เช้าวันนี้...รู้สึกตัวตื่นไปวิ่งตามปกติ ปกติคือการต่อสู้ของจิตที่ตัวหนึ่งสำออยว่าตัวเองไม่สบายก็หยุดพักสักวัน ไม่ต้องวิ่งสักวัน อีกใจหนึ่งก็ต่อว่าจิตที่คิดแบบนั้นว่าใจไม่สู้ ลุกขึ้นสิ ไปเดินรับลมหนาวบ้างก็ยังดี ยังไงก็ต้องไปทำงานอยู่แล้วจะมัวนอนสันหลังยาวอยู่ทำไม อากาศมันไม่หนาวสักหน่อย ขี้เซาอยู่ได้
ระหว่างที่จิตมันทะเลาะกันตัดสินด้วยการลุกขึ้นนั่ง ชูแขนทั้งสองข้างขึ้นแล้วแล้วบิดซ้ายขวา ก่อนจะลุกเดินลงจากเตียง
วิ่งมาถึงหน้าสวนหมู่บ้านเห็นเต้นท์จัดประชุมสามัญนิติฯหมู่บ้านยังตั้งอยู่ ใจมันคิดไปถึงประเด็นการถกเถียงในวันนั้น แม้นจะจบลงไปแล้ว ใจหนึ่งบอกจะไม่ยุ่งกับความวุ่นวายของความคิดเห็นไม่ลงรอยกันนั้นอีกแล้ว แต่ใจหนึ่งมันยุจะให้เอาคืน รอวันประชุมใหม่เสนอไปเลยว่าขอโหวตล้มนิติบุคคลหมู่บ้านไปเลย ทะเลาะกันดีนัก ชิงดีชิงเด่นเอาชนะคะคานกันดีนัก ไม่ต้องมีแล้วนิติฯหมู่บ้าน ยกให้ อบต.บริหารไปเลย อีกใจหนึ่งแย้งขึ้นมาอีกปล่อยวางบ้างเถอะ เรื่องมันจบไปแล้ว ถ้าไม่อยากวุ่นวายทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็อยู่ดูเขาข้างนอก ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา นอกเสียจากว่า...นั่นไง จิตอีกตัวหนึ่งได้ทีบอกว่า ก็หากใครมาแอบอ้างก้าวก่ายใส่ร้ายป้ายสีจะให้อยู่นิ่งได้ไง ถ้าพวกเขาทำในสิ่งไม่ถูกต้องจะนิ่งเฉยได้ไง ต้องลุกขึ้นประท้วง ชี้แจงแถลงไขให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ให้สังคมเขาเข้าใจ ถึงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ คนอื่นๆหลายคนพลังมากพอที่จะช่วยได้ แล้วก็มาบ่นว่า วุ่นวาย...ก็จริงไหมล่ะ นั่นมันคือความขัดข้องหนอ วุ่นวายหนอ ไม่ใช่หรือ
เฮ้อ...เบื่อจะเถียงกับแก ไอ้โรคจิต
แกนั่นแหละ ไอ้โรคจิต ทำเป็นโลกสวยอยู่ได้
แกนั่นแหล่ะ โลกสวย...
.............
เป็นเหมือนกันค่ะ ... ความขัดแย้งในใจ
ใจขัดแย้งกันตลอดนะครับ
ถ้าใจดีเข้มแข็งก็จะชนะเสมอครับ
555...
บางทีมันแย่งที่จะแสดงออกมาด้วยน่ะ