แม้ขณะนี้จะไม่มีตำแหน่งบริหารให้รับผิดชอบ ผมก็ยังถือว่ายังคงทำงานสาธารณะ หรือทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ผมรู้สึกว่าในช่วงเวลา ๗๔ ปีของชีวิต ผมได้รับการเลี้ยงดูที่ดีมากจากสังคม เวลานี้นอกจากความแก่ ที่บังคับไม่ได้ว่าจะตายเมื่อไรแล้ว ชีวิตของผมมั่นคงมาก เพราะสังคมได้ให้สิ่งต่างๆ แก่ผมมากเป็นพิเศษ ด้วยความตระหนักในบุญคุณ ผมจึงยังคงตั้งหน้าทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ
วันนี้ขอทำหน้าที่ชี้ให้สังคมเห็นมายาที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคม ที่วิญญูชนพึงรู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเหยื่อ ที่จะเกิดผลร้ายต่อประเทศอันเป็นส่วนรวม ส่วนที่ผมพอจะมีความรู้และสัมผัสได้ด้วยตนเอง คือเรื่องความพยายามทำลายองค์กรตระกูล ส ดังตัวอย่างข่าวที่รวบรวมไว้ ที่นี่ จะเห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป พิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นเป็นเท็จ หรือเป็นการตีความผิด ตีความเรื่องการทำงานสร้างเสริมสุขภาพในมุมมองที่แคบ หรือพยายามโยงความสัมพันธ์ในแง่ร้าย
ที่น่าเสียดายคือผู้มีอำนาจบริหารประเทศเชื่อตามผู้กล่าวหา และดำเนินการไปในทางที่ก่อความเสียหาย แก่บ้านเมือง ในลักษณะที่ทำให้องค์กรตระกูล ส ทำงานสร้างสรรค์ได้ยากขึ้น และมีมาตรการควบคุมการเงิน ของหน่วยงานต่างๆ ในรูปแบบราชการทั้งหมด รวมทั้งองค์กรที่ตั้งมาเพื่อให้มีความคล่องตัวในการทำงานสร้างสรรค์ให้แก่ประเทศ เช่นงานสนับสนุนการวิจัย
มีการให้ข่าวว่า คนไทยเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ในเรื่องการปราบคอร์รัปชั่น แต่ข่าวเรื่องการแสวงผลประโยชน์จากอำนาจของเครือญาติตาม บันทึกนี้ เตือนว่า Power tends to corrupt. Absolute power corrupts absolutely.
การต่อสู้เชิงคุณธรรมจะดำเนินต่อไป ว่าแนวทางทำงานเพื่อประเทศแนวทางใดที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แนวทางใดทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกห้อง
ผมเชื่อใน Thailand 4.0 แต่ไม่เชื่อว่าจะบรรลุได้โดยการบริหารประเทศตามแนวทางเน้นอำนาจสั่งการ รวมศูนย์ (bureaucracy) เพราะจะทำให้ความริเริ่มสร้างสรรค์ในที่ต่างๆ ทำงานได้ยาก
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ก.ย. ๕๙