Be Believe มหัศจรรย์แห่งความเชื่อ ตอนที่4
วันนั้นเอง
หลังจากที่เขาถ่ายภาพนั้นเสร็จ เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเขาเริ่มสั่น
และร่างของเขาก็โอนเอนและกลิ้งไปตามทางลาดของหุบเขา
จังหวะนั้นทันทีที่กล้องของเขาได้จับภาพรูปเหตุการณ์นั้น
มันเป็นรูปที่น้ำตกโฮลล์นั้นกำลังเกิดหลุมมหึมา แรงดึงดูดมากพอที่จะดูดกลืนครอบครัวของเขาไปต่อหน้าต่อตา
ใช่แล้ว เขารอดเพียงคนเดียว รอดมาโดยที่ไม่รู้ว่าพ่อแม่
พี่ชายและน้องสาวของเขาเป็นเช่นไร เขาเอาแต่โทษตัวเอง เขาคิดว่าเขาคือคนผิด
เขาจำได้ว่า เขาออกจากห้องพักเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่จะเดินตามครอบครัวไปที่น้ำตก
เขาได้เอากุญแจไปฝากพนักงานไว้ พนักงานจึงถามเขาว่า ”คุณและครอบครัวจะออกไปไหนกันคะ?” พนักงานถามด้วยสีหน้ากังวล
“เอ่อ คือพวกเราจะไปเดินเล่นที่น้ำตกกันครับ”เอกภพตอบ สิ้นเสียงเอกภพ พนักงานก็ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์มือถือของเอกภพดังขึ้น เขารีบรับโทรศัพท์
แต่ก็ยังได้ยินประโยคสุดท้ายของพนักงาน “......อย่าไปเลยนะคะ
มันจะมืดแล้ว และได้โปรดอย่าลง....” เขาไม่ได้ฟังจนจบนั่นเอง
เขามัวแต่รับโทรศัพท์และครูโทรมาบอกเขาว่ามีกิจกรรมการประกวดแข่งขันเรื่องสั้นประกอบภาพให้เขาถ่ายภาพพร้อมกับเขียนเรื่องสั้นส่งครู..
และประโยคนั้นที่เขาฟังไม่จบก็คือ “ได้โปรดอย่าลงเล่นน้ำ”
หลังจากที่เขาคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็พบว่าตัวเองเดินออกมาไกลจากรีสอร์ทแล้ว
เขาจึงเดินตามครอบครัวไปน้ำตกโดยไม่ได้คิดถึงคำพูดสุดท้ายของพนักงานเลย!
หลังจากที่เขากลับมาจากรีสอร์ทเพียงลำพังตัวคนเดียว เขากลับมาบ้าน ซึมเศร้าไปหลายวัน นึกภาพความทรงจำต่างๆภายในครอบครัวที่เคยมีอยู่ร่วมกัน เขาเกือบจะฆ่าตัวตายไปหลายครั้ง ดีที่เขายังมีป้าข้างบ้านช่วยเตือนสติเขา สภาพจิตใจตอนนี้ของเขามันย่ำแย่ เขาสูญเสียทุกสิ่ง และมันมาหาเขาเร็วเกินกว่าที่เขาจะตั้งตัว เขายังไม่ทันได้เตรียมใจกับเรื่องนี้ มันเกินคำอธิบาย เขาไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับเขา เขากินข้าวพร้อมกับน้ำตาทุกวัน ร่างกายเริ่มซูบผอม เขาคลุกอยู่แต่ในห้องนอน ไม่ออกไปไหนเป็นเวลาเกือบเดือน กล้องตัวโปรดของเขา ฝุ่นเริ่มจับ เพราะเขาแทบจะไม่แตะต้องมันเลย