ผลจากความตั้งใจและทุ่มเทแรงกายแรงใจนี่เอง ทำให้เรื่องผ่านไปถึงส่วนจังหวัดและไปถึงส่วนกลางในที่สุด และมีบางส่วนก็ได้รับการอนุมัติให้สถานะแล้ว
จากที่ได้คุยกับป้าบัวและคนในชุมชนบางกลุ่ม พวกเขาก็เห็นเห็นด้วยว่ามีความสำคัญยิ่งที่จะมีทีมงานเข้าไปในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้กฎหมายและเกี่ยวกับสิทธิของตัวเองที่พวกเขาควรจะได้รับรู้บ้าง แทนที่จะชุมชนจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ด้วยการที่เยาวชนไม่ได้เรียนหนังสือแล้วไปทำงานรับจ้างทั่วไป ซึ่งทำให้ปัญหาต่างๆนั้นตามมาอีกมากมาย และควรจะทำให้วงจรหรือวัฏจักรของการไม่มีสัญชาติไทยนั้นมีเรื่อยๆจากรุ่นสู่รุ่น แม้ว่ารุ่นปู่ ย่า ตา ยาย จะปลกได้กับการไม่มี แต่ก็เห็นว่า รุ่นลูกหลานต่อไปนั้นควนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะเริ่มแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ “ว่าทำไมถึงไม่ได้สัญชาติไทย” ทั้งๆ ที่มีบรรพบุรุษอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทยมาไม่น้อยกว่า 30-40 ปีแล้ว แม้ป้าบัวจะทำเรื่องนี้มาตลอด ก็ยังไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายของสัญชาติเท่าไรนัก ป้าบัวหยิบทะเบียนปะวัติและสูติบัตรของชายมาให้ดู พบว่าเลขปะจำตัว 13 หลักของลูกชายนั้น เดิมขึ้นต้นด้วย เลข 7 ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุตรของบุคคลของคนเลข 6 ซึ่งเกิดในปะเทศไทย ถูกขีดทิ้งแล้วมีการให้เลขใหม่ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 6 เหมือนป้าบัว ที่ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเหมือนกัน ปัญหานี่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะลูกของป้าบัว ยังพบว่าหลายครอบครัวก็เจอปัญหาเดียวกัน แต่พวกเขาไม่รู้ว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร และไม่รู้ว่า ปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาคืออะไร และข้าพเจ้าก็คิดว่า ปัญหาที่เกิดจากความไม่รู้นี่เอง น่าจะเป็นที่มาของปัญหาที่ตามมาเกือบทั้งหมด------------------------------------------------------------
เขียนดีจ๊ะ
จะเป็นทนายความที่ดี เพราะคิดเป็น แต่ต้องฝึกฝน
ขอบคุณคะ ยังต้องฝึกอีกเยอะมากคะ