​เที่ยวเขาใหญ่ : ดูนก ชมป่า (1)


การเดินเรียบถนนทางไกลไม่สูญเปล่า ไม่เพียงแต่ได้ชมต้นไม้ดอกไม้ เห็ดต่างๆ แล้ว ยังโชคดีที่เจอนกขุนแผนหัวแดง

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2559

เมื่อคืนดิฉันตื่นขึ้นมาหลายครั้งเพราะที่นอนแข็งนอนไม่ค่อยสบาย จนตีสี่กว่าจึงลุกขึ้นมาเปิดไฟในห้องโถงของบ้านพัก เตรียมชงกาแฟดื่ม หมอฝนและหมอลักษณ์ที่นอนอยู่อีกห้องหนึ่งแง้มประตูออกมาดูแล้วกลับไปนอนต่อ (ตอนเช้ามาเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงเดิน นึกว่าหมีบุกเสียอีก ฮา)

ดิฉันอาบน้ำตั้งแต่ก่อนตีห้า แต่งตัวเตรียมพร้อมที่จะไปดูนก พี่สาว หมอฝน หมอลักษณ์ ตื่นแต่เช้าเช่นกัน เราออกจากบ้านพักตั้งแต่เวลาประมาณ 05.45 น. กว่า พอไปถึงประตู ทหารแจ้งว่าประตูจะเปิดตอน 06.00 น. จึงต้องวนรถกลับไปที่บ้านพักเพื่อรอเวลา



อีกมุมของบ้านพักและวิว (ภาพถ่ายฝีมือลูกชายคนเล็ก)


ได้เวลาที่ประตูเปิดเราสี่คนเดินทางลงจากเขาเขียว ผ่านทางลงผาเดียวดาย เห็นมีรถจอดอยู่หลายคัน มีคนมาดูวิวพระอาทิตย์ขึ้น เรามองหานกระหว่างทางและแวะจอดรถในบริเวณที่มีพื้นที่สำหรับจอดรถได้ เช้านี้เราแวะประมาณ 3 จุด ได้เห็นนกใหม่ๆ หลายตัว เช่น จาบคาหัวสีส้ม (Chestnut-headed Bee-eater) ปรอดเหลืองหัวจุก (Black-crested Bulbul) จับแมลงสีฟ้า (Verditer Flycatcher) จับแมลงคอแดง (Red-throated Flycatcher) โพระดกหูเขียว (Green-eared Barbet) เป็นต้น อากาศดีมาก ไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อออกเลย



หมอฝนกำลังส่องนก



จาบคาหัวสีส้ม



ปรอดเหลืองหัวจุก



จับแมลงคอแดง



จับแมลงสีฟ้า



โพระดกหูเขียว


เรากลับมาทานอาหารเช้าเมื่อเกือบได้เวลาอาหารกลางวัน คุณหมอเบิร์ด พญ.ศิรดา ภูริวัฒนพงศ์ ผอ.รพ.มวกเหล็ก ได้ขึ้นเขาใหญ่มาดูนกด้วย ตอนเรากลับขึ้นเขาเขียวก็เจอหมอเบิร์ดซึ่งเอารถไปจอดไว้บริเวณที่พักของเราแล้วเดินเท้าตามถนนลงจากเขาเขียว และมีกลุ่มของคุณหมอโรงพยาบาลปากช่อง 6 คน มารออยู่บริเวณที่จอดรถทางเดินไปน้ำตกผากล้วยไม้ หลังทานอาหารเสร็จเราจึงเดินทางไปรวมกับกลุ่มที่นั่น ลูกชายและพี่สาวของดิฉันแยกไปเที่ยวต่างหาก

ก่อนจะเดินเท้าเข้าป่าก็เจอนกอีเสือหลังเทา (Grey-backed Shrike) หมอฝนบอกว่าเส้นทางที่เราเดินเข้าไปนี้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 3 กม. อาจจะมีนกไม่มากนัก ดิฉันเคยเดินไปชมน้ำตกกรุงชิง (อ่านที่นี่) ระยะทาง 4 กม. ไป-กลับ 8 กม. มาแล้วจึงคิดว่าเดินไหวแน่ อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนตอนที่ไปน้ำตกกรุงชิงที่ต้อง “อาบเหงื่อต่างน้ำ” เส้นทางที่เดินมีสภาพคล้ายๆ กัน แต่มีต้นไม้ใหญ่ล้มขวางทางเป็นระยะๆ คนตัวเล็กอย่างดิฉันต้องปีนข้ามไป (ทางเข้าน้ำตกกรุงชิงเขาจะเลื่อนต้นไม้ที่ล้มขวางทางให้เป็นช่องตามทางเดิน)



อีเสือหลังเทา



เส้นทางเดิน


ระหว่างทางที่เดินได้เห็นนกด้วย ดิฉันถ่ายรูปปรอดโอ่งเมืองเหนือ (Puff-throated Bulbul) ได้ตัวเดียว มองเห็นนกเขียวคราม (Asian Fairy Bluebird) แต่ถ่ายรูปไม่ได้ รวมทั้งกระเบื้องคอขาว (White-throated Rock Thrush) ด้วย เสียดายที่ไม่ได้พกสมุดจดบันทึกไปด้วย เดินไปได้ระยะหนึ่งก็เห็นลำธารอยู่ทางด้านขวามือ มีน้ำใสไหลตลอด ลำน้ำนี้จะไหลไปลงลำตะคอง



ปรอดโอ่งเมืองเหนือ


ทีมโรงพยาบาลปากช่องแวะพักทานอาหารกลางวันที่พกมา เราก็ได้นั่งพักไปด้วย เราได้พบร่องรอยของช้าง มีรอยเท้าและการหักโค่นของลำไผ่ ขี้ช้าง มีจุดเตือนห้ามลงเล่นน้ำเพราะมีจระเข้ในลำธาร หมอเบิร์ดชี้ให้ดูว่าเคยเจอจระเข้ขึ้นมานอนบนท่อนไม้ที่พาดลำธารอยู่ (วันนี้เราไม่เห็นจระเข้)

จุดที่สมาชิกกลุ่มแวะทานอาหารกลางวัน



น้ำตก



เคยมีคนเห็นจระเข้ขึ้นมานอนตรงท่อนไม้ที่พาดข้ามลำธาร


เราเดินออกมาตรงจุดจอดรถทางเข้าน้ำตกเหวสุวัต (ทีแรกดิฉันนึกว่าเดินกลับออกมาที่เดิมที่เราจอดรถไว้) เรานั่งพักดื่มน้ำพอหายเหนื่อย ทีมจากโรงพยาบาลปากช่องหนึ่งคนโบกรถคันอื่นไปเอารถปิ๊กอัพจากที่จอดรถเดิมมารับพรรคพวก และชวนเราด้วยบอกว่าทางไกลกันพอควร แต่ดิฉันบอกว่าอยากจะเดินเรียบถนนไปเอง (เพราะได้ยินว่าระยะทาง 1.6 กม.)

เราเดินมาพักหนึ่งรถปิ๊กอัพก็มาทันและรับหมอลักษณ์ไปด้วย เหลือดิฉัน หมอฝนและหมอเบิร์ดเดินกันสามคน เราฟังเสียงนกและมองหานกริมถนนไปเรื่อยๆ ทางบางช่วงต้องขึ้นสูงชัน บางช่วงก็เดินลง เดินกันไกลจนแปลกใจว่า 1.6 กม. ทำไมถึงไกลมาก (มารู้ทีหลังว่าระยะทางประมาณ 5 กม.) มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลูกสาวโทรศัพท์มาถึง ดิฉันบอกไปว่ากำลังเดินอยู่ริมถนน ลูกสาวบอกได้ว่าแม่กำลังเดินจากทางเข้าน้ำตกเหวสุวัตไปทางเข้าน้ำตกผากล้วยไม้ นึกว่าดูแผนที่ แต่จริงๆ แล้วกลุ่มของลูกสาววิ่งรถผ่านมาเห็นแม่เดินอยู่ริมถนนต่างหาก

การเดินเรียบถนนทางไกลไม่สูญเปล่า ไม่เพียงแต่ได้ชมต้นไม้ดอกไม้ เห็ดต่างๆ แล้ว ยังโชคดีที่เจอนกขุนแผนหัวแดง ดิฉันได้ยินเสียงนกร้องดังอยู่อีกฝั่งของถนน มองไปเห็นนกสีแดงๆ กระโดเกาะกิ่งไม้อยู่ริมทาง ตื่นเต้นตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้กล้องส่องทางไกลสองตาหรือกล้องถ่ายรูปดี ได้ยินเสียงรถมาไกลๆ เลยหยิบกล้องถ่ายรูปกดๆ ไป 4 ครั้ง ไม่ทันได้โฟกัสตัวนกเลย ปรากฏว่าเธอเป็นนกขุนแผนหัวแดง (Red-headed Trogon) ตัวเมีย วันนี้หมอเบิร์ดก็ได้เจอนกพญาไฟใหญ่ นกขุนแผนอกสีส้ม (Orange-breasted Trogon) ด้วย


ขุนแผนหัวแดง ตัวเมีย


ในที่สุดเราก็เดินมาถึงที่จอดรถทางเข้าน้ำตกผากล้วยไม้ หมอลักษณ์ที่ติดรถปิ๊กอัพของทีมโรงพยาบาลปากช่องมาถึงก่อนเป็นเวลานาน ได้ตีสนิทนั่งคุยกับกลุ่มที่มากางเต้นท์อยู่ เรากลับขึ้นที่พักบนเขาเขียวช้ากว่าแผนที่ตั้งใจไว้เดิม ระหว่างทางเจอไก่ป่า (Red Junglefowl) ตัวเมียเดินอยู่ริมถนน หมอฝนทักว่าไก่บ้านหรือเปล่า เหมือนว่าเธอจะได้ยิน เลยโผบินข้ามถนนผ่านหน้ารถไปเลย ไม่ทันได้ถ่ายภาพเอาไว้

เย็นนี้หมอเบิร์ดต้องลงจากเขาใหญ่เข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากมีภารกิจของครอบครัวในวันรุ่งขึ้น หมอลักษณ์ก็ต้องกลับบ้านเพราะรับปากคุณแม่ไว้ สมาชิกที่มาเพิ่มเติมวันนี้คือลูกสาว ลูกเขย แม่ของลูกเขย รวมทั้งหลานชายตัวน้อยสองคน คุณแอน อังศุมาลิน มั่งคั่ง น้องปอนด์ สราวุฒิ สมพงษ์ จาก รพ.ปากพลี และเพื่อนน้องปอนด์อีกสองคน ต่างคนต่างแวะเที่ยวแล้วมาทานอาหารเย็นพร้อมกัน

อาหารเย็นจากครัวสโมสรของทหารมีปริมาณมากเกินกว่าที่เราจะทานกันได้หมด ทั้งๆ ที่เราสั่งอาหารสำหรับ 10 คน น้อยกว่าจำนวนคนที่มีอยู่จริงเสียอีก อนาคตถ้าจะสั่งอาหารที่นี่ ควรสั่งสำหรับจำนวนคนแค่ครึ่งเดียวน่าจะดีกว่า

คืนนี้อากาศเย็นสบายเหมือนเดิม เรามองเห็นแสงไฟอยู่ไกลๆ ทหารบอกว่าทิศนั้นคือจังหวัดนครนายก ลูกเขยตั้งกล้องถ่ายภาพดาวบนท้องฟ้าและแสงไฟของจังหวัดนครนายกได้สวยงาม ส่วนหมอฝนและดิฉันช่วยกัน identify นกที่เราเจอในวันนี้ โดยดูจากหนังสือคู่มือสองเล่มที่หมอเบิร์ดทิ้งเอาไว้ให้ใช้


วัลลา ตันตโยทัย

บันทึกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559

หมายเลขบันทึก: 619402เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2016 12:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2016 12:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อากาศที่นั่นเย็นกำลังสบายค่ะคุณทิมดาบ ไม่ถึงกับหนาวมาก

สวัสดีครับ

ดีจัง ยังได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ถ่ายนกสวยๆมาได้เยอะเลยนะครับ
ระบบนิเวศน์ที่นี่ยังดีอยู่มากเลย

ขอบคุณครับ

ขอบคุณลุงชาติ และคุณ Nutt Suriyo ที่แวะมาเยี่ยมและให้ข้อมูลค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท