การประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปผลการทำงานโครงการพัฒนาเยาวชนระดับจังหวัดเพื่อสร้างพลเมืองเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ในการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 17 ตุลาคม 2559 ณ ศูนย์ฝึกอบรมไทยพาณิชย์ หาดตะวันรอน จ.ชลบุรี นับเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่โครงการในการบริหารจัดการโครงการ และประเมินผลโครงการ โดย ใช้เครื่องมือการประเมินแบบเสริมพลัง (Empowerment Evaluation : EE)
สำหรับภาคีที่เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย 1.ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม (องค์กรสาธารณประโยชน์) ผู้ดำเนินโครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตก นำโดยนายชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ 2.มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ ผู้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายเยาวชนจังหวัดน่าน นำโดย นายอภิสิทธิ์ ลัมยศ 3.ศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ดำเนินโครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ นำโดยนายรุ่งวิชิต คำงาม และ 4.สงขลาฟอรั่ม ผู้ดำเนินโครงการพลังพลเมืองเยาวชน นำโดยนางพรรณิภาโสตถิพันธุ์
<<Check in>>
เมื่อทุกคนต่างได้ Check in ความรู้สึกของการเข้าร่วมเวทีแล้ว นายกิตติรัตน์ ปลื้มจิตร เจ้าหน้าที่โครงการสนับสนุนองค์กรเพื่อการพัฒนาเยาวชน ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในเวทีครั้งนี้โดยมีใจความว่า "....เวทีครั้งนี้ทางมูลนิธิฯ ได้จัดขึ้นเพื่อ 1. เป็นการทบทวนเป้าหมายที่เราได้ตั้งไว้ในสองปีที่ผ่านมาได้มีการขับเคลื่อนกันไปแล้ว เกิดผลอย่างไรบ้าง ตัวชี้วัดที่ออกมามีอะไรบ้าง จุดอ่อน จุดแข็ง อยู่ตรงไหน 2.เป็นการทบทวนกิจกรรมที่ออกแบบนั้นได้ทำอะไรบ้าง แต่ละกิจกรรมที่ทำนั้นสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งจะนำไปสู่ข้อที่ 3.การปรับการทำงาน กระบวนการ ในการออกแบบกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาการทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยผ่านการเรียนรู้ของแต่ละทีม และเทกองความคิดร่วมกัน ซึ่งในกระบวนการทั้งสองวันนี้ จะนำผลลัพธ์ที่ได้ไปทบทวนแล้วนำไปสู่แผนปีที่ 3 ต่อไป "
<<โจทย์สำหรับการขับเคลื่อนงานตลอด 2 วัน>>
จากนั้นแต่ละพื้นที่ต่างได้ระดมความคิดและทบทวนการออกแบบกิจกรรมของโครงการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จากโจทย์ใหญ่ที่ได้รับ ดังนี้
1.เป้าหมายที่เราต้องการบรรลุของโครงการคืออะไร มาลองทบทวนวิสัยทัศน์ (vision) ร่วมกัน
2. นิยามเป้าหมายให้ชัดเจนที่จับต้องได้ ทำให้เห็นร่วมกัน สิ่งที่เราอยากไปให้ถึง คืออะไร
3.ทบทวนดูว่าเป้าหมายอะไรที่เราทำสำเร็จ และไม่สำเร็จ
4.อะไร คือเรื่องหลักที่เราจะผลักดันให้ท้าทายมากยิ่งขึ้น เพื่อการพัฒนางานในปีต่อไป
เมื่อได้รับโจทย์แล้ว แต่ละพื้นที่จึงแยกย้ายกันไปขบคิด "ทบทวนงานที่ผ่านมา และนำมาตั้งหลักกับงานที่ทำอยู่ เพื่อหาคำตอบในพัฒนางานสู่อนาคตให้เป็นรูปธรรม"
กระบวนการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
โดยให้ผู้ร่วมเวทีแต่ละคนเขียน เป้าหมายที่อยากเห็น และทบทวน vision ตามความเข้าใจขององค์กร และให้ภาคีทบทวน KRA KPI ในแต่ละด้านของตนเอง
<ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงครามฯ>>
<ศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ>>
<<สงขลาฟอรั่ม>>
<<มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ>>
เมื่อภาคีทั้ง 4 พื้นที่ได้ทบทวนงานในปีที่ผ่านมาแล้ว จึงได้สรุปนิยามวิสัยทัศน์ในการทำงานของตนเอง ดังนี้
เริ่มจากศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม(องค์กรสาธารณประโยชน์) ผู้ดำเนินโครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตก ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนงานในปีที่ 3 ว่าโครงการฯเป็นกระบวนการเรียนรู้เรื่องราวท้องถิ่น เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นผู้นำที่มีจิตสาธารณะ พร้อมทั้งรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และเติบโตเป็น "พลเมือง" ที่มีคุณภาพ
ทางด้านมูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ ผู้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายเยาวชนจังหวัดน่าน มองว่าวิสัยทัศน์ในการกำหนดทิศทางเพื่อขับเคลื่อนงานในปีหน้านั้น ควรให้พลังเยาวชนน่านตระหนักรู้สถานการณ์ปัญหา ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมเป็นกลไกในการทำงานพัฒนาเมืองน่าน และเกิดเป็นพื้นที่ต้นแบบ ที่สามารถถ่ายทอดชุดความรู้ให้กับพื้นที่อื่นได้
ในฝั่งของทางศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ดำเนินโครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ได้นิยามวิสัยเพื่อขับเคลื่อนงานต่อว่า พลังเครือข่ายเยาวชนเป็นพลังแห่งการตื่นรู้ ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นบ้านเกิด บนฐานความรู้ภูมิปัญญา จากการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย จ.ศรีสะเกษ
ส่วนของสงขลาฟอรั่ม ผู้ดำเนินโครงการพลังพลเมืองเยาวชน ได้แจงว่า โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา เป็นกระบวนการสร้างความร่วมมือในการสร้าง "พลเมืองเยาวชน" ให้รู้สิทธิ หน้าที่ สิทธิชุมชน มีทักษะชีวิตในการอยู่ร่วมกัน โดยใช้พื้นที่เรียนรู้จากสถานการณ์จริงในโลกยุคใหม่
เพื่อความต่อเนื่องในการค้นหาคำตอบการทำงานในปีหน้า ทั้งหมดไม่รีรอจึงดำเนินการต่อในSectionของ EE 2 ประเมินความสำเร็จตาม KRA/KPI (vision เดิมที่สำเร็จมีอะไรบ้าง)
มีวัตถุประสงค์เพื่อ
กระบวนการนี้ได้ให้ผู้เข้าร่วม แต่ละองค์กรร่วม ประเมินผลลัพธ์ตาม KRA แต่ละตัว โดยแบ่งกลุ่มย่อยแต่ละจังหวัด โดยมีขั้นตอน (1) ให้โจทย์ทบทวน ผลลัพธ์ทีละ KRA โดยให้ ผู้เข้าร่วมคิดว่า ในมุมมอง ของตัวเอง จากการดำเนินงาน 2 ปี และ KRA แต่ละตัวได้ผลมากน้อย เพียงใด (1-10 คะแนน) เพราะอะไร และมุ่งเน้นการพูดคุยและวิเคราะห์ผลลัพธ์จาก มุมมองความเห็นที่แตกต่างกัน (2) สรุปค่าเฉลี่ย KRA แต่ละด้าน และจบด้วยการ (3) ทำผังใยแมงมุม
กระบวนการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ต่างได้นำผลลัพธ์จากวิเคราะห์มานำเสนอข้ามกลุ่ม รวมถึงการเชื่อมโยงประเด็นร่วมกับกลุ่ม(ที่ทำงานและผู้เกี่ยวข้อง)ในจังหวัด เพื่อการขับเคลื่อนงานได้อย่างยั่งยืน
เมื่อภาคีทั้ง 4 พื้นที่ (สงขลา , ภาคตะวันตก,ศรีสะเกษ , น่าน)ได้วิเคราะห์ ทบทวน Vision , KRA ,KPI สรุปและวิเคราะห์เพื่อก้าวไปสู่การพัฒนางาน ปีที่ 3 กันเรียบร้
สงขลาฟอรั่ม - "ในปีที่ 3 เราต้องการยกระดับการพัฒนาโคช ให้สู่การเป็นครูพลเมือง"
ศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ - "การเรียนรู้โซนพื้นที ทั้งระดับโซนและระดับจังหวัด ใช้ประเด็นร่วม มีความรู้เป็นรูปธรรม ดึงหน่วยงานในพื้นที่หนุนเสริมงานเยาวชน"
มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ - "เกิดกลไกการขับเคลื่อนเยาวชน สร้างเครือข่ายเด็กและเยาวชนใน จ.น่าน เพื่อสานต่อประเด็นเยาวชนสู่
ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม - "แนวคิด การทำงานของกลไก เพื่อให้เกิดการทำงานแบบมีส่
<<แลกเปลี่ยนผลประเมิน 4 จังหวัด>>
<<แลกเปลี่ยนผลประเมิน 4 จังหวัด>>
เมื่อการนำเสนองานทั้ง 4 พื้นที่ได้จบลง และให้เวทีครั้งนี้มีความเข้มข้นขึ้น จึงได้มีการเพิ่มเติมเสริมพลังกันต่อ ใน Section
ครุ่นคิดเพื่อเดินต่อ และแลกเปลี่ยนร่วมกัน - Section นี้ เป็นการมองหาโอกาสในการเชื่อมโยงงานโครงการกับสถานการณ์ หรือเครือข่ายในจังหวัด รวมทั้งการมองเห็นประเด็นที่จะยกระดับ การทำงานในปี 2560 โดย คุณปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า "โจทย์ท้าทาย (Challenge) ใน 4 พื้นที่ เพื่อพัฒนาโครงการในปีต่อไป ประเด็นแรก-เราต้องเชื่อมโยงงานที่ทำกับโจทย์ในพื้นที่ว่าจะเชื่อมโยงในมุมมองแบบไหน จะเป็นเชิงประเด็นที่มองเห็นการเคลื่อนงาน และเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งเมื่อทำแล้วผลที่ได้จะต้องทำให้จังหวัดของเรามีความแข็งแรงขึ้นด้วย...
ประเด็นที่สอง - ความยั่งยืนของโครงการ อยากให้เราทุกคนมองภาพเลยกว่าความเป็นโครงการ แต่เป็นสิ่งที่ต้องคงอยู่ในบ้านเมือง หรือจังหวัดของเรา คำถามที่ตามมาคือ ทำอย่างไร ให้สิ่งที่เราทำจะเชื่อมโยงให้กลุ่มต่างๆ เข้ามาสัมพันธ์กับเราได้ ให้เขามาร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ มารับรู้ เข้าใจและสนับสนุน มาร่วมเป็นทีมเดียวกันและนำความรู้ความสามารถมาทำตามศักยภาพของแต่ละคน ประเด็นสุดท้าย - การพัฒนาเยาวชนให้ครบลูป คือ สนับสนุนเยาวชนให้มีการเรียนรู้ตนเอง ชุมชน เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งมีความศักยภาพในการสื่อสารกับผู้อื่นได้ อย่างเข้าใจ "
จากนั้นต่อด้วย กระบวนการ...
กระบวนการนี้มีวัตถุประสงค์
<< วางแผนงานในปีที่ 3 >>
ก่อนเสร็จสิ้นการประชุม ภาคีทั้ง 4 จังหวัดได้ร่วมสะท้อนการเรียรู้ หรือ AAR (After Action Review) จากเวทีการประชุมประเมินแบบเสร
> จูนความเข้าใจทีม เกิดความเข้าใจร่วมในการทำงาน
> มั่นใจว่าตนจะสามารถไปได้ถึงความท้าทายที่วางไว้
> เป็นการเริ่มต้น และเตรียมพร้อมการทำงานที่ดี รวมทั้งเห็นแผนการทำงานชัดเจน
> ได้เติม-สร้างพลังใจ กับความท้าทาย ทำให้อยากทำต่อ
> ทบทวนจุดอ่อน จุดแข็งของทีม - ตนเอง มองจุดแข็งเพื่อน แก้จุดอ่อนตนเอง และพัฒนาตนเอง
> ทบทวนงานทำให้เห็นว่างานตนมีคุณค่า และตื่นเต้นกับการทำงาน
> เรียนรู้ มองออกนอกโครงการ มองไปข้างหน้า 10-20 ปี ในการพัฒนางาน และได้แนว
คิดใหม่ๆ ในการพัฒนางาน
> ได้ไอเดีย"ปิ๊งแว่บ!!" เยอะมาก ในสิ่งที่จะต้อง ไปทำต่อให้ได้ดีขึ้น
> ได้เรียนรู้ การยกระดับงาน - การเชื่อมงานภายนอก
> ฯลฯ
** (นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ร่วมสะท้อนการเรียนรู้)
เพราะ...ทุกคน คือ คนทำงาน "พัฒนาเยาวชน พัฒนากำลังคนของชาติ" ดังนั้น ...
การประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินผลเสริมพลัง โครงการพัฒนาองค์กรระดับจังหวัดเพื่อสร้างพลเมืองเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ ในครั้งนี้ เรียกได้ว่า...ได้ทั้งทบทวนการทำงาน มองเห็นความสำเร็จ ข้อควรปรับปรุง และยังช่วยจุดประกายความคิด และเติมพลังใจคนทำงานก่อนที่จะกลับไปพัฒนางานของตนเองกันต่อในปีถัดไป แล้วพบกันใหม่ในปีที่ 3 เร็วๆนี้...กับ "งานพัฒนาเยาวชน งานพัฒนากำลังคนของชาติ"
1. สงขลาฟอรั่ม ผู้ดำเนินโครงการพลังพลเมืองเยาวชน ได้แก่
พรรณิภา โสตถิพันธุ์
นูรอามีนี สาและ
อาอีเซาะ ดือเระ
กมลา รัตนอุบล
กรกช มณีสว่าง
มนต์กานต์ เพชรฤทธิ์
2 .มูลนิธิส่งเสริมการเรียนรู้ชุมชนวัดโป่งคำ ผู้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายเยาวชนจังหวัดน่าน ได้แก่
อภิสิทธิ์ ลัมยศ
วรการณ์ จันอ้น
สุทธิรา อุดใจ
ฐิติรัตน์ สุทธเขต
ดวงพร ยังรักษ์
3.
ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม
(องค์กรสาธารณประโยชน์)
ผู้ดำเนินโครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตก
ได้แก่
ชิษนุวัฒน์ มณีศรีขำ
พวงทอง เม้งเกร็ด
คำรณ นิ่มอนงค์
อรรถชัย ณ บางช้าง
สราวุฒิ ปิ่นแก้ว
สถาพร โพธิชัยศิริ
4.ศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ผู้ดำเนินโครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ได้แก่
รุ่งวิชิต คำงาม
ประมวล ดวงนิล
เบ็ญจมาภรณ์ แดนอินทร์
ปราณี ระงับภัย
เอกณรงค์ บุญทัน
เพ็ญศรี ชิตบุตร
เป็นบันทึกที่มีความรู้และน่าอ่านมากครับ