น้ำกัดกร่อน


ตอนนี้ก็เป็นระยะเวลา 2 เดือนเเล้วที่ได้ย้ายออกมาจากหอพักนักศึกษา
เป็น 2 เดือนที่ได้ไปฝึกสอนในโรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ ช้างคลาน

ความรู้สึกต่าง ๆ ประดังเข้ามายิ่งกว่าตอนอยู่ในหอใน จากที่ต้องใส่ใจแค่ความรู้สึกของเพื่อน อาจารย์ ครอบครัว ตอนนี้มันเพิ่มมาอีก ทั้งเพื่อนร่วมงาน คณะครูที่โรงเรียน บุคลากรในโรงเรียน ผู้ปกครอง และที่สำคัญก็คือ เจ้าตัวน้อยทั้งหลายที่เรียกเราว่า คุณครู

เพราะมีคนที่เกี่ยวข้องกับเรามากขึ้น
ความมั่งคงเเข็งเเรงของหัวใจก็ต้องเพิ่มขึ้นตาม

ความเป็นครูในตัวมันมีขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่คงที่
หากพบกับปัจจัยที่ทำให้มันลด มันก็จะลด เด็กนักเรียนบอกไม่ชอบเรา ผู้ปกครองตำหนิมาเรื่องการบ้าน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันเป็นดังมีดที่มาทิ่มแทงเพื่อทดสอบความเข้มเเข็งของจิตใจเรา ก้อนหินโดนน้ำเซาะทุกวันยังรู้จักกร่อน มันก็คงไม่เเปลกถ้าหัวใจของเราจะกร่อนบ้าง

แล้วสิ่งที่เราต้องทำคืออะไร ?

คำถามนี้เกิดขึ้นมาในจิตใจทุกวัน และก็มีคำตอบให้ตัวเองทุกวัน นำไปลองทุกอย่าง และจะลองทำต่อไป ถึงเเม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันยังไม่ประสบความสำเร็จเลยสักคำตอบ เมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้น้ำกัดกร่อนก้อนหิน เราก็ต้องใช้วิธีนี้บ้าง เราต้องเป้นฝ่ายกัดกร่อนใจของนักเรียนก่อน

ไม่ใช่การกัดกร่อนที่ทำลาย แต่เป็นการกัดกร่อนให้หินหรือใจก้อนนั้นสวยงาม อาจจะต้องกัดกร่อนทั้งทางบวกและทางลบ แต่ที่เราจะทำทั้งหมด ก็เพื่อเจ้าตัวน้อย ที่นั่งเรียนในห้อง

เป็นครูมันไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ จริง ๆ มันต้องใช้ทั้งกาย ใจ สมอง ความรู้สึก จิตวิญญาณ และอีกหลาย ๆ องค์ประกอบ
คนเก่งอาจจะเป็นครูได้ไม่ดีเท่าคนที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู เพราะความเป็นครูใช้ใจมากกว่าใช้สมอง ถ้าใจไม่อยากทำ สมองก็ไม่อยากคิดอะไร ถึงแม้จะมีคำตอบอยู่ในหัวเป็นร้อยแปดพันเก้า ก็อาจจะตอบคำถามเพียงข้อเดียวนั้นไม่ได้ แต่ถ้ามีใจเราอาจจะมีคำตอบแค่คำตอบเดียว แต่เป็นคำตอบที่ตอบคำถามนั้นได้เป็นอย่างดี

บุญรักษา คุณครูที่ใช้ใจเป็นครูทุกท่านค่ะ

หนูยังตอบไม่ได้เหมือนกันว่าตอนนี้หนูใช้สมองหรือหัวใจในการทำงาน แต่ขณะพิมพ์อยู่นี้ ก็ได้คำตอบว่ามันไม่ได้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องใช้ทั้งสองอย่างในการเป็นครู แต่เราต้องรู้และจัดการว่าจะใช้ทั้งสองอย่างอย่างไรให้พอดี


หมายเลขบันทึก: 609109เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2016 06:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2016 06:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เป็นครูมันไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ จริง ๆ มันต้องใช้ทั้งกาย ใจ สมอง ความรู้สึก จิตวิญญาณ และอีกหลาย ๆ องค์ประกอบ.....ใช่เลยค่ะ ถ้าอยู่แต่ในห้องเรียนจะไม่มีวันจะรู้ซึ้ง

เชื่อมั่นในความดีงามที่ตัวเองทำ
และไม่ต้องคาดหวังผลสำเร็จ
ที่อยากให้เกิดตามที่ตัวเองตั้งใจ

กล้วยไม้กว่าจะบาน
ใช้เวลานานแค่ไหน
ก็ไม่ต่างกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท