" แคบสุดในสยาม" ต้องอยู่ที่เมืองสามอ่าว ณ ด่านสิงขร แน่นอน
แต่ " ด่านสิงขร" เมื่อวันวาน กับ ณ วันนี้ ห่างกันราวฟ้ากับดิน
เพราะ วันนั้น ด่านสิงขรยังเป็นเพียง " ตลาดเล็ก ๆ " ที่มีการ
ค้าขายแลกเปลี่ยนกันระหว่าง ชาวไทย กับชาวเมียนมาร์
ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับด่านสิงขร ตลาดเล็ก ๆ ที่มีร้านรวงส่วนใหญ่
เป็นเพียง " เพิงชั่วคราว" หลังคามุงจาก มีเสาเป็นไม้ เป็น
วัสดุที่หาได้ในทิ้งถิ่น เป็นตลาดที่มีร้านค้าเข้ากับสภาพแวดล้อม
เป็นอย่างมาก เป็นเสมือนเสน่ห์ของด่านสิงขรแห่งนี้
แต่ " ด่านสิงขร" ณ วันนี้ กลายเป็น " ตลาดการค้าชายแดนไทย - เมียนมาร์"
อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่เหลือภาพร้านค้าเดิม ๆ ไว้ให้เห็นอีกแล้ว เพราะกลายเป็น
" อาคารถาวร" ที่ทันสมัย เหมือนตลาดการค้าทั่วไป ที่เคยเห็น ตัวอาคารมาตรฐาน
มีตั้งแต่ชั้นเดียวถึง อาคารพาณิชย์สองสามชั้น สินค้าก็จัดวางเป็นโซน ๆ ไป
ส่วนร้านค้าแบบแผงลอยของแม่ค้าพ่อค้าชาวพม่า เหลือให้เห็นไม่มากนัก
เพราะเขาจัดโซนตลาดพม่า ไว้ด้านบนสุดใกล้ ๆ กับซุ้มประตู
เป็นตลาดการค้าชายแดนที่กำลังเติบโต เหมาะสมกับการต้อนรับการเข้าสู่ AEC
หากคนที่ไม่เคยไปตลาดด่านสิงขรยุคก่อน รับรองได้ว่า จะนึกไม่ออกเลยว่า
หน้าตาของตลาดด่านสิงขรในยุคต้น ๆ นั้นเป็นอย่างไร
หากเอ่ยถึง ตลาดด่านสิงขร คนที่เคยไปเยือนมาแล้ว ก็ต้องนึกถึง " กล้วยไม้"
ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ป่า หรือไม่ป่า ก็จะมีจำหน่ายที่นี่มากมาย แต่ก่อน แม่ค้า
จะนำมาวางขายแบบแผงลอย มีทั้งกระถาง มีทั้งตัดมาทั้งที่เกาะกิ่งไม้
และ ขายเป็นกำ ๆ เหมือนผักบุ้ง ราคาเริ่มต้นที่ ๑๐ บาท
แต่วันนี้ กล้วยไม้เข้าไปวางขายในบูธ ในอาคารแล้ว
เมื่อ ตลาดด่านสิงขร กลายเป็น ตลาดการค้าชายแดนไทย - เมียนมาร์
รูปโฉมใหม่จึงห่างจากเดิมอย่างมาก พื้นที่ก็ขยายกว้างขึ้น มีระเบียบ
สะดวกแก่การเดินชม หรือเลือกซื้อสินค้า แม้ค้าสาว ๆ ชาวพม่าที่หน้า
มีแก้มเป็นวงด้วยทานาคา
เมื่อก่อนคุณมะเดื่อมาด่านสิงขร ก็จะใช้เวลาเดินชมร้านรวงต่าง ๆ
ได้ทั่วถึง ในเวลาไม่นาน แต่...วันนี้ เดินไม่ทั่วแล้ว และคิดว่าถ้า
จะเดินให้ทั่วคงต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวันน่ะแหละ
มาดูพืชผักพื้นบ้านที่แม่ค้าพ่อค้าชาวพม่านำมาจำหน่าย
ที่คุณมะเดื่อนำมาฝากกันจ้ะ
" มะงั่ว " หรือ บางคนเรียก " ส้มมะงั่ว " ที่แม่บอกว่า เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด
คุณมะเดื่อก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละจ้ะ เป็นไม้โบราณที่หาดูได้ยากแล้ว
สะตอ...เป็นช่วงฤดูที่สะตอกำลังออกฝัก มีทั้งขายเป็นกำ ๆ
กำละ ๒๐ บาท และขายเป็นกิโล ๆ ละ ๗๐ บาท คุณมะเดื่อ
ซื้อมา ๓ กิโล จะส่งไปเมืองตาก และซึ้อแบบกำ ๆ เอามาฝากแม่
กับน้อง
ผักกูด......กำละ ๕ บาทจ้ะ
จำปาดะ......มีทั้งสุก และห่าม ผลละ ๓๐ บาทจ้ะ
ทานาคา...เครื่องสำอางขึ้นชื่อของสาวพม่่า
ที่นี่มีทั้งแบบผงบรรจุถุงแบบนี้ และมีทั้งแบบขวด แบบตลับสวยหรู
หรือจะต้องการแบบเป็นไม้ท่อนบริสุทธิ์ก็มีให้เลือกตามความพอใจ
(ขอบคุณภาพจาก google )
วันนี้คุณมะเดือได้ "ขมิ้นขาว " ติดมือกลับมาปลูกที่บ้านด้วย
หามานานแล้ว แต่ไม่มีภาพมาฝากนะจ๊ะ (ลืมถ่ายภาพไว้)
จึงขอยืมภาพจาก google มาให้ชมกันไปพลาง ๆ ก่อน
เอาไว้งอกเป็นต้นแล้วจะนำภาพมาลงให้ชมกันในบันทึกจ้ะ
ขมิ้นขาวเป็นสมุนไพร ที่ใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก อร่่อยมากจ้ะ
สำหรับมิตรรักแฟนเพลงที่ผ่า่นไปสามอ่าว ก็ขอเชิญ
แวะที่ตลาดด่านสิงขรยุคใหม่ได้จ้ะ โดยเฉพาะวันเสาร์
จะมีตลาดนัดที่พ่อค้าแม่ค้าชาวเมียนมาร์จะนำของมาวางขาย
จำพวกพืชผักผลไม้ในท้องถิ่นจ้ะ
มีพลวัต
เหมือนเด็กสู่แรกหนึ่ม แรกสาว
และเป็นหนุ่มเป็นสาวเต็มตัว
.....ครับ........
หวัดดีจ้ะน้องอาจารย์แผ่นดิน คงใช่จ้ะ
วัน เวลา ผ่านไป ทุกสิ้งทุกอย่างย่อมไม่หยุดนิ่ง
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจ้ะ