จำไม่ได้แล้วว่ากองกิจการนิสิตหวนกลับไปรับกิจกรรมบริจาคโลหิตมาจากงานกิจการพิเศษตั้งแต่เมื่อไหร่ คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะอยู่ในช่วงต้นที่ ผศ.ดร.สุจิน บุตรดีสุวรรณ มาดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต โดยประกาศให้ตลอดทั้งปีเป็นการทำความดีเพื่อในหลวงและบรรจุให้การบริจาคโลหิตเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ว่านั้น
การไปรับภารกิจคืนกลับมานั้นในระยะต้นกลุ่มงานกิจกรรมนิสิตขันอาสาเป็นเจ้าภาพเพื่อมิให้ปัญหาเก่าๆ หวนกลับมากรีดกรายอย่างมีตัวตนอีกรอบ พอผ่านไปสักระยะก็ส่งมอบงานข้ามกลุ่มงาน แต่ในที่สุดก็หวนกลับมายังกลุ่มงานกิจกรรมอีกรอบโดยมีคุณเยาวภา ปรีวาสนา เป็นกลไกหลักในการทำงานร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
-1-
สี่ถึงห้าปีให้หลังมหาวิทยาลัยมหาสารคามประกาศเอกลักษณ์อย่างชัดเจนว่า “เป็นที่พึ่งของสังคมและชุมชน” เช่นเดียวกับประกาศอัตลักษณ์นิสิตว่า “นิสิตกับการช่วยเหลือสังคมและชุมชน” รวมถึงการประกาศวาทกรรมอันเป็นค่านิยมของนิสิตว่า MSU FOR ALL เรียกเป็นวลีไทยๆ ว่า “พึ่งได้” อันหมายถึงพึ่งพาตัวเองได้และเป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ ทั้งปวงนั้นได้ขับเคลื่อนผ่านภารกิจหลักของมหาวิทยาลัย ทั้งการเรียน การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม หรือกระทั่งกิจกรรมนอกหลักสูตร/กิจกรรมเสริมหลักสูตรของฝ่ายพัฒนานิสิต ซึ่งผมเรียกเก๋ๆ ในแบบฉบับของผมว่า 4 In 1 และ 5 In 1
ด้วยเหตุนี้กิจกรรมการบริจาคโลหิตที่จัดขึ้นโดยกองกิจการนิสิต จึงมีสถานะเป็นระบบและกลไกการพัฒนานิสิตในวิถีกิจกรรมนอกหลักสูตร เป็นกิจกรรม “มหาวิทยาลัยเพื่อนิสิต” หรือ “มหาวิทยาลัยเพื่อมหาวิทยาลัย” โดยเชื่อมประสานให้นิสิต คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ว่าด้วยเอกลักษณ์ อัตลักษณ์นิสิต ค่านิยมนิสิตและปรัชญามหาวิทยาลัยดังว่า “ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน”
ปัจจุบันกิจกรรมการบริจาคโลหิตถูกยกระดับการทำงานขึ้นมาเป็นรูปธรรมจากอดีตค่อนข้างมาก กล่าวคือกองกิจการนิสิตทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนานิสิตของทุกคณะ ภายในคณะจะขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตหรือคณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตของแต่ละคณะ จะมากจะน้อยก็อยู่ที่ระบบและกลไกของแต่ละคณะ โดยมีวาระที่แตกต่างกันไป สุดแท้แต่คณะจะกำหนดขึ้น ทั้งเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อพระราชินี หรือเชื้อพระวงศ์ และอื่นๆ
นอกจากนั้นก็จะเป็นการทำงานร่วมกับกองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศที่เข้ามาหนุนเสริมเรื่องการประชาสัมพันธ์ทั้งก่อนและหลังการจัดกิจกรรม
-2-
ภาคีหลักในเรื่องการบริจาคโลหิตคือโรงพยาบาลมหาสารคาม และสภากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งจะกำหนดปฏิบัติเป็นรายเดือน แต่ละเดือนมหาวิทยาลัยมหาสารคามจะรองรับการบริจาคโลหิตอย่างน้อย 1-2 ครั้ง บางเดือนไม่ใช่แค่คณะเท่านั้นที่เป็นเจ้าภาพ หากแต่มีหน่วยงานอื่นๆ รับเป็นเจ้าภาพโดยตรง เช่น กองทะเบียนและประมวลผล สำนักศึกษาทั่วไป โรงเรียนสาธิตฯ (ฝ่ายมัธยม) รวมถึงกองกิจการนิสิตด้วย
การรับบริจาคโลหิตกับมหาวิทยาลัยมหาสารคามถือเป็นความร่วมมือระดับจังหวัดที่ผู้บริหารแต่ละรุ่นได้สร้างวัฒนธรรมที่ดีส่งต่อกันมาเป็นระยะๆ ทำให้จังหวัดมหาสารคามได้เปรียบกว่าจังหวัดอื่นที่อยู่ใกล้เคียง สามารถจัดทำแผนได้ตลอดทั้งปี มีโลหิตเพียงพอ ขณะเดียวกันการบริจาคโลหิตก็ช่วยให้นิสิตได้ตรวจสุขภาพไปในตัว รู้จักการช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชนในการทำความดี |
</span>
ปีการศึกษา 2558 ดูเหมือนจะเป็นปีที่กิจกรรมบริจาคโลหิตเบ่งบานเป็นรูปธรรมมากขึ้นตามลำดับ เนื่องจากมี “องค์กรนิสิต” ขยับเข้ามาจัดกิจกรรมและกำหนดเป็นแผนงานประจำองค์กร โดยเฉพาะ “สภานิสิต” ได้ทำการบรรจุเป็นแผนงานต่อเนื่องมาหลายปี ขณะที่ “องค์การนิสิต” ที่บริหารโดย “พรรคพลังสังคม” เพิ่งริเริ่มที่จะเป็นเจ้าภาพในเรื่องนี้ด้วยการชูประเด็น “น้องใหม่รับใช้สังคม” รวมถึงชมรมอื่นๆ ที่ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าภาพหลักแต่ก็อาสาเข้ามาหนุนการทำงานร่วมกับกองกิจการนิสิตและคณะต่างๆ อย่างน่าชื่นชม เช่น ชมรมอาสายุวกาชาด นิสิตจิตอาสาจากคณะศึกษาศาสตร์ นิสิตจิตอาสาจากวิชาภาวะผู้นำที่เข้ามาช่วยงานโดยไม่เกี่ยงงอนว่าจะมีคะแนนหรือไม่มีคะแนน
นี่คือกิจกรรม “เรียบง่ายแต่งดงาม” - งดงามเพราะได้สร้างพื้นที่ให้ผู้คนได้ทำความดีผ่านการบริจาคโลหิต ลดทอนเวลาการเดินทางของประชาคมมหาวิทยาลัยมหาสารคามในการที่จะเข้าเมืองไปบริจาคโลหิต เสริมสร้างการทำงานเชิงเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกอย่างเรียบง่ายแต่ลงตัว รวมถึงการมองว่ากิจกรรมง่ายงามเช่นนี้หากจัดขึ้นได้บ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้คนได้ทำความดีอย่างต่อเนื่อง ยิ่งจัดขึ้นบ่อยๆ ยิ่งจะช่วยบ่มเพาะและขัดเกลาจิตใจแห่งการเป็น “ผู้ให้” และ “จิตอาสา” ไปโดยปริยาย
แต่ละส่วนของเลือดมีหน้าที่แตกต่างกันไป เช่น เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ขนออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ เม็ดเลือดขาวต่อสู่และกินเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เกล็ดเลือดทำให้เลือดหยุดง่าย ส่วนน้ำเลือดทำหน้าที่ขนส่งอาหารไปเนื้อเยื่อของร่างกายรวมถึงยาที่ใช้รักษาโรค ดังนั้นการบริจาคเลือดจึงเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนต้องการองค์ประกอบของเลือดชนิดใด รศ.ดร.อุไร จำปาวะดี |
</span>
ในทุกครั้งที่จัดกิจกรรมนี้ จะเป็นการดีอย่างยิ่งหากนิสิตจากคณะพยาบาลศาสตร์ แพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ หรือสาธารณสุขศาสตร์ หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านมาร่วมปฏิบัติการในเรื่องเหล่านี้ เพราะจะได้ฝึกวิชาชีพตนเองไปในตัว รวมทั้งการพัฒนาต่อยอดโดยนำเอาแนวคิดการจัดกิจกรรมเรียนรู้บนฐานคิด “ฮีต 12 คองสังคม/ฮีต 12 คองนิสิต/ฮีต 12 ของมหา’ลัย” มาผนึกเข้าด้วยกัน
ยกตัวอย่างเช่นหากจัดขึ้นในเดือนอะไรก็ให้พิจารณาว่าเดือนๆ นั้นมีเหตุการณ์ หรือเรื่องราวใดพอที่จะผูกโยงเป็นการเรียนรู้ได้บ้าง หากมีก็เชื่อมร้อยเข้ามาเป็นหนึ่งในกิจกรรมเดียวกับการบริจาคโลหิต อาจมีเอกสารแจกเพิ่มเติม มีนิทรรศการเพิ่มเติม เปิดคลิปให้ชมเพิ่มเติม หรืออื่นๆ อีกจิปาถะ ขึ้นอยู่กับว่าการจัดแต่ละครั้งมีอะไรเป็น “ต้นทุน” หรือ “โจทย์” รวมถึงอาจต้องจัดทำของที่ระลึกเนื่องในวาระนั้นๆ มาแจกจ่ายด้วยก็ไม่ผิด จะเป็นเสื้อ พวงกุญแจ ที่คั่นหนังสือ หมวก สติ๊กเกอร์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สามารถรังสรรค์ขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะยกระดับกิจกรรมนี้ขึ้นมาหรือไม่เท่านั้นเอง
-3-
ปีการศึกษา 2558 เป็นปีที่กิจกรรมบริจาคโลหิตดูคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งในระบบการทำงานระหว่างกองกิจการนิสิตกับฝ่ายพัฒนานิสิตคณะ หรือกระทั่งกับองค์กรนิสิตและโรงพยาบาลมหาสารคามที่บางครั้งมีการพวกพาสปอนเซอร์จากภาคเอกชนมาช่วยสร้างสีสันแจกของที่ระลึก
เช่นเดียวกับอีกส่วนหนึ่งของความคึกคักน่าจะมาจากความตื่นตัวที่ต้องการทำประโยชน์ต่อสังคมด้วยตนเอง รวมถึงผลพวงของระบบการกู้ยืม กยศ. และ กรอ.ที่กำหนดให้นิสิตได้สะสมชั่วโมงกิจกรรมจิตอาสา ส่งผลให้กิจกรรมการบริจาคโลหิตกลายเป็นตัวเลือกหนึ่งในวิถีแห่งการเก็บสะสมชั่วโมงจิตอาสาที่ว่านั้นไปโดยปริยาย
กำหนดการ |
หน่วยงาน/เจ้าภาพหลัก |
จำนวน |
ปริมาณเลือด |
11 มกราคม 2559 |
คณะวิทยาศาสตร์ |
53 |
20,800 |
14 มกราคม 2559 |
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง |
249 |
99,600 |
20 มกราคม 2559 |
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
97 |
38,800 |
8 มกราคม 2559 |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ |
118 |
47,200 |
26 มกราคม 2559 |
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง |
80 |
32,000 |
5 กุมภาพันธ์ 2559 |
คณะศึกษาศาสตร์ |
75 |
30,000 |
8 กุมภาพันธ์ 2559 |
คณะนิติศาสตร์ |
110 |
44,000 |
18 กุมภาพันธ์ 2559 |
คณะการบัญชีและการจัดการ |
159 |
63,600 |
23 กุมภาพันธ์ 2559 |
คณะเทคโนโลยี |
91 |
36,400 |
25 กุมภาพันธ์ 2559 |
คณะวิทยาศาสตร์ |
125 |
50,000 |
11 มีนาคม 2559 |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ |
84 |
33,600 |
14 มีนาคม 2559 |
คณะเภสัชศาสตร์ |
76 |
30,400 |
15 มีนาคม 2559 |
กองกิจการนิสิต |
67 |
26,800 |
4 เมษายน 2559 |
กองกิจการนิสิต |
77 |
30,800 |
5 เมษายน 2559 |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ |
194 |
77,600 |
8 เมษายน 2559 |
สำนักศึกษาทั่วไป |
91 |
36,400 |
22 เมษายน 2559 |
คณะเทคโนโลยี |
58 |
23,200 |
25 เมษายน 2559 |
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง |
289 |
115,600 |
27 เมษายน 2559 |
คณะวิทยาการสารสนเทศ |
58 |
23,200 |
4 พฤษภาคม 2559 |
คณะศึกษาศาสตร์ |
98 |
39,200 |
11 กรกฎาคม 2559 |
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง |
104 |
41,600 |
11 สิงหาคม |
องค์การนิสิต / กองกิจการนิสิต |
141 |
56,400 |
15 สิงหาคม 2559 |
คณะการบัญชีและการจัดการ |
206 |
82,400 |
17 สิงหาคม 2559 |
คณะนิติศาสตร์ |
168 |
67,200 |
24 กันยายน 2559 |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ |
135 |
54,000 |
29 กันยายน 2559 |
คณะวิทยาการสารสนเทศ |
64 |
25,600 |
รวม |
|
1,226,400 |
ท้ายสุดนี้ขอยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่าโครงการบริจาคโลหิตเป็นกิจกรรมเชิงรุกอัน "เรียบง่าย" แต่เต็มไปด้วย "พลังแห่งการแบ่งปันความรัก"ต่อเพื่อนมนุษย์ เป็นการแสดงถึงจุดยืนของคณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตของมหาวิทยาลัยที่มีต่อการรับผิดชอบต่อสังคม โดยคำว่าชุมชนไม่จำเป็นต้องผูกยึดไว้กับหมู่บ้าน ท้องถิ่นในงานค่ายอาสาพัฒนาและงานอันเป็นภารกิจทั้ง 4 ด้านของมหาวิทยาลัย เพียงแต่คำว่า "ชุมชน" ในนิยามการบริจาคโลหิตจะครอบคลุม"ความเป็นมนุษย์" หรือ "เพื่อนมนุษย์” หรือ "ชีวิตเพื่อชีวิต" เช่นเดียวกับการบ่งชี้เรื่องคุณธรรมจริยธรรมที่ว่าด้วยความรักความเสียสละ จิตสาธารณะ (Public Mind) และ จิตสาธารณะ (Public Consciousness) อย่างเสร็จสรรพ
ฉะนี้แล้วกิจกรรมบริจาคโลหิตจึงถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ความเป็น"ตัวตน มมส"ได้อย่างสง่างาม เป็นกิจกรรมเรียบง่ายแต่มีพลัง สะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์ ตอกย้ำจุดยืนความเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ค่านิยมและปรัชญามหาวิทยาลัยได้อย่างไม่เขินอาย
มิหนำซ้ำยังเป็นการใช้เวลาราชการทำกิจกรรมสร้างสรรค์อย่างมีคุณค่า ดีกว่าเอาเวลาราชการไปเตร็ดเตร่และกรีดกรายอยู่ตามร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า ขายหวยซื้อหวย-ลุ้นหวย หรือไม่ก็เอาแต่นั่งก้มๆ เงยๆ เล่นเฟชบุ๊คผ่านมือถือและคอมพิวเตอร์ในสำนักงานไปวันๆ
เนื่องจากผมอยากทำงานเกี่ยวกับอาสาสมัคร พอได้มาช่วยตรงนี้ก็รู้สึกดีใจมากที่ได้ช่วยเหลือพี่ๆ บุคลากรจากโรงพยาบาลมหาสารคาม และคุณแม่เหล่ากาชาด และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถึงแม้จะเป็นงานเล็กๆ แต่ก็ช่วยให้ผมรูสึกว่าตัวเองมีคุณค่า รู้สึกยินดีมากครับที่ได้ไปช่วยงานรับบริจาคโลหิตที่ผ่านมา เพราะได้ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ศุภฤกษ์ อนันท์ |
</span>
มีความสุขมากครับที่ได้มีส่วนช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เพื่อนๆ มาบริจาคโลหิต ดีใจที่เห็นเพื่อนๆ ให้ความสนใจต่อการบริจาคโลหิตกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เช่นการวัดความดัน การปฐมพยาบาล และความรู้ในเรื่องการบริจาคโลหิต เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผมเชื่อว่าจะส่งผลต่อการทำงานในอนาคตอย่างแน่นอน ขอขอบคุณ สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่เปิดโอกาสให้นิสิตได้มาเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพนิสิตให้มีความรู้ความชำนาญ ในด้านสุขภาพอนามัยอย่างรอบด้าน
รัฐศาสตร์ ชาแท่น
ชั้นปีที่ 1 สาขาสิทธิมนุษยชนศึกษา วิทยาลัยการเมืองการปกครอง
ผู้ประสานงานชมรมอาสายุวกาชาด
หมายเหตุ
ภาพ : เยาวภา ปรีวาสนา
เขียน : วันที่ 13 ธันวาคม 2559
มาร่วมชื่นชมและอนุโมทนาสาธุค่ะ
สวัสดีครัย พี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ
เดือนมกราคม 2560 จะได้มีการปรับแต่งกระบวนการ วิธีการใหม่ให้สอดรับกับความเป็นไปของสังคม รวมถึงการปักหมุดอันหนักแน่นเพื่อให้เป็นวัฒนธรรมองค์กรของ มมส (ฮีต 12 ของมหาวิทยาลัย" หรือกระทั่ง ฮีต 12 คองนิสิต....
ปีการศึกษา 2558 โชคดีมากครับ นิสิตรวมกลุ่มเป็นชมรมฯ กันเองเลย ไม่เกี่ยวกับคะแนน และไม่เกี่ยวกับระบบจิตอาสาของ กยศ.
ขอบพระคุณครับ
ได้เลือดเยอะมากๆเลยครับ
ขอชื่นชมนิสิตและทุกๆคน
ครับ ดร.ขจิต ฝอยทอง
ปีนี้กำลังยกร่างแผนงานเรื่องนี้กันใหม่ มมส ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก เพราะคือการบ่มเพาะเรื่องจิตอาสา การเป็นผู้ให้อันง่ายงามโดยไม่ต้องเดือดร้อนทรัพยากรจากที่อื่น เนื่องจากใข้ทรัพยากรในตัวเรานั่นเอง ครับ