กล่าวถึงเมืองผลึก( หรือเมืองภูเก็ตตามที่ท่าน ศ. ดร. ไพฑูรย์ พัฒน์ใหญ่ยิ่งวิเคราะห์ให้ )เจ้าเมืองชื่อท้าวบุรินทร์สิลราช แม่เมืองชื่อมณฑามีลูกสาวชื่อสุวรรณมาลีซึ่งเจ้ากรุงลังกามาขอให้ลูกชายชื่ออุศเรนเมื่อ 9 เดือนมาแล้วยังไม่มาแต่งงานสักที คืนหนึ่งเธอฝันว่าไปเที่ยวทะเลเห็นแก้วใสสว่างจึงเหาะไปเอาแต่ตื่นขึ้นมานึกเสียดายเป็นทุกข์ฝ่าย 4 พี่เลี้ยงก็ปลอบใจแต่ไม่หายจึงไปบอกเจ้าเมือง ให้โหรทำนายว่า เธอจะได้สามี เจ้าเมืองจึงพาลูกสาวเที่ยวทะเลให้ใจสบาย...บ้างจัดของเคยแต่งแป้งขมิ้น ของตัวสิ้นอุตส่าห์ไปเที่ยวไขว้เขว สาวสุรางค์นางสนมสมคะเน ไปทะเลหาหอยสักร้อยใบ. ( น. 271 ) ตรงนี้ผมว่าคงออกเรือมาทางน่านน้ำเมืองกระบี่แน่เลยละ...ทั้งหีบหมากนากทองของใส่ใน ไปทางไกลหมากหมดจะอดโซ. ( น. 271 ) แสดงว่าของขบเคี้ยวยุคนั้นคือหมากพลูนี่เองถึงว่าต้นไม้อันเป็นอัตลักษณ์ทางปักษ์ใต้คือหมากนี่เอง
เมื่อกองเรือสำเภาออกทะเลแล้วชมเกาะชมเขาชมสัตว์น้ำ ทีนี้เจอพายุพัดเรือพ้นเขตแดนลอยลำอยู่ 7 วัน 7 คืนแล้ว คนล้าต้าก็จำทิศทางไม่ได้จึงบวงสรวงเข้าทรงเจ้าป่าเขาบนเกาะคือถามผี ...เห็นไก่ดิบหยิบปีกฉีกกระชาก เอาใส่ปากเคี้ยวกินจนสิ้นขา หัวเราะเรอเอออเจ้าให้เรามา จะปรารถนาสิ่งไรทั้งไพร่นาย. ( น. 275 ) และผีที่เข้าทรงบอกว่าเกาะนี้คนอาศัยอยู่ไม่ได้อันตรายให้ไปทางทิศเหนือจะพบคนช่วย...เจ้าขรัวนายล้มกลิ้งลงนิ่งแน่ หมอเข้าแก้พื้นกายอายนักหนา เข้าในห้องร้องไห้ฟายน้ำตา เมาสุรารากเรอบ่นเพ้อไป. ( น. 276 ) ว่าแล้วเจ้าเมืองก็สั่งถอนสมรเรือเพื่อแล่นเรือไปทางทิศเหนือ
ทีนี้บรรดากองเรือที่เหลือเมื่อหากันไม่เจอต่างก็กลับเมืองผลึก มีแต่เรือเจ้าเมืองกับลูกสาวหลงทิศอยู่ พวกโหรจับยาม 3 ตาดูรู้ว่านานลูกสาวจะกลับมาแต่บิดาหาไม่แล้ว
ฝ่ายแม่เมืองครองเมืองแทนสั่งกองเรือ 500 ลำ เร่งออกตามหาทีนี้ย้อนกล่าวถึงเจ้าเมืองลงกาพาลูกชายมาแต่งงานถึงเมืองผลึก แม่เมืองเล่าความจริงให้ฟังพร้อมยกเมืองผลึกให้ลูกเขยครอง อุศเรนสั่งทหารรักษาเมืองให้พ่อกลับลังกา ส่วนตนเองขอตามหาเมียจนกว่าจะพบ ...พอแสงทองส่องฟ้านภาลัย ยิงปืนใหญ่ตูมตูมขึ้นสามตึง ประโคมฆ้องกลองแตรแซ่สนั่น เหล่ากำปั่นน้อยใหญ่ชักใบขึง ยกออกจากปากอ่าวอึงคะนึง พอลมตึงแล่นตามกันหลามไป. ( น. 281 ) แล้วเจ้าหนุ่มอุศเรนจะไปเจอเธอหรือไม่ละนี่..?
...............................................
บรรณานุกรม
สุนทรโวหาร ( ภู่ ),พระ,2329-2398. ( 2555 ). พระอภัยมณี.
กรุงเทพ ฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ ( 2006 ).
ไม่มีความเห็น