วันที่ 22 คุณครูพลศึกษาสมัครเล่น (15 มิถุนายน 2559)


วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันมีสอนวิชาภาษาไทยชั้น ป.4/1 และ ป.4/2 ในคาบเช้า

คาบบ่ายนี้ฉันว่างจากการสอนก็จะทำบันทึกหลังการสอนต่อ

แต่ว่าฉันเหลือบไปเห็นครูพลศึกษาดูวุ่นวายกับการอบรมนักกีฬาฟุตซอลที่กำลังจะนำไปแข่งขัน

นักกีฬาทั้งหมดเป็นผู้ชาย และมีทั้งหมด 2 รุ่น 12 ปีชาย และ 14 ปีชาย

ฉันจึงอาสาไปช่วยครูพลศึกษาควบคุมดูแลนักกีฬา

วันนี้ฉันจึงได้รับหน้าที่ "ครูพลศึกษาสมัครเล่น" น่าสนุกจัง ^^


หน้าที่ของฉันเริ่มตั้งแต่พานักเรียนขึ้นรถแดงไปสนามกีฬาเทศบาลฯ

ไม่น่าเชื่อว่าเด็กผู้ชายโรงเรียนนี้จะชอบพูดกันมากๆเลย

เพราะว่าตลอดทางที่นั่งรถไป พวกเขาหยอกเล่นกันและคุยกันเสียงดังไปตลอดทางเลย ><


หน้าตานักกีฬาแต่ละคน (ให้ทายใครซนที่สุด ^^)


เมื่อมาถึงสนามกีฬา เด็กๆก็รีบลงไปหาของกินเลย

(ได้ข่าวว่าเพิ่งกินข้าวกลางวันมา ><)

นอกจากเด็กผู้ชายจะพูดมากแล้ว พวกเขายังกินจุด้วย ><


จากนั้นฉันก็ได้เขียนข้อมูลนักกีฬาแต่ละรุ่นส่งให้กรรมการ

กว่าจะรู้ว่าใครใส่เสื้อเบอร์อะไร ก็วุ่นวายกันไปหมด

เพราะเด็กๆมัวแต่ดูแข่งฟุตซอลจนไม่สนใจเสียงของฉันเลย ><


ภาพขณะกำลังเขียนกรอกข้อมูลของนักกีฬาแต่ละคน



น้ำส้มปั่นและคุ้กกี้ น้ำใจจากครูแดง ครูพลศึกษา


ครูแดงเป็นครูพลศึกษาในระดับประถมศึกษา

แกเป็นคนพาเด็กๆ มาแข่งฟุตซอลเอง ด้วยงบตนเอง (เกือบทั้งหมด)

โดยเด็กๆจะได้เงินเบี้ยเลี้ยงแค่คนละ 20 บาทจากทางโรงเรีบย

แต่ครูแดงจะให้เด็กทุกคนเพิ่มอีกคนละ 20 บาท เพื่อเป็นค่าขนม

นอกจากนี้หากใครยิงเข้าประตูจะได้รับรางวัลพิเศษอีก ลูกละ 20 บาท ^^


รุ่นแรก รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ได้แข่งขันก่อน

ได้เจอกับทีมป่าแพ่ง


ภาพนักกีฬาโรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชยและโรงเรียนวัดป่าแพ่ง


ดูจากภาพนี้ เด็กโรงเรียนเราได้เปรียบชัดๆ

แต่พอแข่งจริงๆ มีคนเตะบอลเป็นสองคน

คือคนที่ยืนเท้าเอวและคนที่ใส่ชุดสีแดง (เล่นเก่งมากด้วย)

นอกนั้นเป็นตัวช่วยสร้างความปั่นป่วนให้คู่ต่อสู้ 555

บางทีลูกบอลอยู่ที่เท้าละ แต่เด็กจะหมุนรอบฟุตบอล ไล่ตามลูกบอลไปด้วย (เป็นการหลอกล่อทั้งตัวเองและคู่ต่อสู้ ><)


การแข่งขันดำเนินไปเรื่อยๆ ทีมป่าแพ่งได้ประตูก่อน

จากนั้นศรีดอนไชยก็ตีเสมอ

และสุดท้ายก็วัดกันที่ "การเตะลูกโทษ"

และทีมที่เป็นฝ่ายเอาชนะไปก็คือ โรงเรียนวัดป่าแพ่ง

เห็นเด็กๆ ทำหน้าผิดหวังก็สงสาร

แต่ขึ้นชื่อว่าเด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำ

เพราะแข่งเสร็จ พอได้เงินไปซื้อขนมก็ลืมทุกอย่างไปเลย ^^


ภาพเด็กชายกันตพัฒน์ เขตรทองคำ นักเรียนชั้น ป.4 (ลูกศิษย์ฉันเอง ^^) ดาวเตะจากศรีดอนไชย


หลังจากรุ่นเล็กแข่งเสร็จแล้ว ก็รอจนถึงเวลาที่ต้องแข่งรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีชาย

นักฟุตบอลรุ่นนี้ ฉันไม่ได้สอนเขา แต่ก็พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง

แต่เด็กๆ เหมือนสนิทกับฉันมาก่อน

เพราะชวนฉันคุยจ้อเลย และยังต่อรองไว้ก่อนด้วยว่า "ถ้าผมแข่งชนะ ครูต้องเอาคุ้กกี้ให้ผมนะ"


ภาพนักกีฬาฟุตซอล รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปีชาย จากโรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชย


ก่อนหน้าที่จะแข่งขัน ครูแดงขับรถไปส่งนักกีฬารุ่น 12 ปี กลับโรงเรียนก่อน

ดังนั้นจึงเป็นฉันที่ต้องควบคุมดูแลเด็กๆ ระหว่างฝึกซ้อม

ฉันบอกให้พวกเขาไปซ้อมอยู่ข้างสนาม และนั่งดูแลพวกเขาห่างๆ

ใกล้เวลาจะแข่งขัน ครูแดงก็ยังไม่มา

ฉันเริ่มรู้สึกกระวนกระวาย เพราะฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย สำหรับการส่งตัวนักกีฬาเข้าแข่งขัน

ฉันจะต้องวางแผนยังไง และใครจะเป็นผู้ลงเล่นบ้าง

ฉันตื่นเต้นไปหมด เพราะกรรมการประกาศให้ทีมศรีดอนไชยลงสนามได้แล้ว

เด็กๆ ไม่ตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น มีแต่พร้อมจะลงแข่งขัน

แต่ฉันผู้เป็น "ครูพลศึกษาสมัครเล่น" นี่สิ ไม่รู้ต้องทำไง

และวินาทีแห่งการตัดสินใจนั้น ฉันก็เห็นครูแดงขี่รถมอเตอร์ไซค์มาพอดี

ขอบคุณที่มาทันเวลาคะ ครูแดง ... โล่งอกไปที ><



ภาพนี้กำลังเชียร์เด็กที่แข่งในสนาม


ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ได้เจอกับทีมจากโรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน

เด็กๆ รุ่นนี้เล่นบอลได้ดีกันทุกคน

และไม่น่าเชื่อว่า "เป้ง" นักเรียนผิวสี ชั้น ป.6

คนที่ดื้อที่สุด ร้ายที่สุด ซนที่สุด

เขาจะเตะบอลเก่งมากขนาดนี้ ^^

เขาทำประตูให้ศรีดอนไชย 2 ลูก และทำให้ศรีดอนไชยเป็นฝ่ายเอาชนะไปอย่างสวยงาม

บางทีการที่เรามองเขาจากภายนอก ใช่ว่าจะตัดสินความเป็นตัวตนของเขาได้

เด็กทุกคนมีความสามารถ มีพรสวรรค์ ซ่อนอยู่ในตัวจริงๆ และคนเป็นครูก็ต้องมีหน้าที่หาความสามารถนั้นให้พบ

เราไม่ควรตัดสินว่าเขาโง่หรือฉลาดจากการเรียนเท่านั้น

แต่เราต้องหาความสามารถเขาให้พบ และส่งเสริมให้เขาประสบความสำเร็จในด้านที่เขาถนัดต่างหาก ^^


พอเล่นจบเกมเท่านั้นแหละ มาทวงคุ้กกี้ทันทีเลย

แต่ฉันก็เต็มใจให้คุ้กกี้แก่พวกเขานะ

เด็กๆแย่งกันกินจนหมดเกลี้ยงทั้งกระปุกเลยจ๊ะ ^^

ความปลื้มใจที่เด็กประสบความสำเร็จ มันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง ^^


หน้าที่สุดท้ายของฉันในวันนี้ คือ การนั่งรถคุมเด็กกลับโรงเรียน

พอผ่านหน้าโรงเรียนวัดเชียงยืนเท่านั้นแหละ

เด็กๆ ก็พากันโห่ร้องใส่โรงเรียนเชียงยืนทันที

นี่แหละหนา นิสัยของเด็กจริงๆ ^^


พอเด็กๆมาถึงโรงเรียนก็โล่งใจที่ทุกคนปลอดภัยดี

วันนี้เป็นอีกวันที่สนุกกับการฝึกสอนนะ

เพราะได้ลองทำหน้าที่อื่นที่ยังไม่เคยทำ นอกเหนือจากการสอน


"เป็นครูประถมฯ ต้องทำได้ทุกอย่างจริงๆ ^^"

หมายเลขบันทึก: 611493เขียนเมื่อ 30 กรกฎาคม 2016 10:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม 2016 10:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท