นักกิจกรรมบำบัดกับผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บทางสมอง


ฉันได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์เพื่อนของพี่สาวด้วยเคสที่น่าสนใจสำหรับฉันเเละช่วยเปิดโลกทัศน์ ทำให้ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของวิชาชีพกิจกรรมบำบัดมากขึ้น โดยเพื่อนพี่สาวชื่อเฟิน(นามสมมติ)มีแฟนเป็นชาวต่างชาติชื่อนิค(นามสมติ) โดยนิคโดนรถกระบะชนจนบาดเจ็บอาการโคม่านอนสลบเป็นระยะเวลา3วัน ฟื้นขึ้นมามีอาการเส้นเลือดในตาเเตกทำให้มองเห็นภาพเลือนราง กระดูกขาตั้งเเต่หัวเข่าจนถึงข้อเท้าหักสามท่อนเเละอาการที่สำคัญคือ ความจำช่วง1ปีก่อนเกิดอุบัติเหตุจนถึงวันที่เกิดอุบัติเหตุหายไป เเต่ความจำระยะยาวยังอยู่สามารถจำพ่อเเม่เเละเเฟนได้ เเต่จำเหตุการณ์ที่เจอกันหรือเพื่อนของเเฟนไม่ได้ โดยนิครักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไทย 1 อาทิตย์เเละส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลออสเตรเลีย เเละได้เข้าทำการบำบัดที่ศนูย์ของออสเตรเลียโดยอยู่เป็นเวลาสามเดือน โดยเเต่ละวันจะมีกิจกรรมการฝึกที่เเตกต่างกัน เช่นตอนเช้าฝึกกำลังกล้ามเนื้อแขนเนื่องจากแขนอ่อนเเรงไม่สามารถตักข้าวกินเองได้ ตอนบ่ายฝึกพูดกับspeech therapy เพราะหลังจากฟื้นนิคมีโทนเสียงพูดแบบเดียว ไม่มีน้ำเสียงหนักเบาขึ้นลง เเละมีการฝึกกลืนเพราะหลังจากฟื้นนิคเจาะท้องให้อาหารทางสายยาง โดยทุกครั้งที่กินอาหารจะต้องมีคนคอยดูแลเเละต้องมีคนคอยป้อน,บอกให้เคี้ยว1-10เเละค่อยๆกลืน โดยทางการฟื้นฟูความทรงจำจะเริ่มโดยทุกครั้งที่นักกิจกรรมบำบัดเข้ามาจะมีการสอบถามว่าตอนนนี้อยู่ที่ไหน ใครเป็นนักบำบัด(ให้บอกชื่อ) เเละมีการให้จำภาพ เช่น ดอกไม้ กรรไกร เเมว หมา ให้จำ3ภาพจาก6ภาพเเละถ้าสามารถจำได้มากขึ้นก็เปลี่ยนภาพไปเรื่อยๆจนสามารถจำได้ครบ6ภาพ โดยความสามารถในตอนแรกของนิค นิคมีความจำเพียง5-10นาทีเเละพัฒนาไปเรื่อยจนเป็นความจำวันต่อวันเเละเป็นความจำสัปดาห์ต่อสัปดาห์ ทางศูนย์มีทำเป็นบอร์ดหรือไดอารี่ให้นิคเขียนว่าในเเต่ละวันทำกิจกรรมอะไรไปบ้าง เเต่นิคไม่ค่อยให้ความร่วมมือ โดยช่วงนั้นนิคพัฒนาความสามารถไปได้มากเเละติดมือถือทางศนูย์จึงอนุญาติให้ใช้เเละใช้แอปพลิเคชั่นในมือถือตั้งเตือนว่าเเต่ละวันทำอะไร โดยก่อนออกจากโรงพยาบาลจะมีคนมาตรวจสภาพบ้านก่อนว่าปลอดภัยเหมาะสมกับนิค เพราะช่วงเเรกนิคยังต้องนั่งรถเข็น ปัจจุบันนิคอยู่เเต่บ้านกินนอนเล่นเกมส์ ไม่ยอมออกกำลังกายหรือออกไปข้างนอก นิคไม่มีเเรงจูงใจไม่อยากทำอะไร เเละด้วยอาการหลงๆลืมๆยังเป็นผลทำให้นิคชอบลืมว่าตัวเองกินข้าวเหมือนหิวตลอด ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางบ้านกังวลจึงจ้างนักโภชนาการมา เเต่นิคบอกว่าเขาปกติ หุ่นของเขาเป็นไซส์ปกติ โดยทางครอบครัวมีความคาดหวังให้นิคเข้าเรียนมหาวิทยาลัย โดยเป้าหมายระยะเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับคนพิการเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปมหาลัยจริง โดยจากคำเเนะนำที่ได้ คือการลองวิเคราะห์ภาวะจิตใจของนิค เพราะ การที่นิคบอกว่าหุ่นของตัวเองปกติอาจมีภาวะเรื่องของจิตใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองด้วย

หมายเลขบันทึก: 619975เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2016 23:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม 2016 23:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท