วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่ง
เพราะเป็นวันที่ "เด็กหญิงขวัญชนก บรรเลงเสนาะ" "อ่านหนังสือจบเล่มเป็นครั้งแรก"
ที่ผ่านมา ฉันใช้เวลาพักเที่ยงและหลังเลิกเรียนฝึกฝนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้อ่านหนังสือ
จุดเริ่มต้นของการฝึกฝน อยู่ที่ฉันได้สังเกตว่าในขณะที่ฉันสอนทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เด็กคนนี้จะตั้งใจเรียนเลย
เขามักจะเอาของเล่นมาเล่น หรือไม่ก็ชวนเพื่อนโต๊ะข้างๆคุย ตลอดที่ฉันสอน
เขามักจะเอาคำถามรอบตัวมาถามฉันมาเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 คำถาม เช่น
"ครูรู้ไหม ใครเป็นคนประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกของโลก"
"ครูรู้ไหม มันกุ้งคือส่วนไหนของกุ้ง"
"ครูรู้ไหม ไขของปลาวาฬเอาไปทำอะไร"
ฉันสงสัยในพฤติกรรมของเด็กคนนี้มาก จึงได้ลองทดสอบการอ่านของเด็กทั้งชั้น
ผลปรากฏว่า เด็กผู้หญิงคนนี้อ่านหนังสือไม่ออกเลย...
ท่าทางแก่นเฮี้ยวของเด็กคนนี้ และพฤติกรรมการไม่สนใจเรียนของเขา
ทำให้ฉันรู้ว่า...ที่แท้ เด็กคนนี้อ่านไม่ออกนั่นเอง
ห้องเรียนชั้น ป.4/1 มีนักเรียนทั้งหมด 29 คน แต่อ่านไม่ออกและอ่านไม่คล่อง 8-9 คน
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมโรงเรียนถึงปล่อยให้เด็กที่อ่านไม่ออกขึ้นชั้นเรียนมาได้ถึง ป.4
ทำไมถึงไม่มีใครคิดจะแก้ไขปัญหานี้เลย เพราะการที่เด็กอ่านไม่ออกก็ส่งผลกระทบกับทุกวิชา
ฉันสงสารเด็กเหล่านี้จริงๆ ฉันจึงบอกให้พวกเขามาอ่านหนังสือกับฉันทุกคาบพักเที่ยงและหลังเลิกเรียน
แต่มีเพียงเด็กหญิงขวัญชนกเท่านั้นที่ตั้งใจมาฝึกฝนอ่านกับฉันทุกวัน
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่า เด็กคนนี้จะจริงจังกับการฝึกอ่านมากขนาดนี้
ฉันค่อยๆฝึกให้เขารู้จักกับพยัญชนะก่อน แล้วจึงให้เขาได้รู้จักกับสระ
ฝึกอ่านสระ รูปสระ จนเขาเริ่มได้แล้ว ก็เริ่มให้เขาฝึกประสมพยัญชนะกับสระกลายเป็นคำ
การสอนอ่านให้เขา ทำให้พบเจอปัญหาต่างๆมากมาย
บางวันเขาก็ฝึกอ่านไม่ได้ เขาก็เกิดความเครียด บางวันที่เขาอ่านได้ เขาก็ดีใจ
การอ่านตอนแรกๆดูตะกุกตะกัก แต่หลังจากที่เขาได้เริ่มสะกดคำเป็นแล้ว
เขาก็เริ่มอ่านคำได้ แม้จะใช้เวลาในการประสมคำพอสมควร แต่แลกกับการอ่านคำออก ฉันก็คิดว่ามันคุ้มมากๆ ^^
ฉันดีใจที่เขาเริ่มอ่านคำได้ ฝึกวันละนิดวันละหน่อย จนสุดท้ายวันนี้เขาก็สามารถอ่านหนังสือได้เล่มหนึ่ง
ฉันจึงถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วย ^^
หนังสือเล่มแรกที่เขาอ่านได้ คือ เรื่อง "กุ๊กไก่ปวดท้อง"
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือของเด็กอนุบาล เนื้อหาในหนังสือเป็นประโยคและคำที่อ่านสะกดง่ายๆ
กว่าจะอ่านได้จนจบเล่มก็ใช้เวลานานพอสมควร
แต่ฉันก็รู้สึกภาคภูมิใจทันทีที่ขวัญชนกอ่านจบ เพราะมันแปลว่าสิ่งที่ฉันทำมาตลอดมันเกิดผลสัมฤทธิ์ภายในวันนี้แล้ว ^^
ความภาคภูมิใจของการเป็นครูที่สามารถสอนให้เด็กอ่านออกเป็นอย่างนี้นี่เอง ^^
ฉันไม่ลืมที่จะถามเขาว่า "ขวัญชนกดีใจไหมที่อ่านหนังสือได้แล้ว" เขารีบตอบฉันด้วยความภาคภูมิใจเช่นกันว่า "ดีใจมากคะ"
ภาพเด็กหญิงขวัญชนกกับหนังสือเล่มแรกที่อ่านได้
ฉันนึกถึงเพลง "รางวัลของครู" ขึ้นมาเลย
เพลงรางวัลของครู (ขอขอบคุณวีดิทัศน์จาก https://www.youtube.com)
วันนี้ฉันได้สัมผัสแล้วกับความรู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพครู
ฉันดีใจที่เขาสามารถอ่านออกได้ แม้จะเป็นคำอ่านง่ายๆ แต่ฉันเชื่อว่าเขาจะสามารถฝึกอ่านคำยากๆต่อไปได้เมื่อฉันไปแล้ว
เวลาเทอม 1 ใกล้จะหมดลงไปทุกที ไม่รู้ว่าฉันจะสอนเขาอ่านได้ถึงไหน
แต่ฉันจะพยายามให้เขาอ่านให้ได้ดีที่สุด...
แค่เขาอ่านออก ฉันก็บรรลุความตั้งใจที่ตั้งไว้แล้ว
และคงจะดีใจมากกว่านี้ ถ้าเขาสามารถนำการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอนต่อไป ^^
"ความภูมิใจไม่ได้อยู่ในพานไหว้ครู แต่อยู่ในวันที่รู้ว่าศิษย์นั้นไปได้ดี"
วันนี้เขาอ่านออกแล้ว วันข้างหน้าฉันหวังว่าเขาจะสามารถประสบความสำเร็จในการเรียนต่อไปได้
สู้ๆนะ ลูกศิษย์ตัวน้อยของครู ^^
ไม่มีความเห็น