การร่ายรำ : การเชื่อมโยงจักรวาล ท้องฟ้า ดวงดาว เทพเจ้า และภูติผี



การร่ายรำ : การเชื่อมโยงจักรวาล ท้องฟ้า ดวงดาว เทพเจ้า และภูติผี

โดย วาทิน ศานติ์ สันติ 11/7/2559

ในชีวิตของผมเกี่ยวพันกับการร่ายรำอยู่หลายทางเช่น สมัยที่ผรับทำงานดอกไม้บายศรีได้เห็นการรำหน้าศพ รำแก้บน ได้รู้จักคณะรำสองถึงสามคณะ รู้จักคณะสวดโซฮา ที่ใช้บทภาษาแขก? ผสมดนตรีสำเนียงแขกเพื่อให้เหล่าบรรดาร่างทรงร่ายรำกันสนุกสนาน รู้จักคณะแตรวง ได้ห็นการรำหน้านาค สมัยเล่นดนตรีไทยก็รู้จักการรำแบบละคร แบบโขน บ้านของแม่ผมอยู่จังหวัดศรีสะเกษ ก็มีโอกาศเห็นการรำรักษาโรคโดยใช้ท่ารำและไข่ในการรักษา เรียกว่า "รำผีฟ้า"

หากพิจารณาจะเห็นว่าการรำ เป็นเรื่องของพิธีกรรม รองลงมาเป็นเรื่องการเฉลิมฉลองและการแสดง จึงไม่ผิดนักที่จะกล่าวว่า การร่ายรำสัมพันธ์กับจักรวาล ท้องฟ้า ดวงดาว เทพเจ้า และภูติผี

ปกรนัมอินเดียกล่าวถึงเทพเจ้าองค์สำคัญคือพระศิวะที่มีนิสัยชอบการร่ายรำเป็นพิเศษ จนมีปางหนึ่งคือ "ศิวนาฏราช" แปลตรงตัวว่าพระศิวะคือเทพเจ้าแห่งการร่ายรำ ชาวฮินดู รวมถึงชนชาติที่รับวัฒนธรรมอินเดียมีความเชื่อว่าการร่ายรำของพระศิวะก่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบสุริยจักรวาล อีกทั้งยังทำให้เกิดการสร้างโลกและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย การร่ายรำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ระบบจักรวาลหมุนเวียนเป็นปกติ หากรำแบบรุนแรงอาจทำให้โลกแตกได้ ในงานประติมากรรมศิวนาฎราช จะแสดงพระศิวะร่ายรำโดยยกขาขึ้นมาหนึ่งข้าง มีสี่พระกร พระกรขวาด้านบนถือกลองบัณเฑาะ การสั่นให้เกิดเสียงหมายถึงการสร้างโลก พระกรซ้ายด้านบนถือเปลวไฟ หมายถึงไฟใช้เผาผลาญโลกเพื่อสร้างใหม่ มืออีกสองข้างแสดงมุทรา ส่วนการยืนบนเท้าข้างเดียวนั้นเกี่ยวข้องกับการสร้างโลกใหม่ คือพระองค์จะยืนบนแผ่นดินในมหาสมุทร พญานาคแกว่งตัวให้มหาสมุทรสะเทือน หากพระองค์ยังทรงยืนอยู่ได้ก็หมายถึงโลกที่พระองค์สร้างนั้นแข็งแรง การยืนเช่นนี้ได้กลายมาเป็นพิธีกรรมยืนชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมปวาย-ตรีปวายด้วย

การร่ายรำมีความเกี่ยวข้องกับคติความเชื่อที่สอดคล้องกับการประกอบพิธีกรรม ผู้รำจะสมมติว่าตนเองให้มีคุณลักษณะเดียวกับเทพเจ้าที่ตนนับถือ เพราะเชื่อว่าการร่ายรำจะทำให้มีพลังอำนาจของเทพเจ้า จะช่วยดึงพลังอำนาจจากเทพเจ้ามาสู่ตนเอง ผู้รำจะสวมหน้ากาก เครื่องสวมหัว ใช้ผ้าปิดหน้า หรือแต่งกายให้ตรงกับเทพเจ้าตามคติที่ตนนับถือ เพื่อให้การสมมติว่าตนเองนั้นเป็นเทพเจ้าอย่างสมบูรณ์ที่สุด รวมถึงเป็นการป้องสิ่งชั่วร้ายที่แทรกเข้ามาในการประกอบพิธีร่ายรำ การรำหรือการเคลื่อนไหวร่างกายจะเป็นการผลักดันให้เทพเจ้าเคลื่อนไหวด้วย เพื่อเป็นการขอให้อำนาจของเทพเจ้าดลบันดาลให้ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่นการเพราะปลูก การสงคราม การบ่าสัตว์ การรักษาโรค การทำนาย การส่งวิญญาณของผู้ตายให้ไปสู่สุขคติ และหากเป็นไปตามที่ประสงค์ก็จะมีการร้ายรำเพื่อขอบคุณเทพเจ้าอีกครั้ง

ในการไหว้ครูนาฎศิลป์ ผู้รำนอกจากจะบูชาครูด้วยเครื่องเส้นสังเวย ดอกไม่บายศรีแล้ว ยังมีการรำถวายมือแด่เทพเจ้า รวมถึงครูบาอาจาริยา เพื่อแสดงถึงความเคารพบูชามองตัวเป็นศิษย์ ในที่นี้หมายรวมถึง มอบตัวเป็นศิษย์ต่อครูมนุษย์ และมอบตัวเป็นศิษย์ต่อครูเทวดา จะเป็นการรำที่เรียกว่า "รำถวายมือ" ถือเป็นการรำต่อหน้าเทพเจ้าหรือเทวดา เพลงที่ใช้จะเป็นเพลงไทยชื่อว่า "เพลงช้า" และ "เพลงเร็ว" เมื่อรำถวายมือแล้วเชื่อว่าเทพเจ้าหรือเทวดาจะประธานพรให้ผู้รำสามารถเรียนรำได้ผลดี จะเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและคณะ

การรำโนราห์โรงครู เป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญของนาฎศิลป์โนราห์ที่นิยมในภาคใต้ของไทย เพื่อเชิญครูเทวดาหรือครูบรรพบุรุษของโนราห์มายังโรงพิธี เพื่อรับการเซ่นสังเวย เพื่อรับของแก้บน และเพื่อครอบเทริด (ครอบครู) ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อคณะโนราห์และนักแสดงทุกคน

คติความเชื่อเรื่องการร่ายรำที่สอดคล้องกับท้องฟ้า ดวงดาวนั้น นักคติชนวิทยาอย่าง Gertrude Jobs ได้อธิบายว่า การร่ายรำคือการเลียบแบบพระอาทิตย์ที่โคจรไปตามเส้นทางของมัน เพราะแสงอาทิตย์มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของการมีชีวิต การเกิดใหม่ รวมถึงกิจกรรมของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ซึ่งในครั้งแรกสุดกำเนิดขึ้นเพื่อการบูชาฤดูกาล ฤดูกาลจะเปลี่ยนแปลงไปตามเส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์นั่นเอง

รูปแบบของการรำเป็นวงกลม เช่นการรำรอบเสาศักดิ์สิทธิ์ หรือวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ผู้รำจะรำไปตามเส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ หากเกี่ยวข้องกับงานอัปมงคล เช่นการตาย หรือการสารภาพบาปจะรำทิศทางตรงกันข้ามกับการโคจรของดวงอาทิตย์

นอกจากนี้ยังมีการรำเพื่อบูชาสิ่งที่อยู่บนฟ้า เช่นชนพื้นเมืองที่อาศัยในแคนนาดา อะลาสกา ออริกอน แคลิฟอร์เนียรำบูชาสุริยคราส ชาวจีนและชนเผ่าหนึ่งในแอฟริกาเหนือจะมีการรำบูชาพระจันทร์ ชาวอียิปต์จะมีการร่ายรำเกี่ยวกับดวงดาว เป็นต้น

การรำยังเกี่ยวข้องกับภูติผีวิญญาณอีกด้วย เช่นการรำในพิธีศพ เมื่อมีคนตาย เจ้าภาพซึ่งมีฐานะดีจะจ้างคณะรำมารำในงานศพ ในช่วงที่พระสงฆ์พักสวดอธิธรรมยามค่ำคืน อาจจะจัดรำทุกคืนหรือคืนสุดท้ายก่อนวันเผา และจัดให้มีรำก่อนที่จะเผาศพเรียกว่า "รำหน้าไฟ" เพลงที่ใช้รำก็จะมีหลากหลายเช่นเพลงรำมอญ มโนราห์ ฉุยฉาย ตาลีกีปัส หรือรำโบราณคดี แล้วแต่ความประสงค์ของเจ้าภาพ จุดประสงค์คือต้องการให้ดวงวิญญาณผู้ตายพอใจจะได้ไปสู่สุขคติ อีกทั้งยังเป็นการลดความเศร้าโศกให้แขกผู้มาร่วมงานอีกด้วย

การรำที่เกี่ยวกับผีจริง ๆ ที่ไม่อาจกล่าวข้ามไปได้คือการรำเข้าทรงผีเพื่อทำการรักษาโรคหรือทำนายทายทักหรือหาของ เช่นการรำที่นิยมในภาคอีสานที่เรียกว่าการรำผีฟ้า

การรำผีฟ้าเป็นการรำเพื่อการรักษาทางกายและทางใจเป็นสำคัญ โดยจะเริ่มจากการตั้งเครื่องบูชาผีฟ้า หมอแคนเป่าแคน ผู้ช่วยตะกล่าวกลอนรำเชิญผีฟ้า ผู้เข้าทรงจะรำไปรอบ ๆ เครื่องบูชา เมื่อผีฟ้าลงมาเข้าสิงร่าง ผีฟ้าก็จะบอกวิธีการปฏิบัติเพื่อให้หายจากการเจ็บป่วย เช่นขับไล่วิญญาณชั่วร้ายที่เข้าสิงร่างผู้ป่วย หรือการใช้ไข่ไก่ไล้ไปตามลำตัวผู้ป่วยเพื่อให้โรคร้ายหรือสิ่งไม่ดีจากตัวผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในไข่ จากนั้นก็จะตอกไข่ให้เห็นว่าผุ้ป่วยป่วยจากสิ่งใด หรือชี้ทางหาสิ่งของที่ตามหา หรือทำนายทายทักต่าง ๆ จากนั้นก็รำเพื่อส่งผีฟ้ากลับขึ้นไปยังเมืองฟ้า

ในสังคมล่าสัตว์จะมีการรำเพื่อเลียนแบบท่าทางของสัตว์ตัวนั้น เพื่อเป็นการบอกกล่าวภูติผีหรือดวงวิญญาณที่เกี่ยวกับสัตว์ตัวนั้น หรือบรรเทาความโกรธแค้นจากวิญญาณสัตว์ที่ถูกล่า ต่อมาพัฒนากลายเป็นการแสดงที่เลียนท่าทางของสัตว์เช่นระบำนก ระบำไก่ ระบำควาย รำบำกวาง อย่างโขนไทยที่มีท่าทางแบบลิงเป็นต้น

การร่ายรำยังเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของมนุษย์มากมายเช่น การแสดงความรื่นเริงในงานเฉลิมฉลองพิธีกรรมผ่านภาวะ ฉลองการเก็บเกี่ยวผลผลิต การแสดงความพร้อมความฮึกเหิมในสงคราม ฉลองชัยชนะ การเกี้ยวพาราสี การรวมกลุ่มทางสังคมเพื่อปะทะสังสรรค์ การพักผ่อนหย่อนใจ การฝึกรำยังเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความอดทน การออกกำลังกาย และท้ายที่สุดยังสามารถต่อยอดให้เป็นอาชีพได้อีกด้วย

หนังสือประกอบการเขียน

เสาวลักษณ์ อนันศานต์. (2543). ทฤษฎีคติชนวิทยาและการศึกษา. กรุงเทพฯ : รามคำแหง.

วัฒนธรรมภาคใต้. โนราห์โรงครู. (ม.ป.ป.). สื่อออนไลน์. https://sites.google.com/site/wathnthrrmphakhti/khwam-cheuxm-no-rah-rong-khr. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2559.

wikipedia.org. Nataraja (ม.ป.ป.). สื่อออนไลน์. https://en.m.wikipedia.org/wiki/Nataraja. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2559.

หมายเลขบันทึก: 610564เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2016 06:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กรกฎาคม 2016 06:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เขียนได้เข้าใจง่ายดี ผมอยู่พื้นที่ชุมชนตลอดก็เห็นปรากฏการณ์เหล่านี้ ขอแชร์บล็อกในเฟสบุ๊คผมนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท