มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ย่อมมีการพัฒนาการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเองเพื่อความอยู่รอดในสังคมซึ้งการศึกษานั้นอาจจะศึกษาด้วยตัวเองหรืออาจจะศึกษาจากผู้อื่นที่มีความรู้ ซึ้งนั้นก็คือครู
ครู หมายถึง ผู้สั่งสอนศิษย์ หรือ ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ ซึ่งมีผู้กล่าวว่ามาจากคำว่า ครุ (คะ-รุ) ที่แปลว่า "หนัก" อันหมายถึง ความรับผิดชอบให้การอบรมสั่งสอนของครูนั้น นับเป็นภาระหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย กว่าคน ๆ หนึ่งจะเติบโตเป็นผู้มีวิชาความรู้ และเป็นคนดีของสังคม ผู้เป็น "ครู" จะต้องทุ่มเทแรงกายและแรงใจไม่น้อยไปกว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลย ซึ่งในชีวิตของคน ๆ หนึ่ง นอกเหนือไปจากพ่อแม่ซึ่งเปรียบเสมือน "ครูคนแรก" ของเราแล้ว การที่เด็ก ๆ จะดำรงชีพต่อไปได้ในสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี "ครู" ที่จะประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ เพื่อปูพื้นฐานไปสู่หนทางทำมาหากินในภายภาคหน้าด้วย ดังนั้น "ครู" จึงเป็นบุคคลสำคัญที่เราทุกคนควรจะได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน
ครูเปรียบเสมือนแสงประทีปที่ส่องนำทางให้นักเรียนโดยครูคอยผู้อบรม สั่งสอน มอบความรู้ ประสบการณ์การเรียนรู้และทักษะต่างๆให้แก่ศิษย์ เมื่อนักเรียนได้ฝึกฝนและพัฒนาทักษะต่างๆแล้วก็สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดในการดำเนินชีวิตได้ เปรียบดังนักเรียนนำเทียนของตนมาต่อไฟจากครูและพาตนเองเดินไปสู่อนาคต
การเป็นครูต้องมีความอดทน และต้องใช้เวลานาน ต้องดูแลเอาใจใส่ลูกศิษย์ ไม่เพียงแต่จะต้องให้ลูกศิษย์มีความรู้ทางวิชาการเพื่อจะเรียนเท่านั้น แต่ครูยังจะต้องเป็นผู้ช่วยนักเรียนให้พัฒนาทางด้านสติ ปัญญา บุคลิกภาพ อารมณ์ และสังคมด้วย ดังนั้นครูต้องเป็นผู้ให้ความอบอุ่นแก่นักเรียน เพื่อนักเรียนจะได้มีความเชื่อและไว้ใจครู พร้อมที่จะพบครูเวลาที่มีปัญหา
นอกจากนี้ครูจะต้องเป็นต้นฉบับที่ดีแก่นักเรียน
อิทธิพลของครูที่นักเรียนยึดเป็นต้นฉบับจะติดตามไปตลอดชีวิต
ไม่มีความเห็น