วันที่ 20 เยี่ยมบ้านนักเรียน (10 มิถุนายน 2559)


สวัสดีวันศุกร์ วันศุกร์แล้วหรอเนี่ย.....เร็วจัง

รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ หรืออาจจะเป็นเพราะว่างานที่ยังคงค้างอยู่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เลยทำอะไรไม่ทัน ทำให้รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเกินไป.......ตื่นเช้ามาโรงเรียนตามปกติ พอมาถึงโรงเรียนก็ทำเหมือนปกติทุกวััน คือ คุมนักเรียนทำเวร จากนั้นก็เข้าแถวทำกิจกรมหน้าเสาธงต่อเหมือนปกติที่ทำในทุกวัน

  • วันศุกร์แล้ว สู้ตายค่ะ ^^........นักเรียนของครูหญิง

  • วันนี้เสนอคำว่า "คุณครู" English "Teacher"
ครั้งแรก กับหน้าที่ใหม่ "เยี่ยมบ้านนักเรียน"

เช้านี้ได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่จากครูเตือนใจในการไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ทำหน้าที่เป็นครูจริงๆ เพราะครูเตือนใจก็ไปกับนักเรียนอีกชุดหนึ่ง ที่ฉันได้ทำหน้าที่นี้เพราะว่าเวลาในการเยี่ยมบ้านนักเรียนมีน้อย ถ้าครูเตือนใจจะไปคนเดียวหมดคงไม่ทัน เพราะนักเรียนมีหลายคน เลยต้องมอบหมายหน้าที่ให้ฉันพานักเรียนไปบางส่วน เช้านี้ไม่มีชั่วโมงสอน 2 ชั่วโมงแรก เลยทำหน้าที่ในการเยี่ยมบ้านนักเรียน โดยการพานักเรียนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ไป เช้านี้ได้อยู่ 3 หลัง ก็ต้องรีบมาสอนนักเรียนต่อ ไม่น่าเชื่ออีกละว่าจะได้ไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ไปถามผู้ปกครอง พูดคุยด้วย ดีใจที่ผู้ปกครองมองว่าเราเป็นครูจริงๆ พูดทุกอย่างที่ถามเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของนักเรียน ผู้ปกครองเล่าหมด และมีทิ้งท้ายในการฝากดูแลนักเรียนให้ด้วย รู้สึกดียังไงไม่รู้บอกไม่ถูก และอีกอย่าทำให้รู้ว่านักเรียนที่เราสอนมีภูมิฐานเป็นยังไง นักเรียนที่พาไปวันนี้ก็เรียนกับฉันด้วย รู้เลยบางคนทำอะไร เช่น มีนักเรียนหลับในห้องตอนฉันสอน พอไปเยี่ยมบ้านวันนี้ รู้เหตุผลเลยว่าทำไมถึงมาหลับในห้องเรียน เพราะตอนกลางคืนเล่นเกม นอนดึก นักเรียนจะมีนิสัยที่คลายๆกัน คือเวลาแม่ว่าจะไม่ฟัง จะไม่เชื่อ นั้นคือเหตุผลที่ผู้ปกครองฝากครูดูแล หลังจากไปบ้านนักเรียนมาแล้ว ฟังที่ผู้ปกครองพูด ก็เอามาเล่าให้ครูเตือนใจฟังอีกที เพื่อให้ครูเตือนใจได้รู้ว่านักเรียนคนไหนเป็นยังไง

ขอบคุณหน้าที่ใหม่ที่ครูมอบหมาย เพราะทำให้ได้ทำหน้าที่ครูเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพราะการเยี่ยมบ้านนักเรียนถือเป็นหน้าที่หลักของครูอีกหนึ่งอย่าง นอกจากมีหน้าที่สอนหนังสือแล้ว ก็ต้องมีหน้าที่ในการดูแลนักเรียนอีกด้วย การที่ครูไปเยี่ยมบ้านจะได้รู้ว่านักเรียนคนไหนเป็นแบบไหน และต้องช่วยเหลือยังไง ด้านไหน เพราะนักเรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน สภาพทางบ้านก็แตกต่างกันออกไป การไปเยี่ยมบ้านทำให้ครูรู้จักนักเรียนมากขึ้น


  • สวัสดีค่ะคุณครู..........คุณยายของเด็กชายวสินธิ์ุ รู้สึกก้าวมาอีก 1 ขั้้น :)

  • ก่อนกลับ มีผัดเห็ดถอบมาให้ด้วย บอกว่า ครูเอาไปลองชิมฝีมือยายดูนะค่ะ ใจดีอีกต่างหาก ^^

  • คนที่ 2 บ้านเด็กชายปัทวี....คุณน้าของนักเรียน

  • หลังสุดท้าย หลังที่ 3 เด็กชายนพวิทย์ คุยกับคุณแม่นานมาก คุยเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปที่เกี่ยวกับนักเรียน และถามว่าอยากจะให้ช่วยเหลืออะไร และคุณแม่ทิ้งท้ายฝากครูดูแล :)

1 คำพูด รู้สึกตัวเองโตขึ้นมาอีก 1 ขั้น

ขอบคุณผู้ปกครองที่มองว่าเป็นครู

ขอบคุณผู้ปกครองที่ไว้ใจฝากนักเรียนให้ดูแล

ขอบคุณครูเตือนใจกับหน้าที่ใหม่ ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง


หลังจากไปเยี่ยมบ้านนักเรียนมา ก็มาสอนวิชาวิทยาศาสตร์ป.5/1 ทบทวนเรื่องเดิม และเปิดวีดีทัศน์ให้ดู สอนนักเรียนในช่วงเช้ารู้สึกว่าจะดีกว่าสอนในช่วงบ่าย เพราะนักเรียนจะมีสมาธิและตั้งใจเรียนมากกว่า ระหว่างสอนไป ก็มีนักเรียนมาบอกว่านักเรียนชั้นป.4 ผีเข้า อื้อหื้อ เรื่องแบบนี้ก็มีด้วย นักเรียนก็อยากไปดู ครูก็อยากไปดู แต่ไม่ให้ใครออกห้องเลย ถ้าใครทำงานเสร็จครูถึงจะให้ออก ด้วยความอยากรู้ ก็รีบตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันใหญ่เลย เงียบขึ้นมาทันได พอหมดชั่วโมงนักเรียนส่งงานครบทุกคน ก็ลงไปดู ก็แปลกจริง ไม่เคยเห็นมาก่อน ครูบางคนก็บอกว่าเชื่อ บางคนก็บอกว่าไม่เชื่อ สำหรับฉัน เชื่อนะ เพราะเด็กคนนี้ปกติจะไม่ค่อยพูด แต่วันนี้พูดเยอะเลย แปลกแต่จริง เฮ้อ โรงเรียนนี้มีอะไรหลายอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นแต่ก็เกิดขึ้น ขนลุกกันเลยทีเดียว....

  • รีบทำๆ หนูอยากเห็น.....จ่ะเด็ก อยากรู้อยากเห็น!

ตอนบ่ายสอนวิทยาศาสตร์ชั้นป.5/2 ซึ่งเป็นช่วงบ่าย เป็นคาบสอนสุดท้ายที่นักเรียนจะนั่งเรียน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ควบคุมชั้นเรียนได้ยากที่สุด นักเรียนไม่อยากฟัง และสิ่งที่รบกวนอีกอย่างในวันนี้ คือนักเรียนห้องข้าง ครูไม่อยู่ สอนไม่ได้เลย ออกมากวน มายืนเต็มประตูหน้าห้อง นักเรียนในห้องก็ไม่มีสามธิที่จะเรียน นักเรียนยิ่งไม่อยากรับอะไรแล้ว อยากออกไปข้างนอก ไปเล่น และกลับบ้าน ถือว่าควบคุมชั้นเรียนได้ยากจริงๆ

สอนนักเรียนโดยใช้วิดีทัศน์ นักเรียนตั้งใจดู และมีอุปกรณ์มาช่วยให้นักเรียนสนใจ คือแว่นขยาย ถือเป็นตัวช่วยได้ดี ที่สามารถบอกให้นักเรียนเงียบได้ โดยการนำมาเป็นข้อกำหนดว่า ถ้าใครเสียงดัง ครูจะไม่ให้ใช้แว่นขยาย นักเรียนก็เงียบ

  • เรียนรู้ด้วยการใช้ของจริง ดูและสัมผัสเอง เพื่อเกิดการเรียนรู้ที่แท้จริง มากกว่าการดูรูปหรือสื่ออื่นๆ ที่ไม่ได้สัมผัส

  • ก่อนกลับบ้าน ครูผมขอดูอีกที อยากเห็นอีก ชอบๆ นักเรียนบอก^^

หลังเลิกเรียนได้รับหน้าที่ทำบอร์ดต่อ ซึ่งมีนักเรียน 2 คนมาช่วยทำ นักเรียนคนหนึ่งเป็น พม่า แต่เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาก ทำงานดีมาก สังเกตได้จากที่เข้าไปสอนในทุกคาบ เด็กคนนี้จะตั้งใจฟัง และจดทุกคำ ตัวหนังสือดี งานเรียบร้อย และเป็นเด็กดีมาก พูดเพราะ ชอบมากเลยนักเรียนแบบนี้ อยากได้นักเรียนแบบนี้หลายๆคน ^^

จากการสังเกตมาโดยตลอด จะรู้สึกว่านักเรียนที่เป็นไทยใหญ๋ หรือพม่า จะตั้งใจเรียน ขยันมากกว่านักเรียนไทยซะอีก นักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนนี้จะเป็นพม่า ไทยใหญ่ อยู่จำนวนมาก เพราะโรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในชุมชนที่มีโรงงานหลายโรง คนมาทำงานก็มาจากที่อื่น ก็พาลูกมาเรียนด้วย

สมัยก่อน ตอนที่ฉันอยู่บ้าน ตอนเป็นเด็กไม่เคยรู้เลยว่าจะมีเด็กพม่ามาเรียนด้วย แต่ตอนนี้หลังจากไปมาหลายโรงเรียน รู้เลยว่าปัจจุบันเราสอนเด็กพม่าหลายคนมาก ยิ่งนานเข้า จำนวนยิ่งเพืิ่มมากขึ้น การศึกษาทุกคนมีสิทธิเรียน ในเมื่อเขาต้องการเรียนเขาเข้ามาอยู่ในประเทศของเรา เราเป็นครูก็ต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด นักเรียนจะเป็นใครมาจากไหน ก็ต้องให้ความรู้ ถ่ายทอดสิ่งดีๆ ให้เท่าเทียมกัน......

  • ช่วยกันจัดบอร์ด เย็นแล้วก็แอบกลัวนิดๆกับเหตุการณ์เมื่อเช้า ขนลุก...เรื่องที่มองไม่เห็น

#ครู ทำหน้าที่หลายอย่าง#

#ครูที่ดี ต้องใส่ใจนักเรียนทุกคน#

#จะก้าวไปอีกหลายๆขั้น เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพื่อการเป็นครูที่ดี ^^#

หมายเลขบันทึก: 608192เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2016 18:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2016 18:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท