วันที่ 85 ความภาคภูมิใจ (20 กันยายน 2559)


ความภาคภูมิใจไม่ได้อยู่ในพานไหว้ครู แต่อยู่ในวันที่รู้ว่าศิษย์นั้นไปได้ดี

วันนี้เป็นวันที่ฉันรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิตอีกวันหนึ่ง

เพราะเป็นวันที่ "เด็กหญิงขวัญชนก บรรเลงเสนาะ" "อ่านหนังสือจบเล่มเป็นครั้งแรก"

ที่ผ่านมา ฉันใช้เวลาพักเที่ยงและหลังเลิกเรียนฝึกฝนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้อ่านหนังสือ

จุดเริ่มต้นของการฝึกฝน อยู่ที่ฉันได้สังเกตว่าในขณะที่ฉันสอนทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เด็กคนนี้จะตั้งใจเรียนเลย

เขามักจะเอาของเล่นมาเล่น หรือไม่ก็ชวนเพื่อนโต๊ะข้างๆคุย ตลอดที่ฉันสอน

เขามักจะเอาคำถามรอบตัวมาถามฉันมาเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 คำถาม เช่น

"ครูรู้ไหม ใครเป็นคนประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกของโลก"

"ครูรู้ไหม มันกุ้งคือส่วนไหนของกุ้ง"

"ครูรู้ไหม ไขของปลาวาฬเอาไปทำอะไร"

ฉันสงสัยในพฤติกรรมของเด็กคนนี้มาก จึงได้ลองทดสอบการอ่านของเด็กทั้งชั้น

ผลปรากฏว่า เด็กผู้หญิงคนนี้อ่านหนังสือไม่ออกเลย...

ท่าทางแก่นเฮี้ยวของเด็กคนนี้ และพฤติกรรมการไม่สนใจเรียนของเขา

ทำให้ฉันรู้ว่า...ที่แท้ เด็กคนนี้อ่านไม่ออกนั่นเอง


ห้องเรียนชั้น ป.4/1 มีนักเรียนทั้งหมด 29 คน แต่อ่านไม่ออกและอ่านไม่คล่อง 8-9 คน

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมโรงเรียนถึงปล่อยให้เด็กที่อ่านไม่ออกขึ้นชั้นเรียนมาได้ถึง ป.4

ทำไมถึงไม่มีใครคิดจะแก้ไขปัญหานี้เลย เพราะการที่เด็กอ่านไม่ออกก็ส่งผลกระทบกับทุกวิชา

ฉันสงสารเด็กเหล่านี้จริงๆ ฉันจึงบอกให้พวกเขามาอ่านหนังสือกับฉันทุกคาบพักเที่ยงและหลังเลิกเรียน

แต่มีเพียงเด็กหญิงขวัญชนกเท่านั้นที่ตั้งใจมาฝึกฝนอ่านกับฉันทุกวัน

ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่า เด็กคนนี้จะจริงจังกับการฝึกอ่านมากขนาดนี้

ฉันค่อยๆฝึกให้เขารู้จักกับพยัญชนะก่อน แล้วจึงให้เขาได้รู้จักกับสระ

ฝึกอ่านสระ รูปสระ จนเขาเริ่มได้แล้ว ก็เริ่มให้เขาฝึกประสมพยัญชนะกับสระกลายเป็นคำ


การสอนอ่านให้เขา ทำให้พบเจอปัญหาต่างๆมากมาย

บางวันเขาก็ฝึกอ่านไม่ได้ เขาก็เกิดความเครียด บางวันที่เขาอ่านได้ เขาก็ดีใจ

การอ่านตอนแรกๆดูตะกุกตะกัก แต่หลังจากที่เขาได้เริ่มสะกดคำเป็นแล้ว

เขาก็เริ่มอ่านคำได้ แม้จะใช้เวลาในการประสมคำพอสมควร แต่แลกกับการอ่านคำออก ฉันก็คิดว่ามันคุ้มมากๆ ^^

ฉันดีใจที่เขาเริ่มอ่านคำได้ ฝึกวันละนิดวันละหน่อย จนสุดท้ายวันนี้เขาก็สามารถอ่านหนังสือได้เล่มหนึ่ง

ฉันจึงถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วย ^^

หนังสือเล่มแรกที่เขาอ่านได้ คือ เรื่อง "กุ๊กไก่ปวดท้อง"


หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือของเด็กอนุบาล เนื้อหาในหนังสือเป็นประโยคและคำที่อ่านสะกดง่ายๆ

กว่าจะอ่านได้จนจบเล่มก็ใช้เวลานานพอสมควร

แต่ฉันก็รู้สึกภาคภูมิใจทันทีที่ขวัญชนกอ่านจบ เพราะมันแปลว่าสิ่งที่ฉันทำมาตลอดมันเกิดผลสัมฤทธิ์ภายในวันนี้แล้ว ^^

ความภาคภูมิใจของการเป็นครูที่สามารถสอนให้เด็กอ่านออกเป็นอย่างนี้นี่เอง ^^

ฉันไม่ลืมที่จะถามเขาว่า "ขวัญชนกดีใจไหมที่อ่านหนังสือได้แล้ว" เขารีบตอบฉันด้วยความภาคภูมิใจเช่นกันว่า "ดีใจมากคะ"

ภาพเด็กหญิงขวัญชนกกับหนังสือเล่มแรกที่อ่านได้


ฉันนึกถึงเพลง "รางวัลของครู" ขึ้นมาเลย


เพลงรางวัลของครู (ขอขอบคุณวีดิทัศน์จาก https://www.youtube.com)


วันนี้ฉันได้สัมผัสแล้วกับความรู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพครู

ฉันดีใจที่เขาสามารถอ่านออกได้ แม้จะเป็นคำอ่านง่ายๆ แต่ฉันเชื่อว่าเขาจะสามารถฝึกอ่านคำยากๆต่อไปได้เมื่อฉันไปแล้ว

เวลาเทอม 1 ใกล้จะหมดลงไปทุกที ไม่รู้ว่าฉันจะสอนเขาอ่านได้ถึงไหน

แต่ฉันจะพยายามให้เขาอ่านให้ได้ดีที่สุด...

แค่เขาอ่านออก ฉันก็บรรลุความตั้งใจที่ตั้งไว้แล้ว

และคงจะดีใจมากกว่านี้ ถ้าเขาสามารถนำการอ่านมาใช้ในการเรียนการสอนต่อไป ^^


"ความภูมิใจไม่ได้อยู่ในพานไหว้ครู แต่อยู่ในวันที่รู้ว่าศิษย์นั้นไปได้ดี"


วันนี้เขาอ่านออกแล้ว วันข้างหน้าฉันหวังว่าเขาจะสามารถประสบความสำเร็จในการเรียนต่อไปได้

สู้ๆนะ ลูกศิษย์ตัวน้อยของครู ^^

หมายเลขบันทึก: 616065เขียนเมื่อ 26 กันยายน 2016 11:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กันยายน 2016 11:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท