เรื่องของ “ขัน”


เรื่องนี้ถูกนำไปเล่าต่อ...แบบปากต่อปาก...เขาลือกันว่า ทันตแพทย์แน่กว่าหมอกระดูก..... หมอผ่าตัดสมองได้ยินในห้องอาหาร...ไม่ยอม...นัยว่าคงจะอิจฉา...

         วันนั้นฉันดมยาสลบผู้ป่วยที่ทำผ่าตัดกระดูกสันหลัง  เนื่องจากมีการกดทับปลายเส้นประสาทจนทำให้มีอาการปวดหลังและขามาก...         

         หลังจากดมยาสลบแล้วจัดท่าเป็นท่าคว่ำแล้ว  แพทย์ผ่าตัดก็ทยอยกันล้างมือ (เขาเรียก scrub มือเพื่อป้องกันการติดเชื้อจากมือแพทย์)  ใช้แพทย์ผ่าตัดและผู้ช่วยประมาณ 4 คน          

        เมื่อไม่มีอะไรต้องเครียดในช่วงนี้เพราะเป็นเพียงขั้นตอนการฟอกทำความสะอาดแผ่นหลังผู้ป่วย           .

        ...มิตรภาพ...สัมพันธภาพที่ดีในทีมก็เริ่มขึ้น...          

        ดยวิสัญญีแพทย์เริ่มก่อน (ก็ตัวไม่มีอะไรตื่นเต้นแล้วนี่ ..รอเขาลงมีดผ่าตัด)   

       อาจารย์ต่างชวนกันพูดคุยสารพัดเรื่อง...ฉันไม่ได้ฟังเพราะฉันต้องเก็บของหลังการเริ่มดมยาสลบ...คอยเฝ้าระวังผู้ป่วย...แล้วบันทึก...         

       ได้ยินอีกทีเมื่อเขาถามกันว่า

      เอ...ทำไมเวลาเขาจะสู่ขอกันต้องยกขันหมากนะ...

     เพราะคนแก่สมัยก่อนกินหมากเหรอ

     ทำไมไม่ยกขัน 5...

     อ้าว...ขัน 5 เขาเอาไว้ขอขมาไม่ใช่เหรอ

     ขัน 5 เขาเอาไว้แก้บน....  เสียงถกเถียงกัน....จนฉันก็จำไม่ได้ว่าเสียงใครเป็นใคร

      …. ขณะนั้น แพทย์ผ่าตัดท่านหนึ่งเดินออกมาหลังจากการฟอกมือ   ใส่เสื้อกาวน์....แล้วพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน...ได้ยินแต่เสียงของพยาบาลที่ผูกเสื้อกาวน์ให้หัวเราะแล้วพูดว่า

       คิดได้ไงเนี่ย...อย่างนี้ต้องพูดให้คนอื่นฟังด้วย

     อะไรเหรอ... พวกเรารุมถามกัน

       ก็เมื่อกี๊..เราพูดกันว่า ขัน 5 เขาเอาไว้แก้บน....

     “ขัน 8  เขาเอาไว้แก้ล่าง....  แพทย์ผ่าตัดท่านนั้นต่อ....เสียงฮากันลั่น....นรกจะถามหากันแล้วไหมล่ะ..เล่นอะไรกันเนี่ย...ฉันก็ด้วย...

        วันนั้นเราทุกคนทำงานอย่างมีความสุข

        เท่านั้นยังไม่พอกับความประทับใจของทีมงาน       

       วันต่อมา...ห้องผ่าตัดเดิม...พยาบาลห้องผ่าตัดทีมเดิม...ทีมดมยาทีมเดิม..เอาเรื่องเดิมมาเล่าให้ทีมทันตแพทย์ฟัง (หลังจากผู้ป่วยสลบแล้ว)...ด้วยความประทับใจยิ่ง

     ...ถ้าไม่ขันซิครับ...มีปัญหา.. ทันตแพทย์ท่านแรกว่าหลังจากฟังเสียงฮา(อีก)จบ...ท่านหมายถึงท่านเลี้ยงไก่แจ้น่ารัก...มันต้องขันทุกเช้า...ตอนนี้มันป่วย....กลัวมันจะตาย  

    “....จุ๊กกรู.......จุ๊กกรู..... ทันตแพทย์อีกท่านส่งเสียงต่อ...(ท่านนี้เป็นคนสุภาพเรียบร้อยที่สุดในทีม) ท่านบอกว่าท่านเลี้ยงนกเขา...มันจะขันทุกเช้า...ให้ท่านฟัง      

        เรื่องนี้ถูกนำไปเล่าต่อ...แบบปากต่อปาก...เขาลือกันว่า ทันตแพทย์แน่กว่าหมอกระดูก..... หมอผ่าตัดสมองได้ยินในห้องอาหาร...ไม่ยอม...นัยว่าคงจะอิจฉา...จึงพูดขึ้นว่าผมมีแต่...ขันผสม Bone cement”...แล้วเสียงฮาลั่นห้องก็ตามมา(อีกยก)

               ....ไม่มีใครยอมใคร... 

    “ BONE CEMENT หรือ ซีเมนต์กระดูก มีชื่อทางเคมีว่า polymethylmethacrylate (PMMA)  ได้ถูกนำมาใช้ในวงการแพทย์ โดยเป็นวัสดุที่ใช้ในการเติมเต็มโพรงกระดูก สมบัติความแข็งของซีเมนต์ใช้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอวัยวะในร่างกายของเรา รวมทั้งทำหน้าที่ยึดข้อเทียมให้อยู่ในโพรงกระดูกได้อย่างตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ

     หมอกระดูกก็ใช้...หมอฟันก็ใช้...หมอผ่าตัดสมองก็ใช้

      ทุกหมอมีประสบการณ์การใช้ขันผสม BONE CEMENT กันทั้งนั้น...

            .......ไม่มีใครแพ้ใครจริงๆ...... 
คำสำคัญ (Tags): #joke
หมายเลขบันทึก: 60940เขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2006 22:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • เยี่ยมเลยครับ
  • สนุกดี แต่ละสาขามีเรื่องเล่าสนุกดี
  • เหมือนนักเรียนที่เรียนภาษาอังกฤาอ่าน the boy ว่า ทะฮีบอย allow อ่าน แอโร ขำ ขำดีครับ
  • เขียนอีกนะครับ สนุกดี

สวัสดีครับ

  • สนุกดีครับ
  • แล้วจะมาอ่านบ่อยๆครับ

สวัสดีค่ะ  คุณขจิต

  • ขอบคุณค่ะที่ตามมาอ่านจนได้...ถ้าไม่มีลูกยุเมื่อวาน..คงไม่กล้า...(ทั้งๆที่อยากจะเล่าแทบแย่...)
  • ขอบคุณที่มีเรื่องแจม..แม้เพียงเล็กๆ..ฉันก็ฮาแล้วค่ะ

                                แล้วพบกันใหม่ค่ะ

     

สวัสดีค่ะ  คุณ Mr Jod

  • ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจ

อยากจะเล่าเรื่อง "ขันกว่า" แต่ต้องเล่าหลังไมค์ครับ

  • แวะมาทักทายและอยากให้เขียนอีก
  • สนุกดีครับ
  • เป็นเรื่องการทำงาน เรื่องของโรงพยาบาล วันก่อนไปกับท่านอาจารย์หมอ JJ พบว่าใหญ่มาก
  • แวะไปที่
  • ถาม นาง กฤษณา สำเร็จ นะครับ
  • มาให้กำลังใจครับพี่กฤษณา

 เรียน ท่านไชยยงค์

  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาให้กำลังใจ

เรียน คุณขจิต ค่ะ

  • ขอบคุณจริงๆสำหรับมิตรไมตรีที่มีให้ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท