครธมไปพรุ่งนี้แทน


วันนี้เรามีคิวย้ายโรงแรมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศด้วย

วันนี้เนื่องจากการย้ายโรงแรม...การแพคของทำให้ความคิดของคู่หูไม่ตรงกัน เกิดความอารมณ์บูดเล็กน้อย

เราได้เรียนรู้ว่าถ้าเราไม่ทิ้งมัน มันจะเกาะจิตใจเราไปเหมือนมะเร็ง และถ้าปัญหาแค่มองเห็นและชี้ปัญหา แต่ไม่ช่วยกันแก้ ปัญหาก็จะอยู่กับเราไปตลอด


Tuk Tuk จอดส่งเราที่ ปราสาทพระขรรค์ Preach Khan เราไม่มีสารสนเทศมาก่อน เราออกเสียงว่า ปราสาทปราการ 555+



ทำให้เราตื่นตาตื่นใจในทางเข้า ปราสาทนี่เข้าออกได้สองทาง ทางเข้าที่มีอสูรยุดนาคตลอดทั้งสองข้างทาง อสูรที่แข็งแรงกำยำ ทำให้เกิดความเกรงขาม (the naga-carrying giant figures)




เดินเข้าไปด้านหน้ามีศูนย์สารสนเทศแสดงข้อมูลการค้นพบและบูรณะ ทำให้เรามีความรู้มากขึ้นและใช้เวลากับที่นี่นาน


ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก...



ที่นี่เราได้จ่ายเงินค่าบริการถ่ายรูปแก่ จนท.ที่อาสาถ่ายรูปมุมต่างๆที่นักท่องเที่ยวไม่รู้ เราก็จ่ายให้เค้า 2 เหรียญตามที่เค้าขอ...สนับสนุนค่าอาหารกลางวันไป อย่างน้อยทริปดูโอเราก็มีรูปคู่ และมุมมองที่แตกต่างไปจากสายตาเราเห็น




ฉันว่ารูปนี้คือนาคคายน้ำ คู่หูฉันว่าเป็นใต้พังพานนาค งานนี้ต้องหาผู้รู้ เมื่อสอบถามไปยังอาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ท่านหนึ่ง ท่านว่า เค้าเรียกว่า นาคคายท่อนพวงมาลัย นะป้านะ เป็นศิลปะเขมรโบราณ



…เราเดินทะลุมาด้านหลังที่มองเห็นบึงสวย

เรามาต่อที่วัดกลางน้ำ Neak Pean เราเลียบบึงขนาดใหญ่มาจากปราสาทพระขรรค์ ฉันชอบที่นี่นะ บึงใหญ่ น้ำใส อากาศสดชื่น(ค่อนข้างร้อนนิดนึง) ร้านขายของดูมีสีสัน




ฉันเจ็บเท้าจากการเดินถนนที่ไม่เรียบ ทำให้ไม่มีแก่ใจเดินไปถ่ายมุมสวย ยอมถ่ายรูปย้อนแสง น่าเสียดายภาพการเกษียรสมุทรที่ได้ภาพแบบดูอะไรไม่ออกเลย


ปราสาทขนาดเล็กที่เรามาเยี่ยมชมต่อคือ Tasom หรือปราสาทตาสม


ฉันรู้สึกเจ็บเท้าและต้องจัดการอารมณ์บางอย่าง เลยปล่อยคู่หูให้เดินไปส่วนในคนเดียว ฉันนั่งมองดูผู้คนที่ผ่านไปมาหลังซุ้มประตู และคิดว่าอะไรที่ทำให้คนเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ความสุขของคนคืออะไร คนเราอยู่ด้วยกันเพื่ออะไร


ฉันเลิกคิดเมื่อคู่หูฉันกลับมา...ช่างมันเหอะ ก็แค่เพ้อ...ของจริงอยู่ข้างหน้า

แล้วเราก็เดินทางต่อไปยังวัด East Mebon


ฉันว่ามีลักษณะคล้ายปรางค์บ้านเรา เวลาตอนนี้เที่ยงกว่า แดดร้อนมาก เราพิจารณาความกว้างของขั้นบันไดที่มีเป็นปัญหาสำหรับหัวเข่าของเราทั้งคู่ เราจึงหยุดพักส่งสายตาชมความอลังการแทนการก้าวย่าง




วันนี้ฉันเห็นของที่ระลึกจากการตอกหนังสัตว์ด้วย น่าซื้อมากมาย



เราชักหิว เราบอก Alex ว่าเราอยากกินข้าวที่ด้านหน้าวัดนี้ แต่ Alex พาเราไปกินร้านสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อวานตอนเราไปบันทายสรีเราก็ผ่าน ร้านนี้ฉันชอบบรรยากาศของร้านตั้งแต่เมื่อวาน แต่งร้านสวย ราคาอาหารก็อย่างว่า แพงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ


จ่ายเพื่อความละไมด้วยความยินดียิ่ง เมื่อกินข้าวหมดจานก็เป็นอันต้องกรี๊ดกับการจักใบตองรองข้าว...ตอนนี้ร้านบ้านเราก็หายากแล้วนะ


ปล.ถ้าโปรดกาแฟเย็น โปรดทำใจเรื่อง น้ำแข็งที่เย็นไม่พอด้วย 555+ รู้ทั้งรู้ก็ยังสั่ง คู่หูฉันก็ย้ำแล้ว ป้าจะกินกาแฟที่นี่เลยเหรอ...ให้อภัยตัวเองเถอะนะฉันติดกาแฟ...ฉันอยากกินกาแฟฟฟฟฟฟฟฟฟ



ในช่วงบ่ายเราต้องแวะแลกเงินอีกครั้ง เพื่อให้มีเงินพอสำหรับการเที่ยว Angkhor National Museum … ที่เค้าโฆษณาว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ... ความคิดเห็นเราในช่วงนี้ยังมีความเห็นเหมือนและเห็นต่างในบางประเด็นที่ต้องอาศัยการจูนไปด้วยกัน


ตุ๊กตุ๊กพาเรามาซื้อตั๋วจากข้างนอก เป็นเหมือนอเจนซี่ แต่ขายราคาเท่ากัน เค้าบอกเราว่าเผื่อที่พิพิธภัณฑ์คนเยอะเราจะได้ไม่เสียเวลาเข้าแถว




ที่ Angkhor National Museum มีแผ่นพับหลายภาษาแจกรวมทั้งภาษาไทยด้วย หากต้องการหูฟังทีให้ความรู้เป็นภาษาต่างๆ ต้องจ่ายอีก 5$ มัลติวิชั่นในห้องนิทรรศการห้องแรกที่แนะนำภาพรวมของพิพิธภัณฑ์มีหลายภาษา 1 ในนั้นมีภาษาไทย และรอบที่เราเข้าไปเค้าก็เลือกเปิดภาษาไทย อาจจะด้วยหน้าตาของเรามีเอกลักษณ์ว่ามาจากสยามประเทศ

ที่นี่ให้ถ่ายรูปได้เฉพาะภายนอก




เราแวะโรงแรมเดิมเพื่อรับสัมภาระและย้ายไปโรงแรมใหม่ เราจองผ่าน Agoda ดูไม่ไกลนักจากเมือง เราต้องการบรรยากาศที่แตกต่าง Hideway Boutique

Resort อยู่ที่ Svay Prey Village Svay Dangkum | Wat Chowk, Siem Reap ห่างจากย่านนักท่องเที่ยวประมาณ 5-7 กม.ได้

แต่ระยะทางที่ตุ๊กๆ พาเราไปนั้น ฉันดูว่าไกลทีเดียว แถมมีบางช่วงทำถนน ดินแดงนี่คลุ้งเชียว แต่ชาวเมืองเค้าว่าไม่ไกลและไม่ลำบาก


Alex ถามว่าตอนเย็นเราจะไปไหนไหม เค้าสามารถมารับได้ พนมบางเค็งไหม หรือตลาดไนท์ เราปฏิเสธทั้งหมด ตลาดไนท์ก็ไม่มีเงินซื้อของฝาก ทริปนี้เราใช้เงินเพื่อซื้อประสบการณ์เยอะกว่าการซื้อของ ส่วนพนมบาเค็ง...คงไม่คุ้มในการใช้สังขาร ส่วนมื้อเย็นเราจะทานอาหารที่รีสอร์ทนี้

เรา Say thank you to Alex, for everything and a hard core road ฉันไม่รู้ว่า Alex เข้าใจความหมายของคำว่า hard core road ไหม แต่เราก็หัวเราะกัน

โรงแรมใหม่ต้อนรับเราด้วย Welcome Drink เป็นน้ำสับปะรด ฉันจอง Villa pool view มา ตัวโรงแรมมีความปลีกวิเวกจากความเป็นเมือง แว่วเสียงเพลงเขมรลอยตามลมมาตามเครื่องกระจายเสีงในหมู่บ้าน ฉันว่าน่าสนุก ถามภรรยายเจ้าของรีสอร์ทเค้าบอกว่าเป็นการทำบุญหลังงานศพ เพิ่งเผาไปเมื่อวาน อ้าวววว เร๊อะ ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมไปในตัว

บ่าย 4 โมงเราเปิดแอร์นอนดูหนังฮอลิวู้ดเรื่อง Heaven and Earth ที่ฝรั่งเจ้าของรีสอร์ทแนะนำ มีหลายเรื่องที่อยู่ HandyDrive ของเจ้าของรีสอร์ท แต่เรื่องนี้เล่นเอาฉันน้ำตาไหลพราก แม้จะเป็นหนังที่มีเสียงบรรยายเป็น Soundtrack ก็ตาม และเรื่องนี้ฉันได้มาแนะนำคนใกล้ชิดต่อว่าภาพสวยมาก


ฉันแก้อาการร้องไห้ด้วยการออกมานั่งจิบกาแฟริมสระน้ำ ดูครอบครัวฝรั้งที่มีลูกหลายคนเล่นน้ำ และเด็กๆ เหล่านั้นก็มาเกาะขอบสระพูดกับฉัน หน้าตาฉันดูจะเรียกแขกรึงัยก็ไม่ทราบ...ฉันเกิดอาการเครียดเล็กน้อยที่ต้องพูดภาษาฝรั่งกับเด็กน้อยฝรั่ง เพราะกลัวพูดกันไม่รู้เรื่อง ฮร่า …เราพูดกันในเรื่องที่เด็กๆ สนใจ เช่น คุณมาจากที่ไหนของประเทศไทย...ทำไมดช.พูดครับ/ดญ.พูดค่ะ...เฮ้อ เวียนเฮด

เมื่อครอบครัวนั้นเข้าไปในเมือง ฉันยึดสระว่ายน้ำตาม นอนหงายลอยตัวดูพระอาทิตย์และพระจันทร์อยู่บนฟ้าไปพร้อมๆ กัน



เราเหลือเงินอยู่จำนวนหนึ่ง รู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะที่นี่ไม่ให้เราใช้บัตรเครดิต วันนี้เรากินข้าวเย็นที่รีสอร์ท โดยฉันขอเป็นแม่ครัวเจียวไข่ เมนูไข่เจียวนอกจากจะทำให้เรากินข้าวได้เยอะ ยังรู้สึกว่ามันช่วยประหยัดค่าอาหารได้อีก

เจ้าของรีสอร์ททำอาหารเอง เพราะลูกจ้่างไม่อยู่ แถมเราด้วย พริกน้ำปลา แหล่มเลย...เธอยอกเธอเคยมาเที่ยวเมืองไทย คนไทยชอบอาหารรสจัด


เบียร์สดที่นี่อร่อยมาก แก้วละ 0.5$ น่าเสียดายที่เรากินได้น้อยด้วยประเด็นที่ว่า เราไม่รู้ว่าราคาเบียร์แก้วเท่าไหร่ เพราะราคาอาหารนั้นยังไม่คิดทันที เค้าจะให้จ่ายรวมกับค่าห้องตอน check out วันนี้เราประมาณแผนการใช้เงินสำหรับมื้อนี่ไม่ควรเกิน 13$


ระหว่างการรออาหาร ฝรั่งเจ้าของร้านก็มาชวนคุย ชวนเล่นเกม เราเล่นเกมเอาฮาแต่จริงจังมาก 555+ ฉันแพ้คู่หูไป 3:0 หมายความว่าเล่น3 รอบ แพ้ไป 3 รอบ 555+




ที่นี่ดูเหมือนจะทำชั้นบนของรีสอร์ทให้เป็นสโมสร ที่นี้การสังสันท์เป็นเรื่องพิเศษ แขกทุกคนจะทักทายกันเป็นเรื่องปกติ...ภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆ ของฉันต้องทำงานหนักอีกแล้ว แต่ไม่รุนะ เราก็มีเสียงหัวเราะ และเล่นกับเด็กฝรั่งได้ ภรรยาเจ้าของรีสอร์ทชาวกัมพูชาแม้จะวุ่นวายกับลูกค้า แต่ก็เอาใจใส่เรามาก เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองจากการพูดคุย...จนฉันคิดว่าภาษาอังกฤษของฉันนี่ถึงขั้นหาสามีฝรั่งได้แล้ว 5555+


อิ่มท้อง เครื่องดื่มถึง อารมณ์สงบ เราก็หลับสนิท พรุ่งนี้เราจะไปบายน และนครวัด นครธม

เช้ามาดูบิล ค่าอาหารแค่ 6.75$ เอง รู้งี้กินเบียร์มากก็ได้เน๊อะคู่หู


ประสบการณ์ครั้งนี้...จะเป็นครูสำหรับทริปหน้า 5555+

หมายเลขบันทึก: 620921เขียนเมื่อ 1 มกราคม 2017 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มกราคม 2017 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท